ข่าว

ปัตตานีโดนป่วนอีก!ยิงทหารดับ2

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธเอ็ม 16 กราดยิงทหารพรานที่ปัตตานี ขณะลาดตระเวนเสียชีวิต 2 นาย อีกที่ยิงชาวบ้านขณะกรีดยางที่รือเสาะดับ1 ด้านสมช.รับเหตุป่วนใต้สัมพันธ์เจรจา

                 เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 28 พ.ค. 2556 พ.ต.อ.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผกก.สภ.แม่ลาน ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัด ร้อย ทพ.2207 ฉก.ทพ.22 จำนวน 6 นาย บริเวณวงเวียนใต้สะพาน ถนน 418 ปัตตานี-ยะลา บ้านลุตง ม.6 ต.แม่ลาน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ขณะที่ เจ้าหน้าที่ทหารพราน ใช้รถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน ลาดตระเวณรักษาความปลอดภัย ทำให้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 นาย ประกอบด้วย ส.ต.รณวิทย์ สิงห์สาย อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 ม.2 ต.ห้วยแก้ว อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร และ อส.ทพ.เกรียงศักดิ์ ธูปพุทรา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 252 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 ถูกบริเวณลำตัวหลายนัด นอกจากนั้นพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีแดง ของทหารพรานจอดอยู่

                จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัด ร้อย ทพ.2207 ฉก.ทพ.22 ทั้งหมด 6 นาย กำลังออกลาดตระเวนนอกฐานปฏิบัติการ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ซุ่มยิง จนเกิดการยิงปะทะกันคนร้ายได้ล่าถอยไป

                หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และกำลังตำรวจ ทหาร รุดไปตรวจสอบ เก็บปลอกกระสุนปืนเอ็ม16 สิบกว่าปลอกตกอยู่ใต้สะพาน ส่วนบนสะพานไม่พบปลอกกระสุน

                นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว อส.ทพ.สราวุธ คำพันธ์ 1 ใน 4 ที่รอดชีวิต เนื่องจากหลังจากที่เกิดเหตุ ดต.สุวชัย คำนุ้ย ผบ.หมู่ ป.สภ.แม่ลาน ได้ขับรถจักรยานยนต์ผ่านที่เกิดเหตุ เพื่อจะไปรับภรรยาไปอ.หาดใหญ่ อส.ทพ.สราวุธ ได้พยายามขออาศัยรถจักรยานยนต์ไปด้วย และในเบื้องต้นให้การกับเจ้าหน้าที่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดวกไปวนมา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.แม่ลาน ขณะเดียวกัน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ขออาวุธปืนจากทหารพรานทั้ง 6 นาย เพื่อตรวจสอบเขม่าดินปืนและตรวจสอบจากสาเหตุอะไร ขณะนี้สอบสวนของตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวน


          

 

ยิงชาวบ้านรือเสาะดับในสวนยาง

 

            เมื่อเวลา 06.50 น.  ร.ต.ท.มารุจ นิลโกศรี ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดในสวนยางพารา ม.4 บ.รือเสาะ ต.รือเสาะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.รือเสาะ พ.ท.สฐิรพงษ์ อาจหาญ ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 นายศศิพงศ์ ชูเชิด ปลัด อ.รือเสาะ ร.ต.ต.แซน วรงคไพสิฐ รองสารวัตรชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส และกองวิทยาการ จ.นราธิวาส กำลังตำรวจทหารและฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
             
           ทั้งนี้ พบศพผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าอยู่ภายในสวนยางพารา ในสภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.เข้าที่หน้าอก 2 นัดและโคนขาอีก 1 นัด ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ตกอยู่จำนวน 3 ปลอกพร้อมกองเลือดจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
             
          จากการสอบสวน นายมะ ดอมิง เพื่อนบ้านที่กรีดยางอยู่ในสวนใกล้กันทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเดินทางออกจากบ้านพักเพื่อไปกรีดยางพาราในสวนยางพาราจุดเกิดเหตุ และในขณะที่กำลังกรีดยางอยู่นั้นได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่ในป่าได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ผู้ตายจำนวน 3 นัด จนผู้ตายล้มทั้งยืนและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของผู้ไม่หวังดีในพื้นที่

 

 

 

"ภราดร" รับเหตุป่วนใต้สัมพันธ์การเจรจา

 

               พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกลุ่มก่อความไม่สงบออกมาก่อเหตุบ่อยครั้ง จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า จะมีความความสัมพันธ์กับการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ว่า ความสัมพันธ์ก็คงจะต้องมี แต่ยืนยันว่า เหตุที่เกิดยังผสมผสานระหว่างการก่อเหตุของกลุ่มขบวนการหลัก กลุ่มขบวนการย่อย และภัยแทรกซ้อน ขณะเดียวกันเจตนามันมีความสัมพันธ์ไปยังกระบวนการการพูดคุย เพื่อไม่ให้เกิดการพูดคุยที่จะสานต่อไป เพราะการพูดคุยจะค่อยๆ ปรากฏข้อเท็จจริงว่า พวกไหนกันแน่ที่สร้างความรุนแรง ซึ่งยืนยันว่า รัฐไทยไม่ให้ความรุนแรง ยังแก้ปัญหาโดยสันติวิธี ทั้งนี้ตามรูปแบบเป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายก่อเหตุความรุนแรงจะยกระดับให้เป็นเงื่อนไข เพื่อชิงความได้เปรียบ

                “เรามีการสื่อสารกันในระดับหนึ่ง ซึ่งเขาก็ยอมรับมาในระดับหนึ่งว่ายังมีพวกของเขาบางส่วนที่ไม่สามารถที่จะสื่อสารทำความเข้าใจในการก่อเหตุความรุนแรงได้ แต่ตอนนี้เขามีความพยายามที่จะทำให้อยู่ โดยการพูดคุยกันในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ เราจะไปรับรู้ข้อเท็จจริง ส่วนสาเหตุเบื้องต้นที่ยังกลุ่มบีอาร์เอ็นยังควบคุมคนไม่ได้ เพราะเขามีพวกใหญ่หลายพวก และยังมีพวกที่เกิดใหม่ขึ้นมา ซึ่งค่อนข้างที่จะมีหัวรุนแรง และเชื่อมั่นว่าการใช้ความรุนแรงจะเอาชนะรัฐไทยได้ โดยกลุ่มหัวรุนแรงเป็นกลุ่มไหน เป็นภาระของบีอาร์เอ็นที่จะหาคำตอบให้เรา” พล.ท.ภราดร กล่าว

               เมื่อถามว่า ในพื้นที่ที่ประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคง แต่ยังมีการก่อเหตุความรุนแรง จะมีการทบทวนให้กลับไปใช้ พรก.ฉุกเฉินหรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ตอนนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ประเมินแล้วว่ายังไม่ต้องยกระดับจาก พรบ.ความมั่นคง มาเป็น พรก.ฉุกเฉิน เมื่อถามว่า การยกเลิกการบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉินเพิ่มเติมในบางพื้นที่ยังเป็นไปได้ยากใช่หรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ ซึ่งครบอายุการบังคับใช้พรก.ฉุกเฉิน จะมีการพิจารณาในเรื่องนี้มาพิจารณา ซึ่งจะมีพื้นที่ที่จะออกจาก พรก.ฉุกเฉินจะมีเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ยังต้องดูในเชิงสถิติและเหตุผล ซึ่งกอ.รมน.กำลังประเมินให้อยู่

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ