ข่าว

กัญชาและสมุนไพร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2562

 

 

          องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้ส่งมอบสารสกัดน้ำมันกัญชาทางการแพทย์ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยลอตแรกที่ผลิตมี 3 สูตร รวม 6,500 ขวด ซึ่งจะได้ส่งต่อไปยังกรมการแพทย์เพื่อนำไปให้ผู้ป่วยที่ลงทะเบียนตามระบบ โดยจะใช้กับผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการวิจัยกัญชาทางการแพทย์ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ซึ่งในเบื้องต้นจะใช้กับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายก่อน เพื่อสร้างมาตรฐานการใช้งานให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ หลังจากนั้นจะขยายผลไปวิจัยในผู้ป่วยมะเร็งกลุ่มอื่นๆ ตามลำดับ ขณะที่ในอีกด้านหนึ่งก็มีข่าวว่ากระทรวงสาธารณสุขจะมอบหมายให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เป็นผู้แจกจ่ายน้ำมันกัญชา ซึ่งก็มีข้อท้วงติงว่าควรเป็นหน้าที่ของเภสัชกร

 


          ขณะที่กรรมการควบคุมสารเสพติดระหว่างประเทศออกมาทักท้วงว่าการใช้ประโยชน์จากกัญชาอาจจะเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติด 1961 ซึ่งอาจจะถูกมาตรการลงโทษ เช่นไม่สามารถนำเข้ายาที่อยู่ภายใต้อนุสัญญา จะส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ได้ถูกแพทย์และนักวิชาการออกมาตอบโต้ในทันทีว่าเป็นเพียงคำขู่ไม่ให้ประเทศไทยได้ใช้ประโยชน์จากกัญชา เพราะเจตนารมณ์อนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติด 1961 จะให้ประเทศภาคีเข้าถึงกัญชาเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ได้ตามมาตรา 14 วรรค 1 ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าวสามารถหารือกับประเทศที่จะใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้ หากตกลงกันไม่ได้ก็จะขอความเห็นจากประเทศภาคีสุดท้ายก็อาจจะไม่ตกลงตามคณะกรรมการที่กล่าวอ้างมาก็ได้


          แม้จะมีเสียงสนับสนุนจากหลายฝ่าย สำหรับงานวิจัยสารสกัดน้ำมันกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ แต่ก็มีเสียงท้วงติงอยู่บ้าง โดยสรุปก็คือข้อห่วงใยเรื่องการใช้อย่างถูกวิธีและขอบเขตการใช้ที่ต้องเป็นไปเพื่อการแพทย์เท่านั้น ไม่อาจก้าวข้ามไปสู่กัญชาเสรี หรือไปไกลถึงขนาดใช้เพื่อสันทนาการได้ กล่าวสำหรับการใช้ทางการแพทย์ซึ่งอยู่ระหว่างการทดลอง กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมการแพทย์และองค์การเภสัชกรรมก็ต้องควบคุมอย่างใกล้ชิด อีกทางหนึ่งสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งซึ่งกำลังรอรับการรักษาด้วยความหวัง ก็ควรจะได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเพื่อให้การรักษาพยายามเป็นไปตามหลักการแพทย์และไม่เสียโอกาสสำหรับการเข้าถึงการรักษา


          ไม่เพียงแต่กัญชาเท่านั้นที่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ และสื่อสารกับผู้รับบริการทางสาธารณสุขอย่างถูกต้อง หากแต่การรักษาด้วยวิธีทางเลือก หรือพืชสมุนไพรที่อาจจะมีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งเข้าใจผิด ไม่ได้เข้ารับการรักษาตามระบบของแพทย์แผนไทยหรือแพทย์ทางเลือกอย่างถูกวิธี เพราะเข้าใจไปว่าพืชสมุนไพรมีประโยชน์ไม่มีโทษหรือผลข้างเคียง รวมทั้งยังเสาะหาเองได้จากหัวไร่ปลายนา ซึ่งนับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง และจะส่งผลกระทบต่ออาการของผู้ป่วยเอง ซ้ำร้ายพวกเขายังจะได้รับโรคหรืออาการเจ็บป่วยมากยิ่งขึ้นไปอีก ในโอกาสที่กระทรวงสาธารณสุขกำลังเดินหน้าโครงการทดลองสารสกัดน้ำมันกัญชาจึงน่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการให้ข้อมูลอย่างรอบด้านเกี่ยวกับพืชสมุนไพรไปพร้อมกัน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ