ข่าว

ปิดคดีฆ่าปาดคอพยาบาล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจภาค 1 ปิดคดี หนุ่มเวรเปลฆ่าโหดพยาบาล รพ.ภาชี แค้นยืมเงินไม่ให้ ใช้คัดเตอร์ปาดคอ ปักอก บีบคอจนตาย ตำรวจต้องยกเลิกทำแผน หวั่นประชาชนหน้าโรงพยาบาลรอประชาทัณฑ์

 

          วันที่ 12 มี.ค. 62 - พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อำพล บัวรับ พร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 และผู้กำกับสภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงปิดคดีหลังจับจับกุมตัวนายอั๋น ฟักศิริ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังก่อเหตุลงมือฆ่านางศรีสุภางค์ สุวรรณศิลป์ หรือเก่ง อายุ 48 ปี พยาบาลประจำ รพ.ภาชี 

 

          โดยนายอี๋น ใช้มีดคัตเตอร์ปาดคอความยาวประมาณ 7 เซนติเมตร แทงที่กลางหน้าอก บีบคอเสียชีวิต ขาดอาอากาศหายใจภายในรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน ญฉ 5426 กรุงเทพมหานคร ก่อนนำรถมาทิ้งรถฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลภาชี ถนนสายภาชี  หินกอง หมู่ 2 ต.ภาชี อ.ภาชี

 

          พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยยว่า นายอั๋นสารภาพว่าก่อเหตุจริงเนื่องจากขอเงินผู้ตายหนึ่งหมื่นบาท แต่ผู้ตายไม่ให้และถูกด่าทอบุพการีจึงบันดาลโทสะ ลงมือทำร้าย ซึ่งนายอั๋นตั้งใจจะมายืมเงิน รปภ.ที่รู้จัก แต่ไม่ได้เงิน จึงเห็นรถผู้ตายจอดอยู่ ซึ่งเป็นคนรู้จัก แต่ผู้ตายไม่ให้ และจากการสอบปากคำยังไม่พูดถึงประเด็นความสัมพันธ์ และกำลังเร่งติดตามกล้องหน้ารถยนต์ มีดของกลางที่หาไม่พบ ในเบื้องต้น แจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และจะพิจารณาข้อเพิ่มเพราะนำทรัพย์สินของผู้ตายไปด้วย

 

          ทั้งนี้ ทางตำรวจจะคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 4 จุด คือ หน้าโรงพยาบาลภาชี จุดทิ้งรถ จุดลงมือก่อเหตุ จุดทิ้งคัตเตอร์ แต่มีประชาชนมารอดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพจำนวนมาก ต้องยกเลิกการทำแผนจากสถานที่จริง จำลองเหตุการณ์ที่ด้านหน้า สภ.ภาชีแทน เพื่อป้องกันการรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา แต่เมื่อทราบว่าจะไม่มีการทำแผนที่จุดเกิดเหตุ ประชาชนจึงมารอดูการจำลองเหตุการณ์ที่ สภ.ภาชี จำนวนมาก 

 

          โดยการทำแผนจำลองเหตุใช้เวลา 20 นาที เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยอยุธยารวมใจกว่า 50 คน หน่วยปฎิบัติการพิเศษ ตำรวจชุดสยบไพรี ท่ามกลางชาวบ้านจำนวนมาก จำลองเป็นสถานที่เกิดเหตุช่วงที่ผู้ต้องหาเข้าไปในโรงพยาบาล หยุดพูดคุยกัน ก่อนจะทะเลาะกันและลงมือ ตำรวจนำของกลาง รถยนต์ทั้ง 2 คัน แหวนทอง 1 วง สร้อยคอทองคำหนักหนึ่งบาท กระเป๋าสะพายผู้ตาย มือถือ หนึ่งเครื่อง ที่คนร้ายนำไปขาย ระหว่างนำตัวผู้ต้องหา เสร็จจากการทำแผน แม่ของผู้ตาย ได้ตบที่ใบหน้าของผู้ต้องหา 1 ครั้ง 

 

          นายพัฒนา อ่วมเทพ สามีของนางธนวรรณ สุวรรณศิลป์ และแม่ของผู้ตาย ทั้งสองยอมรับว่า เครียด ไม่ได้นอนทั้งคืน หลังจากที่ผู้ตายถูกกล่าวหาว่า แอบคบกับคนร้าย เชื่อว่าไม่เป็นความจริงโดยนายพัฒนาถามผู้ต้องหาว่า ทำร้ายภรรยาทำไม ยืนยันว่าไม่ให้อภัย และให้ตำรวจสอบให้ชัดว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องชู้สาว ขณะที่แม่ของผู้ตายว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัวเป็นคนที่มีจิตใจดี ซึ่งทางครอบครัวจะไม่ยกโทษให้ แม้ว่าผู้ต้องหาจะมาขอขมาก็ตาม
 

          นพ.ฐาปกรณ์ จิตตนูนท์ ผู้อำนวยการ รพ.ภาชี ยืนยันว่า ในฐานะผู้บังคับบัญชาผู้เสียชีวิต และอดีตผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหาว่า มูลเหตุในครั้งนี้ไม่มีเรื่องชู้สาวหรือความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแน่นอน เนื่องจากบุคคลากรทุกคนในโรงพยาบาลจะสนิทสนมกัน หากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจะต้องมีคนรับรู้ โดยปกติผู้เสียชีวิตเป็นคนดีมาก จะคอยช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนมาตลอด จึงอยากออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของลูกน้องไม่ให้เสื่อมเสีย ส่วนตัวอดีตเวรเปลเคยรับทราบมาบ้างว่ามักจะขอยืมเงินเพื่อนร่วมงานบ่อยครั้ง ซึ่งพอมาเกิดเรื่องแบบนี้ก็รู้สึกสะเทือนใจและเสียใจที่สูญเสียบุคลากรที่ดีและมีคุณภาพไป โดยเมื่อเจอหน้าผู้ต้องหาได้ก้มลงกราบเพื่อขอโทษพร้อมบอกว่ารู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

            อย่างไรก็ตาม คดีนี้ ตำรวจใช้เวลา 1 วัน จับตัวคนร้าย หลังดูจากล้องวงจรปิดทั้งจากโรงพยาบาล และจุดเกิดเหตุ ที่จับภาพนาทีทิ้งศพ เป็นชายรูปพรรณสัณฐานสูงใหญ่ สวมเสื้อ สีขาว นุ่งกางเกงขายาว สีครีม นายอั๋น ฟักศิริ หลบหนีไปพร้อมกับแฟนสาว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะปิดล้อมจับกุมได้ที่วัดลาดชิด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา วานนี้

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ