ครบรอบ1ปีวิทยาลัยบูรณาการศาสตร์ มุ่งพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ตลอดชีวิต หวังนำทุกศาสตร์มาแก้ปัญหาความยากจน นายกสภาม.เกษตรฯย้ำหลักสูตรแค่เครื่องมือไม่ใช่เป้าหมาย เน้นใช้สื่อออนไลน์ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชน
เมื่อเวลา 09.30 วันที่ 27 ส.ค.63 ณ อาคารระพีสาคริก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขนโดยวิทยาลัยบูรณการศาสตร์ จัดงานเนื่องในโอกาสครบรอบ1 ปีแห่งการสถาปนาวิทยาลัยฯ ซึ่งได้รับเกียรติจากดร.กฤษณพงศ์ กิรติกร นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นประธานในพิธี โดยมีดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยตลอดจนนิสิต นักศึกษา พนักงานมหาวิทยาลัยให้การต้อนรับ
ดร.กฤษณพงศ์ กิรติกร นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งในหัวข้อ”แนวทางการเรียนการสอนในเชิงบูรณาการศาสตร์”โดยระบุว่าบูรณาการศาสตร์นั้น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นผู้ตั้งแถวใหม่เป็นคนแรกและพยายามจะชักชวนเครือข่ายเข้ามาร่วม ภายใต้คำว่าบูรณาการศาสตร์ เป็นการนำทุกศาสตร์มารวมอยู่ด้วยกัน
“หลักสูตรจะเป็นปีต่อปีแล้มีการปรับปรุง ถ้านานไปกว่านั้นหลักสูตรก็จะเปลี่ยนเร็ว”ดร.กฤษณพงศ์กล่าว โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการายในองค์กรว่าในเชิงบริหารจะต้องแบ่งเวลา แบ่งเงินงบประมาณมาอยู่ที่บูรณาการศาสตร์ เช่นเดียวกับงานวิชาการจะต้องมีผลงานทางวชาการแบบหลายสาย ไม่ใช่สายเดี่ยวอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้จะต้องไปแก้ไขกฎระเบียบมหาวิทยาลัยเพื่อการการบริหารจัดการเดินหน้าต่อไปได้
ดร.กฤษณพงศ์ กิรติกร นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
“ผลงานทางวิชาการจะออกมาทั้งสองสามหน่วยงานจะบอกว่ามาจากหน่วยงานก. ข.หรือค.หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไม่ได้ ฉะนั้นจะต้องไปแก้ระเบียบเรื่องการประเมิน เรื่องการบริหารจัดการภายใน ผมเรียนอธิการบดีว่าของอย่างนี้รีบแก้ซะ ของที่ไม่ใช่เงิน แต่มีกติกาที่เรารับถ่ายทอดกันมา ทำให้เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ ทั้งเรื่องพนักงานร่วม การใช้ทรัพยากรร่วม เงินเดือนร่วม ผลงานร่วม”
นายกสภาม.เกษตรศาสตร์ กล่าวต่อไปว่าอีกสิ่งที่ฝากไปถึงอธิการบดีอยากเห็นความก้าวหน้าทางวิชาการของนักวิชาการในสังกัดวิทยาลัยแห่งนี้จะต้องมีความหลากหลายไม่ใช่มีแค่นักวิชาการสายเดี่ยว เพราะสายเดี่ยวไม่กว้างและไม่เอื้อต่อการทำงานแบบบูรณาการ แต่ก็ไม่ปิดกั้นการทำงาน ซึ่งใครอยากโตแบบสายเดี่ยวก็โตไป ใครอยากโตแบบหลายสายผสมกันก็โตไปตามที่ตนเองถนัด
“หลักสูตรเป็นแค่เครื่องมือ ไม่ใช่เป้าหมาย ขอฝากท่านอธิการบดีและพันธมิตรทั้งหลายว่าเป้ามหายของเราจะแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จ เพราะฉะนั้นเราอาจจะเอาหมู่บ้านเป็นตัวตั้ง ดูความสำเร็จในพื้นที่แทนที่จะดูเฉพาะหลักสูตรที่มาเรียนจะเป็นนอนดีกรีหรือดีกรีจะต้องเอาชุมชนเป็นตัวตั้งแล้วเอ็กซเรย์ วิเคราะห์โฟรไฟล์ของคนในชุมชนว่าสมมติหมู่บ้านนี้มี100 ครอบครัว ต้องเอ็กซเรย์ว่าปู่ย่าตายายเขาทำอาชีพอะไร ลูกหลานคนรุ่นใหม่กำลังเรียนอะไรแล้วใช้ข้อมูลครอบครัวเป็นฐานเพื่อการวางแผนอย่างยั่งยืน”
ดร.กฤษณพงศ์ ย้ำด้วยว่าสังคมปัจจุบันถูกดิสรับด้วยเทคโนโลยี ดังนั้นการมองไปข้างหน้านับจากนี้ จะต้องพัฒนาเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนจากไหนก็ได้ ทำงานจากที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ เพราะการเรียนการสอนจะมุ่งเน้นการใช้ระบบออนไลน์ ถ้าใช้ออนไลน์ไม่ได้ ก็ใช้สื่อวิทยุเกษตร สื่อโทรทัศน์ออนแอร์ โดยใช้สถานที่ในชุมชน เช่นห้องประชุมอบต. ที่ทำการหมู่บ้าน สำหรับการเรียนการสอน ส่วนเวลายึดตามความสะดวกของผู้เรียน
“ต่อไปนอกจากจะเรียนที่ไหนแล้วเราจะทำงานที่ไหนก็ได้เป็นความท้าทาย บูรณาการจะออกมาขนมขั้นหรือจะเป็นเค้กที่เป็นเนื้อเดียวกันหรือเค้กมีไส้อยู่ข้างในหรือฟรุ๊ตเค้กหรือขนมถ้วยฟู บูรณาการมันมีหลายมิติ ถ้าจะเป็นขนมชั้นก็ต้องเป็นขนมชั้น เวอรชั่นเยอะพอสมควรนี่คือบูรณาการศาสตร์แล้วแต่ความต้องการของตลาด และต้องพัฒนากระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วย”นายกสภาม.เกษตรฯย้ำทิ้งท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง