ข่าว

วิฑูรย์ ผิดหวังไม่แบนสารเคมี จี้ต้องมีคนรับผิดชอบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วิฑูรย์ ผิดหวัง คกก.วัตถุอันตราย ไม่แบน 3 สารเคมีผลักภาระความเสี่ยงให้ประชาชน จี้หาคนรับผิดชอบ

 

27 พฤศจิกายน 2562  นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.มูลนิธิชีววิถี ผิดหวังกับมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย หลังออกมาไม่แบน 3 สารเคมีซึ่งถือเป็นการผลักภาระความเสี่ยงให้กับเกษตรกรและประชาชน และยังบอกอีกว่า การตัดสินใจครั้งนี้ต้องมีคนออกมารับผิดชอบกับความเสี่ยงของประชาชน  

 

 

หลังจากที่ คณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีนายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุม(27 พ.ย. 2562) มีมติเลื่อนการแบน 2 สารเคมีประกอบด้วย พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ออกไปอีก 6 เดือนจากเดิมที่มีผลบังคับใช้ 1 ธันวาคม 2562 เป็น 1 มิถุนายน  2563 พร้อมกันนี้ยังมีมติจำกัดการใช้สารไกลโฟเซต โดยที่ประชุมคณะกรรมการ 29 คน(มาประชุม 24 คน)มีมติเป็นเอกฉันท์ 

 

ด้านผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถีนายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ เปิดเผยว่า รู้สึกผิดหวังกับมติในครั้งนี้ โดยเฉพาะการไม่แบนสารไกลโฟเซตแต่เป็นการจำกัดการใช้แทน ถือว่าเป็นการผลักภาระความเสี่ยงให้กับเกษตรกรและประชาชนที่ต้องบริโภคผักต่างๆ ซึ่งสารดังกล่าวนี้เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นสารที่ก่อมะเร็ง และอีกหนึ่งมติที่เลื่อนแบน พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ก็ผิดหวังเหมือนกัน ซึ่งเห็นอยู่แล้วว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการผลักภาระความเสี่ยงให้กับเกษตรกร ซึ่งการมีมติแบบนี้ออกมาเชื่อว่า เพื่อเอื้อประโยชน์บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติที่เกี่ยวกับสารเคมีทั้ง 3 ชนิดนี้ เพื่อให้บริษัทเหล่านี้ไม่ต้องรับภาระสินค้าที่สต๊อกไว้ไปยังประเทศต้นทางหรือประเทศที่ 3 
     

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ทางเครือข่ายขอหารือก่อนว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอย่างไร ซึ่งมองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ต้องมีคนออกมารับผิดชอบทางการเมืองและความเสี่ยงของประชาชนด้วย 

 

นางสาวอัญชุลี​ ลักษณ์​อำนวยพร​ ประธานเครือข่ายกลุ่มคนรักแม่กลอง​ กล่าวภายหลังทราบมติคณะกรรมการวัตถุอันตรา​ย​ ว่าเคารพในมติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย​ แต่ขอโฟกัสไปที่เงื่อนไขการแบนสารเคมี 2 ชนิดคือ​ พาราควอต​ และคลอไพริฟอส​ ที่เลื่อนเวลาออกไปวันที่ 1 มิถุนายน​ 63​ ซึ่งกรมวิชาการเกษตรบอกว่าจนถึงเวลานี้ยังไม่สามารถหาสารทดแทน​ ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ 2 สารและมีราคาถูกกว่า  และวิธีการอื่นที่ดีกว่าได้​ ดังนั้นจึงต้องจับตาดูว่าก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายน​ 63​ กรมวิชาการเกษตร  จะสามารถหาสารทดแทนได้หรือไม่​ ซึ่งหากไม่ได้กลุ่มเกษตรกรก็จะออกมาเคลื่อนไหวต่ออย่างแน่นอน

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ