ข่าว

"สุริยา" เซ็นต์ยุบ ชปข. สอบวินัยร้ายแรง 5 เจ้าหน้าที่ DSI เอี่ยวคดี นาอูรู

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สุริยา" มีคำสั่งยุบ "ชุดปฏิบัติการด้านการข่าว" พร้อมสั่งสอบวินัยร้ายแรง 5 เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ เอี่ยว คดีสถานกงศุล นาอูรู เผย ไม่ทราบเหตุผลปมสั่งย้าย

พ.ต.ต. "สุริยา" สิงหกมล รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ บอกถึงกรณีที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมีหนังสือคำสั่งย้ายให้มานั่งในตำแหน่ง รักษาการอธิบดีดีเอสไอ แทน นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ ว่า ถือเป็นเรื่องที่ตกใจ เพราะตนเองได้รับคำสั่งเมื่อวานตอนเที่ยงพร้อมๆ กับสื่อมวลชน

 

 

โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ได้เน้นย้ำใน 2 ประเด็นในการมาทำหน้าที่ คือประเด็นเรื่องที่ดีเอสไอถูกกล่าวหาที่ปรากฎเป็นข่าวและกรณีอื่นๆ และ ประเด็นที่ 2 คือ คดีที่ดีเอสไอ รับผิดชอบในสำนวนคดีหลายๆ คดี 

 

ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้จะต้องทำให้เกิดความโปร่งใสตรงไปตรงมา และตอบคำถามสังคมให้ได้ทุกประเด็น และจะต้องเร่งรัดดำเนินการให้เร็วที่สุด อย่างคดี Forex-3D ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจำนวนมาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เร่งรัดให้ดำเนินการให้เสร็จให้เร็วที่สุด จึงได้ขีดเส้นตายภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะต้องสรุปสำนวนคดีส่งอัยการ ส่วนเหตุผลที่มีการออกหนังสือคำสั่ง ตนเองไม่ทราบเพราะเป็นผู้ปฏิบัติงาน

 

 

ส่วนที่ถูกมองว่าเป็นเรื่องของการเมืองหรือไม่ และเมื่อมาทำหน้าที่แล้วจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ภายในดีเอสไอได้อย่างไรบ้างนั้น พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล มองว่า เรื่องของข้าราชการปฏิเสธไม่ได้ว่านโยบายรัฐบาลเป็นสิ่งที่ราชการต้องปฏิบัติ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่ถูกต้อง และกรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนสำคัญของทาง ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่

 

 

ส่วนประเด็นเรื่องความสัมพันธ์กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ต.สุริยา ระบุว่า เรื่องขององค์กรก็คือองค์กร เรื่องของตัวบุคคลก็คือตัวบุคคล แต่หากใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิด และ ดีเอสไอ ก็เปิดโอกาสให้ทุกหน่วยเข้ามาตรวจสอบ โดยยืนยันว่า ความสัมพันธ์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับ ดีเอสไอ เป็นไปด้วยดี

 

พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล

 

ในส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าไปปรากฏว่ามีส่วนกระทำความผิดในการร่วมกับตำรวจ 191 เข้าค้นอดีต สถานกงสุลนาอูรู และมีการเรียกรับเอาเงินสดรวมไปเกือบ 10 ล้านบาท ว่า ในประเด็นนี้ ตนเองได้รับคำจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องในการตรวจสอบในคดีนี้ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

 

 

ส่วนตัวของข้าราชการทั้ง 5 นาย ที่ปรากฎว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในชุดปฏิบัติการขณะนี้ ยังคงอยู่ในขั้นตอนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และขณะนี้ก็ได้ให้หยุดพักการปฎิบัติหน้าที่ไว้ก่อน ซึ่งหากผลการสอบของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงพบว่ามีบุคคลใดในกรมสอบสวนคดีพิเศษเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของการสอบสวนวินัยร้ายแรงเช่นกัน

 

 

ส่วนตัว ผู้อำนวยการกองคดี ที่มีการระบุว่าเป็นหน้าห้องอดีตอธิบดี ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบว่ามีส่วนเข้าไปกระทำความผิดก็ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับทั้ง 5 คน ที่ถูกตำรวจออกหมายจับ ไปก่อนหน้านี้

 

 

ส่วนประเด็นที่ถูกตั้งข้อสังเกตุว่า มีการตั้ง ชุดปฏิบัติการด้านการข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ชปข. ขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ และเป็น ชุดปฏิบัติการที่เข้าไปปฎิบัติการร่วมกับตำรวจ 191 ในครั้งนี้ จะเป็นการตั้งมาเพื่อเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ นั้น พ.ต.ต.สุริยา ชี้แจงว่า วันนี้จะเซ็นต์ยกเลิกคำสั่งชุดที่ตั้งขึ้นมาทำงานด้านการข่าว เพราะมีผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในชุดนี้ และจะยกเลิกชุดปฏิบัติการชุดนี้เลยในทันที 

 

 

สำหรับกรณีที่มีคนเข้ามาร้องทุกข์ว่า ยังมีเจ้าหน้าที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเรียกรับทรัพย์ในอีกหลายคดี รวมถึงในทุกกรณีหากพบว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอรายใดไปปฏิบัตินอกกรอบกฎหมาย ก็ให้แจ้งมาที่ตนเองได้เลย เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เน้นย้ำมาว่าหากมีเจ้าหน้าที่ไปกระทำความผิดก็ให้ดำเนินการได้เลย ตนเองจึงอยากขอฝากถึงพี่น้องประชาชนหากพบเห็นพฤติการณ์ดังกล่าวก็ให้เบาะแสเข้ามา

 

ดีเอสไอ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ