ข่าว

แจงสิทธิเงินช่วยเหลือกำลังพล "เรือหลวงสุโขทัย" สรุปยังไร้วี่แววผู้สูญหาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กองทัพเรือ แจงสิทธิกำลังพล "เรือหลวงสุโขทัย" เงินช่วยเหลือ แต่ละชั้นยศที่จะได้รับ ไม่เว้นพลทหาร สรุปยังไม่พบผู้สูญหายที่เหลืออีก 23 ราย

พล.ร.อ. ปกครอง มนธาตุผลิน  โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงแผนการปฏิบัติการค้นหาและให้การช่วยเหลือกำลังพลบน "เรือหลวงสุโขทัย" ว่า ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือภาคที่ 1 ยังคงจัดเรือ อากาศยานของกองทัพเรือ และอากาศยานกองทัพอากาศ รวมถึง ศรชล. ตลอดจนหน่วยงานอื่นๆ เข้าร่วมค้นหา 

 

 

โดย เรือหลวงตากสิน อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 5  เรือหลวงนเรศวร อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 9 และทำหน้าที่ควบคุมอากาศยาน เรือหลวงกระบุรี อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 10 และ 11  เรือหลวงนราธิวาส อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 12 เรือ ต.114 ลาดตระเวนเฝ้าตรวจ บริเวณหมู่เกาะอ่างทอง  เรือ ต.270 อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 14

พร้อมกับเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลแบบดอร์เนีย จากทัพเรือภาคที่ 1 ทัพเรือภาคที่ 2 และทัพเรือภาคที่ 3  ทำการค้นหาในพื้นที่ค้นหา 6 และ 10  โดยมี เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำแบบซีฮอว์ค และ เฮลิคอปเตอร์  แบบ EC-725 ของกองทัพอากาศ  รอรับการส่งกำลังบำรุงในบริเวณพื้นที่ปฏิบัติการ

 

นอกจากนั้นจะมีกำลังทางเรือของหน่วยงานต่างๆในศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล  ประกอบด้วย ตำรวจน้ำ กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึง กรมประมง ร่วมปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายจาก "เรือหลวงสุโขทัย" ในพื้นที่บริเวณชายฝั่ง

ในส่วนของการสำรวจใต้น้ำ  กองทัพเรือ ได้สั่งการให้กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ นำยานสำรวจใต้น้ำ ของเรือหลวงบางระจัน ทำการบันทึกภาพใต้น้ำบริเวณ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปาง เพื่อค้นหาร่างของกำลังพลที่อาจติดค้างอยู่ภายในเรือ รวมถึงการตรวจหารอยรั่วของน้ำมันที่อาจเกิดการรั่วไหล

 

สำหรับสิทธิกำลังพลผู้เสียชีวิตนั้น กรณีนี้กองทัพเรือถือว่า เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่บน "เรือหลวงสุโขทัย" จะพิจารณาบําเหน็จด้านสิทธิกําลังพลสูงสุดให้แก่กําลังพลดังกล่าว โดยจะพิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือน 3 - 5 ชั้น กับขอพระราชทานเลื่อนยศ 2 - 4 ชั้นยศ รวมทั้งเงินช่วยเหลืออื่น ๆ ตามสิทธิที่สมควรจะได้รับ โดยแยกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้ 

 

ชั้นยศ นาวาตรี จะขอพระราชทานเลื่อนยศเป็น พลเรือโท กับได้รับสิทธิกําลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ําใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 160,0000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 1,200,000 บาท  


ชั้นยศ เรือเอก จะขอพระราชทานเลื่อนยศเป็น พลเรือตรี กับได้รับสิทธิกําลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ําใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 160,000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 2 ล้านบาท 
  

 

ผู้ที่มีอายุราชการและฐานเงินเดือนสูงชั้นยศ พันจ่าเอก จะขอพระราชทานเลื่อนยศเป็น นาวาตรี กับได้รับสิทธิกําลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ําใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 135,000  บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ  1 ล้านบาท 


ชั้นยศ จ่าตรี - จ่าเอก จะขอเลื่อนยศและขอพระราชทานเลื่อนยศเป็น  พันจ่าโท - เรือตรี กับได้รับสิทธิกําลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000  บาท เงินจากกองทุนน้ําใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 135,000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 900,000 บาท 


ทหารกองประจําการ (พลทหาร) จะขอเลื่อนยศเป็น พันจ่าตรี กับได้รับสิทธิกําลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ําใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 100,000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 600,000 บาทโดยกองทัพเรือ จะเร่งรัดการดําเนินการให้กําลังพลและครอบครัวได้รับสิทธิกําลังพลเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือนร้อนในเบื้องต้นให้แก่กําลังพลและครอบครัวต่อไป

 

 

สรุปยอดกำลังพลบน "เรือหลวงสุโขทัย" จำนวน 105 นาย ช่วยเหลือได้แล้ว 76 นาย เสียชีวิต 6 นาย  ยังคงสูญหาย 23 นาย

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 6 นาย คือ ร.ท. สามารถ  แก้วผลึก  พ.จ.อ. สมเกียรติ หมายชอบ พ.จ.อ. อัชชา แก้วสุพรรณ์  พ.จ.อ. อำนาจ  พิมที  จ.อ จักรพงค์  พูนผล  และพลทหาร อัครเดช  โพธิ์บัติ ในช่วงบ่ายวันนี้ กองทัพเรือจะเคลื่อนร่างเดินทางกลับอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ จากกองบิน 5 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีกำหนดเดินทางถึงสนามบินอู่ตะเภา ในเวลา 14.30 น. ซึ่ง พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ จะเป็นประธานในพิธีรับกำลังพลที่เสียชีวิต โดยพิธีจะเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับอย่างสมเกียรติ และในเวลา 17.00 น. จะมีการประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 6 นาย  ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยตั้งบำเพ็ญกุศล ฯ กิจการฌาปนสถานกองทัพเรือ สัตหีบ  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ