สรุปปฏิบัติการช่วยเหลือ "เรือหลวงสุโขทัย" 3 วัน กับนาทีชีวิตผู้สูญหาย 23 คน

เป็นระยะเวลากว่า 4 วันแล้วที่ทุกหน่วยงานระดมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องไม้เครื่องมือ เพื่อค้นหากำลังพล และช่วยเหลือ "เรือหลวงสุโขทัย" หลังจากที่อับปางกลางทะเลอ่าวไทยเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 65 ที่ผ่าน สำหรับปฏิบัติการช่วยเหลือ "เรือหลวงสุโขทัย" ทั้งกรณีช่วยเหลือกำลังพล การค้นหาผู้สูญหายได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางคืนของวันที่ 18 ต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 19 ธ.ค. 65 จนถึงขณะนี้ใช้เวลาปฏิบัติช่วยเหลือมาแล้วกว่า 3 วันเข้าวันที่ 4 กินเวลามาแล้วกว่า 72 ชม. 

 

 

สรุปปฏิบัติการช่วยเหลือ "เรือหลวงสุโขทัย" ในรอบ 3 วันที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้างในปฏิบัติการครั้งนี้ รวมไปถึงนาทีระทึกในการช่วยเหลือกำลังพลบางคนที่ลอยคอรอการช่วยเหลือนานข้ามวัน 

• เริ่มปฏิบัติการช่วยเหลือวันที่  1 (19 ธันวาคม65) 

หลังจากที่ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปางไปแล้วในช่วงเวลาดังกล่าวมีเรือเข้าไปช่วยเหลือกำลังพลที่ต้องหนีเอาตัวรอดโดยการกระโดดลงทะเลจำนวน 5 ลำได้แก่  เรือหลวงกระบุรี เรือประจวบ 4 เรือประจวบ 5 เรือน้ำมัน Star Energy และเรือน้ำมันศรีชัยยา เพื่อช่วยเหลือกำลังพล ซึ่งในจำนวนกำลังพลทั้งหมด 105 คน สามารถเช่วยเหลือมาได้จำนวน 73 คน และยังคงลอยคอรอความช่วยเหลือกลางทะเลอีก 32 คน 

 

ตลอดทั้งวันการช่วยเหลือยังคงดำนเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหากำลังพลที่รอความช่วยเหลืออยู่กลางทะเล ไม่ว่าจะเป็นการใช้เรือ เฮลิคอปเตอร์ โดรน ในการค้นหาอย่างต่อเนื่อง ระหว่างนั้นมีกระแสลือสะพัดว่า พบศพกำลังพล 1 คน เสียชีวิต แต่ทางกองทัพเรือได้ออกมาปฏิเสธ พร้อมกับชี้แจงว่าศพดังกล่าวเป็นลูกเรือลำอื่นที่เกิดการอับปางในวันเดียวกันเท่านั้น 

• ปฏิบัติการช่วยเหลือวันที่ 2 (20 ธันวาคม 65) 

หลังจากที่การช่วยเหลือดำเนินการอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา กองทัพเรือ ได้ออกแถลงการณ์การถึงกรณี "เรือหลวงสุโขทัย" อับปางอย่างเป็นทางการอีกครั้ง พร้อมกับการแจ้งข่าวการสูญเสียกำลังพลอย่างเป็นทางการ โดยทางกองทัพเรือได้ ระบุว่า พบผู้เสียชีวิต 4 ราย และรอดชีวิต 2 ราย หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงถัดมา สำนักโฆษกกองทัพเรือ แจ้งเพิ่มว่ามีจำนวนกำลังพลที่ค้นหาพบเป็น 7 นาย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 6 นาย รอดแค่ 1 นายเท่านั้น ส่งให้มีจำนวนผู้สูญหายอีก  23 นาย  สรุปในการช่วยเหลือวันนี้มีกำลังพลที่รอดชีวิตมาได้ 76 นาย 

 

 

จากการแถลงข่าวของกองทัพเรือได้ได้มีการตั้งคำถามถึงกรณีที่บน "เรือหลวงสุโขทัย" มีเสื้อชูชีพไม่เพียงพอ และกำลังพลบางคนว่ายน้ำไม่เป็น ทั้งนี้ในการแถลงบางช่วง พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้ระบุว่า "การมีเสื้อชูชีพไม่ได้หมายความว่า ทุกคนจะสามารถรอดชีวิต แล้วได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาบนเรือ" "อย่ามองว่าคนไม่มีเสื้อชูชีพทั้ง 30 คน จะสูญเสียทั้งหมด เพราะตัวเลขแสดงให้เห็นแล้วว่า 18 คนที่ไม่มีเสื้อชูชีพขึ้นมากับ 75 คนแรก ยังเหลือในทะเล 12 คน แล้ว 18 คนที่มีเสื้อชูชีพเองยังอยู่ในทะเลอยู่"

 

 

• ปฏิบัติการช่วยเหลือวันที่  3 (21 ธันวาคม 65)

หลังจากที่มีการแจ้งข่าวการสูญเสียกำลังพล และมีผู้รอดชีวิตหลังจากที่ต้องเอาตัวรอดกลางทะเลนานว่า 2 วัน กองทัพเรือ และหน่วยงานต่าง ๆ ยังคงระดมสรรพกำลัง ประกอบด้วย เรือหลวงนเรศวร  เรือหลวงตากสิน เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงนราธิวาส  เรือหลวงอ่างทอง เรือ ต.114 และ เรือ ต.270  พร้อมอากาศยาน 10 ลำ ในการค้นหาผู้สูญหายอีกจำนวน 23 นาย ซึ่งยังไม่รู้ชะตากรรม แม้ว่าจะมีการค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง แต่ในการช่วยเหลือวันที่ 3 กองทัพเรือยืนยันว่ายังไม่มีพบผู้สูญหายเพิ่มเติม และวางแผนขยายการค้นหาออกไปไกลมากยิ่งขึ้นถึงเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี 

 

นอกจากนี้ กองทัพเรือ ยังวางแผนที่จะส่งเรือซีฟอกซ์ลงไปสำรวจ "เรือหลวงสุโขทัย" ที่อับปางลงครั้งแรก ส่วนจะเจอร่างผู้สูญหายที่อาจจะติดในเรือหรือไม่นั้นยังไม่สามารถยืนยันได้ 

 

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประกาศเพิ่มเติมจากกองทัพเรือว่าพบผู้สูญหายเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งภาระกิจในการช่วยเหลือเหตุการณ์ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปางในครั้งนี้ลากยาวกินเวลามานานกว่า 72 ชั่วโมงแล้ว ซึ่งเท่ากับว่าอัตราการรอดชีวิตของผู้สูญหายอาจจะเหลือน้อยลงทุกวินาที