ข่าว

จบคดี "อ่าวมาหยา" ให้ กรมป่าไม้ ฟื้นธรรมชาติใน 30 วัน ฐานให้ถ่ายหนัง "เดอะบีช"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลฎีกา สั่ง "กรมป่าไม้" ฟื้นฟูชายหาด-อ่าวมาหยา จ.กระบี่ กลับคืนสภาพ หลังอนุญาตให้กองถ่ายหนัง "เดอะบีช" ใช้พื้นที่จนธรรมชาติเสียหาย กำชับให้ทำภายใน 30 วัน ด้าน "ทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์ฯ -ซันต้าฯ" มอบ10 ล้าน ให้ใช้อนุรักษ์พื้นที่

13 ก.ย.2565  ที่ ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีสิ่งแวดล้อม ในคดีที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ และองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ กับพวกรวม 19 ราย ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กรมป่าไม้, อธิบดีกรมป่าไม้, บริษัทซันต้า อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์มฯ และ บริษัททเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์ฯ เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 

 

กรณีเมื่อปี 2541 ได้มีการอนุมัติให้บริษัททำถ่ายภาพยนตร์ เรื่อง "เดอะบีช" เข้าไปตกแต่งเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ชายหาดอ่าวมาหยา บนเกาะพีพี ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีเล จ.กระบี่ เพื่อใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ อันเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเดิม

 

โจทก์จึงขอให้มีคำพิพากษาให้คำสั่งจำลยที่ 1- 3 ที่อนุญาตจำเลยที่ 4 เข้าไปถ่ายภาพยนตร์เป็นโมฆะ ให้จำเลยร่วมกันวางเงินประกันค่าความเสียหาย หากจำเลยไม่วางเงินขอให้ศาลมีคำสั่งกระทำการใด ๆ เพื่อตกแต่งอ่าวมาหยา  ขอให้จำเลยที่ 1-3  เพิกถอนใบอนุญาตจำเลยที่ 4-5 เข้าถ่ายทำภาพยนตร์ และขอให้จำเลยร่วมกันปรับปรุงแก้ไขสภาพชายหาดมาหยา กลับคืนสภาพเดิมตามธรรมชาติ

 

 

 

โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ปรับปรุงแก้ไขหาดมาหยาให้กลับคืนสภาพเดิมตามธรรมชาติ โดยให้จำเลยที่ 2 แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อทําแผนการแก้ไขฟื้นฟูและการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนบริเวณอ่าวมาหยา ประกอบด้วยโจทก์ที่ 1-2 และผู้เชี่ยวชาญที่ศาลมีคำสั่งแต่งตั้งในคดีนี้ และผู้แทนจากภาคเอกชนตามที่จำเลยที่ 2 เห็นสมควรภายใน 30 วัน นับแต่วันอ่านคำพิพากษา เพื่อเสนอแผนการฟื้นฟูระบบนิเวศนี้ และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนบริเวณอ่าวมาหยาต่อศาลเพื่อพิจารณาการปฏิบัติตามแผนของคณะทํางาน 

 

สำหรับจำเลยที่ 4 - 5 ให้รับผิดตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ฉบับลงวันที่ 27 ก.พ.62 ซึ่งตามสัญญานั้น จำเลยที่ 5 ประสงค์และยินดีจะอำนวยการช่วยเหลืออนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมโดยมอบเงิน 10 ล้านบาท เพื่อให้โจทก์ที่ 1-2 นำไปใช้เพื่อการอนุรักษ์ตามอำนาจหน้าที่ และโจทก์ที่ 1 จะรายงานผลการปฏิบัติงานต่อศาลทุกกำหนด 1 ปี ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 3 ปีหรือจนกว่าเงินจะหมด ส่วนจําเลยที่ 1 และที่ 3 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

 

 

 


 

จำเลยยื่นอุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์แผนกคดีสิ่งแวดล้อม พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 ด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้น ต่อมา โจทก์ที่ 1-2 ยื่นฎีกา 

 

โดยคำพิพากษาศาลฎีกา สรุปว่า ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน พิพากษาแก้เป็นว่าให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ทั้งนี้จนกว่าหาดมาหยามีสภาพเดิมตามธรรมชาติ ตามที่จำเลยที่ 2 และคณะทำงานเพื่อทำแผนการแก้ไขฟื้นฟูและการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนบริเวณอ่าวมาหยาเห็นชอบร่วมกัน หรือตามที่ศาลเห็นสมควรในกรณีที่จำเลยที่ 2 และคณะทำงานดังกล่าวไม่สามารถเห็นชอบร่วมกันได้ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

 

ทั้งนี้การปฏิบัติตามคำพิพากษาฎีกา ให้จำเลยที่ 2 ปฏิบัติตามคำพิพากษาฎีกาภายใน 30 วัน มิฉะนั้นจะถูกบังคับตามคำพิพากษาตามขั้นตอนกฎหมาย

 

 

เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Website -  www.komchadluek.net
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek

 

 


เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote ได้ที่นี่   

( https://awards.komchadluek.net/# )
 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ