ด่วน ปอศ.รวบผู้ต้องหา 14 ราย แก๊งโกงประกัน “โควิด19“ เสียหายกว่า 53 ล้านบาท

จากกรณีเมื่อปลายปี2562 จนถึงปัจจุบัน มีกลุ่มคนทำประกันภัยกับบริษัทประกันภัยต่างๆในไทย ฉวยโอกาสใช้ช่องทางของขั้นตอนการรับเงินประกันนำผลตรวจโควิดปลอม มายื่นเพื่อขอรับค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบประกันภัยที่ต้องสูญเสียเงินกับกลุ่มคนดังกล่าวจำนวนมาก ขณะเดียวกันทำให้ผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อจากโควิดจริงได้รับค่าสินไหมล่าช้า หรือไม่ได้รับค่าสินไหมเนื่องจากบริษัทประกัน ขาดสภาพคล่อง นอกจากนั้นยังมีกลุ่มตัวแทนบริษัทประกันภัยบางรายหลอกลวงเก็บเบี้ยประกันไว้ ไม่นำส่งบริษัท โดยผู้ที่เอาประกันไม่ทราบเรื่อง ส่งผลให้ผู้เอาประกันไม่ได้รับการคุ้มครองตามกรมธรรม์และเป็นการซ้ำเติมประชาชนในช่วงของการแพร่ระบาด 

ล่าสุดวันนี้ (16 สิงหาคม 2565) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ นายชัยยุทธ มังศรี รองเลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม ผู้ต้องหาคดีฉัอฉลประกันภัย รวม 14 คน โดยแยกเป็น 2 กรณี คือ เครือข่ายโกงประกัน "โควิด19"  จำนวน 11 คน และ ตัวแทนบริษัทประกันภัยที่ฉ้อโกงผู้ซื้อประกัน โดยไม่นำชื่อส่งบริษัทประกันภัย จำนวน 3 คน

กรณีแรก เป็นเครือข่ายโกงประกัน "โควิด19" ถ้าเริ่มจากทางบริษัทประกันภัย พบความผิดปกติของผู้เอาประกันที่ประกันภัยใกล้หมดอายุ มายื่นเพื่อขอรับค่าสินไหมทดแทน จากบริษัทประกันภัยจากการติดเชื้อ โควิด-19 กันเป็นจำนวนมาก จึงทำการตรวจสอบย้อนหลัง จนพบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารการรักษาจากสถานพยาบาล มายื่นเพื่อขอรับเงินสินไหม ทั้งที่ไม่ได้ป่วยจริง เบื้องต้นพบผู้กระทำความผิด 18 คน สามารถจับกุมมาได้ 11 คน ซึ่งทั้งหมดได้รับการชักชวน จากกลุ่มคนที่ไปติดต่อ ว่าจะสามารถทำเรื่องให้ได้เงินสินไหมเป็นเงินจำนวนรายละ 5 หมื่นบาทได้ 

โดยขอส่วนแบ่งค่าดำเนินการเป็นเงิน 30,000 บาท ถือเป็นการกระทำผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอมเรียกร้องผลประโยชน์ตามกรมธรรม์โดยทุจริต ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และประมวลกฎหมายอาญา

กรณีที่ 2 เป็นการจับกุม ผู้ต้องหา 3 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายประกันชีวิต ที่ไม่ส่งเบี้ยประกันให้กับทางบริษัทประกันภัย มีผู้เสียหายกว่า 10 ราย รวมมูลค่ากว่า 53 ล้านบาท จึงมีความผิดฐาน ทุจริตหลอกลวง ผู้อื่นด้วยการชักชวนชี้ช่อง หรือจัดการให้ผู้อื่นนั้นทำหรือรักษาสถานะสัญญาประกันชีวิตกับบริษัทแต่ไม่ดำเนินการให้มีการทำสัญญาเกิดขึ้น 

โดยในการแถลงข่าวครั้งนี้ยังระบุว่า ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้มีการทำเอ็มโออยู่ร่วมกับ คปภ. ในการประสานความร่วมมือในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกรณีการฉ้อฉลประกันภัย เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ซึ่งหลังจาก พ.ร.บ.ประกันชีวิตวินาศภัย ได้มีการแก้ไข ปี2562 ทำให้ คปภ.มีอำนาจในการสอบสวนเบื้องต้น จากนั้นจะนำข้อมูลไปร้องทุกข์ตำรวจเพื่อดำเนินคดี ซึ่งจะทำให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหายกรณีการฉ้อฉลประกันภัยต่อไป

สำหรับชุดจับกุมเครือข่ายโกงประกัน "โควิด19" ของ ปอศ.4 ประกอบด้วย  พ.ต.ต.ชณิตพงศ์ ศิริเวช สว.กก.4 บก.ปอศ.,พ.ต.ต.หญิงสุจิตรา ทองสกุล สว.กก.4 บก. ปอศ., ,ร.ต.ต.พรเทพ ธีระชาติ รอง สว.(ป) กก.4ฯ ,ด.ต.วที สุขพินิจ ผบ.หมู่ กก.4ฯ,ด.ต.พีระพงษ์ เพ็ชรฉกรรจ์ ผบ.หมู่ กก.4ฯ ,ด.ต.บพิตร ทองอนันต์ ผบ.หมู่ กก.4ฯ,ด.ต.วีระยุทธ ศรีบุญเรือง ผบ.หมู่ กก.4ฯ , จ.ส.ต.อานัฐ อาสนา ผบ.หมู่ กก.4ฯ

ซึ่งในจำนวนผู้ถูกจับกุมทั้งหมด 14 ราย มี 9 ราย ที่ถูกจับกุมโดยชุดสืบสวนจับกุมชุดเดียวกันกับชุดที่จับกุมผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน ที่จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 รายภายในระยะเวลา 3 วันมีมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท ในชื่อ "ปฏิบัติการ 3 วัน 3 คดี"