ข่าว

"ภาคีสีรุ้ง" เรียกร้องสภา พิจารณาพ.ร.บ. "สมรสเท่าเทียม" แทน พ.ร.บ.คู่ชีวิต

"ภาคีสีรุ้ง" เรียกร้องสภา พิจารณาพ.ร.บ. "สมรสเท่าเทียม" แทน พ.ร.บ.คู่ชีวิต

08 มิ.ย. 2565

"พ.ร.บ.คู่ชีวิต" ไม่ตอบโจทย์ กลุ่ม "ภาคีสีรุ้ง" เรียกร้อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผลักดัน พ.ร.บ. "สมรสเท่าเทียม" คืนสิทธิ คนข้ามเพศ

แทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร  รับหนังสือจากภาคีสีรุ้งเพื่อสมรสเท่าเทียม เพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาผ่านร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับที่ พ.ศ. .... หรือ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม นำโดย พรหมศร วีระธรรมจารี

"ภาคีสีรุ้ง" เรียกร้องสภา พิจารณาพ.ร.บ. "สมรสเท่าเทียม" แทน พ.ร.บ.คู่ชีวิต

พรหมศร กล่าวว่า พ.ร.บ.คู่ชีวิต ทอดทิ้งให้เราเป็นพลเมืองชั้น 2 สิ่งที่เราเรียกร้องไม่ได้เกินกว่าปกติเป็นการเรียกร้องในสิ่งที่มนุษย์คนหนึ่งควรที่จะได้รับ วันนี้ได้แต่หวังว่าทุกพรรคการเมือง และ ส.ส.ทุกท่าน ตลอดจนประธานรัฐสภา จะมองเห็นและยกระดับความเป็นมนุษย์ให้พวกเรา อย่าถือว่าการให้ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมเป็นของขวัญ แต่จงถือว่าการให้พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมคือการคืนสิทธิ และเติมสิทธิความคนให้กับพวกเราอย่างสมบูรณ์แบบ

การเรียกร้องให้สภาผ่านกฏหมายสมรสเท่าเทียมไม่ใช่สิ่งที่เกินกว่าความเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ควรจะได้รับ ซึ่งกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศไม่ใช่กลุ่มที่แตกต่างจากบุคคลอื่น มีทั้งความคิด จิตใจ ที่ต่างจากผู้ใด ซึ่งหากประชาชนได้รับการดูแลจากกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะเป็นเครื่องยืนยันถึงสิทธิความเป็นมนุษย์ได้ ซึ่งในต่างประเทศ แม้ยังมีอคติเรื่องเพศอยู่แต่ก็มีการพิจารณาออกกฎหมายเข้ามารองรับความหลากหลายทางเพศให้สามารถอยู่ได้โดยปกติ

 

ความสำคัญของการสมรสเท่าเทียมไม่ใช่เพียงการให้คน 2 คนรักกัน แต่หมายถึงการดำรงอยู่ได้โดยปกติสุข โดยส่วนตัวได้อ่านรายละเอียดในร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิตของรัฐบาลมาแล้วหลายรอบพบว่ามีหลายอย่างที่ขาดหายไป เช่น การเซ็นยินยอม หรือ การจัดงานศพที่ไม่สามารถจัดงานให้ผู้ที่อยู่กินกันมา ทั้งนี้หากประเทศไทยมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะไม่ใช่เพียงการเปิดโอกาสให้คู่รัก LGBTQ แต่เป็นสิ่งยืนยันว่าประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าในด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มรูปแบบ ถึงแม้จะไม่มั่นใจว่าวันนี้จะได้รับข่าวดี หรือข่าวร้ายกลับบ้านไป แต่สิ่งสำคัญวันนี้คือมาเพื่อยึดประเด็นว่ากำลังทำอะไรอยู่ จะกำลังทำอะไรต่อไป

ทวีชัย วงศ์ไพโรจน์กุล คณะทำงานด้านความหลากหลายทางเพศ พรรคไทยสร้างไทย
กล่าวถึงการผลักดัน พ.ร.บ. คู่ชีวิต ของรัฐบาลว่าเป็นลูกเล่นทางการเมืองที่น่าอาย และใช้ธงรุ้งกับความหลากหลายเป็นเครื่องมือตลอดระยะเวลาที่ยาวนานของการเรียกร้องประชาธิปไตยที่ยืนบนหลักความหลากหลาย ประเด็นในเรื่องเพศ ถูกยกมาเป็นหัวข้อในการเรียกร้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสียงอย่างชัดเจนว่า สิทธิในเรื่องเพศ เท่ากับสิทธิมนุษยชน 

 

"ภาคีสีรุ้ง" เรียกร้องสภา พิจารณาพ.ร.บ. "สมรสเท่าเทียม" แทน พ.ร.บ.คู่ชีวิต


สังคมไทยเป็นสังคมปิตาธิปไตยอย่างเข้มข้น ผ่านกฎหมายที่อุ้มชูเพศชายในโครงสร้างใหญ่ของประเทศ ส่งผลผลักให้เพศอื่นๆ ต้องอยู่ในบทบาทที่เพศชายเป็นผู้กำหนดเพียงเท่านั้น การส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ จึงควรกลับไปแก้ที่โครงสร้างทางกฎหมาย ในส่วนของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งมาตราที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดคือมาตรา 1448 ที่ว่าการสมรสจะทำได้ต่อเมื่อชายและหญิงมีอายุสิบเจ็ดปีบริบูรณ์แล้ว ซึ่งเป็นกฎหมายที่ก่อให้เกิดช่องโหว่มากมายของการเลือกปฏิบัติทางเพศ ไม่ครอบคลุมความหลากหลายที่เพิ่มขึ้นมากในสังคม และทำให้เกิดมาตรฐานที่ไม่เท่าเทียมกัน