ข่าว

ซ้อนแผน "จับโจรจี้แท็กซี่" 5 คันรวด เหยื่อแฉ เรียกเข้าซอยเปลี่ยว ชักปืนปล้น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจคันนายาว ซ้อนแผน "จับโจรจี้แท็กซี่" 5 คันรวด เหยื่อแฉ คนร้ายทำทีเป็นลูกค้า เรียกแท็กซี่เข้าซอยเปลี่ยว สบโอกาสชักมีด และอาวุธปืน ลงมือข่มขู่ ก่อนกวาดทรัพย์สินเกลี้ยงรถ

จากกรณีคนร้าย ทำทีเป็นผู้โดยสารโบกรถแท็กซี่ให้ไปส่งในสถานที่เปลี่ยว เมื่อสบโอกาสจึงใช้อาวุธมีด ข่มขู่คนขับ และบังคับให้เอาทรัพย์สิน ก่อนหลบหนีไป เบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียหายมากกว่า 5 รายนั้น "จับโจรจี้แท็กซี่"

 

ซ้อนแผน "จับโจรจี้แท็กซี่" 5 คันรวด เหยื่อแฉ เรียกเข้าซอยเปลี่ยว ชักปืนปล้น

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล2 จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผู้กำกับการตำรวจนครบาลคันนายาว เร่งทำการสืบสวน จนกระทั่งทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายธนพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี

 

จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้ในเวลาต่อมา พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง , พระเครื่อง 1 องค์ โดยจับกุมได้บริเวณห้องน้ำในตลาดนัดสี่แยกพระพรหมคลองสอง ถนนเลียบคลองสอง แขวง บางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ โดยมีผู้เสียหายเป็นโชเฟอร์แท็กซี่ จำนวน 5 คน เดินทางเข้าชี้ตัวผู้ต้องหาที่ สน.คันนายาว ในเวลาต่อมา 
 

 

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ลือชา อายุ 73 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ เขียวเหลือง ซึ่งตกเป็นเหยื่อถูกคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ คนร้ายได้เรียกรถแท็กซี่จากถนนหทัยราษฏร์ ให้ไปส่งที่ตลาดถนอมมิตร ครั้งแรกตนได้ปฏิเสธไป เพราะไม่ทราบเส้นทาง แต่คนร้ายบอกว่า จะบอกเส้นทางให้ โดยคนร้ายนั่งอยู่บริเวณเบาะหลังซ้าย 

 

ซ้อนแผน "จับโจรจี้แท็กซี่" 5 คันรวด เหยื่อแฉ เรียกเข้าซอยเปลี่ยว ชักปืนปล้น

 

เมื่อมาถึงตลาดถนอมมิตร คนร้ายให้ตนเลี้ยวซ้ายเข้าไปบริเวณใต้ทางด่วน ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีรั้วกั้นไปต่อไม่ได้ คนร้ายได้บอกว่าจะเดินไปเอง จากนั้นคนร้ายเปลี่ยนที่นั่งมาตรงกลาง ก่อนจะเอ่ยปากขอเงินไปกินข้าว และนำวัตถุคล้ายอาวุธปืนออกมา ตนจึงหยิบเงินให้ไป 200 บาท แต่คนร้ายบอกให้ส่งเงินมาให้หมด พร้อมบอกด้วยว่า ไม่อยากจะลงมือทำร้าย ด้วยความกลัวจึงหยิบเงินให้ไปจำนวน 1,000 บาท แต่คนร้ายไม่พอใจจึงหยิบโทรศัพท์มือถือของตนไปด้วย ก่อนหลบหนีไป ซึ่งตอนที่รับขึ้นรถคนร้ายไม่มีทีท่าว่าจะประสงค์ร้ายแต่อย่างใด

 

ขณะที่ นายสุวรรณ สุวรรณมาโจ อายุ 46 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ เขียวเหลือง ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ขณะที่ตนกำลังขับรถออกหาผู้โดยสารบริเวณซอยกีบหมู ซ.สุเหร่าคลองหนึ่ง คนร้ายได้เรียกตนให้ไปส่งที่ตลาดมารวย จนมาถึงเส้นทางเลียบมอเตอร์เวย์คนร้ายได้บอกให้หยุดรถ และดับเครื่องยนต์ 
 

 

คิดว่าคนร้ายจะจ่ายเงินจึงเปิดไฟภายในรถและหันกลับไป ก็พบว่าคนร้ายถือวัตถุคล้ายอาวุธมีดไว้ แต่คนร้ายไม่ได้บังคับอะไร ขณะนั้นเห็นท่าไม่ดีจึงบอกว่าไม่มีเงิน เนื่องจากเป็นลูกค้ารายแรกของวัน คนร้ายจึงขอดูเงินในบัญชี ซึ่งมีอยู่เพียง 8 บาท จึงนำเงินสดให้ไปจำนวน 200 บาท และคนร้ายได้หยิบพระที่อยู่หน้ารถไป 1 องค์ รวมถึงโทรศัพท์มือถือ ตนจึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในบริเวณดังกล่าว จนทำให้คนร้ายหลบหนีไป ถ้าเจอคนร้ายอีกครั้งก็คิดว่าน่าจะจำได้

 

นอกจากนี้ยังรายงานข่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากภรรยาผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้ติดต่อไปยังโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายนำไป เพื่อขอซิมมือถือคืน ซึ่งคนร้ายได้โทรกลับ พร้อมระบุว่าให้นำเงินจำนวน 2,000 บาท มาไถ่คืน แต่ผู้เสียหายมีเงินไม่พอ คนร้ายจึงยอมลดให้เหลือ 1,000 บาท ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว 

 

โดยคนร้ายได้นัดให้ภรรยาผู้เสียหายไปพบที่วัดพระยาสุเรนทร์ และระบุให้มาคนเดียว รอนานกว่า ครึ่งชั่วโมง คนร้ายได้โทรศัพท์มาเปลี่ยนที่นัดหมายเป็นห้องน้ำในตลาดนัดสี่แยกพระพรหมคลองสอง เมื่อผู้เสียหายได้มือถือคืนมา เจ้าหน้าที่ที่ติดตามไป จึงบุกเข้าชาร์จและจับกุมตัวได้สำเร็จ 

 

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ทั้งนี้ ในวันจันทร์นี้ 7 ก.พ.เวลา 11.00 น. ทาง พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. จะเป็นผู้แถลงข่าวในรายละเอียดอีกครั้ง ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล "จับโจรจี้แท็กซี่

 

 

logoline