การพบ เด็ก "3 ขวบออสซี่" ยังมีชีวิตอยู่ในป่า หลังหายตัวไปจากบ้านถึง 3 คืนเต็ม ทิ้งปริศนาว่าเด็กน้อยคนนี้เอาตัวรอดได้อย่างไร ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าความเป็นเด็กพิเศษมีส่วน
ข่าวใหญ่ในออสเตรเลียสัปดาห์นี้ เป็นเรื่องราวของเกี่ยวกับ เด็กชาย แอนโทนี เอลฟาลัก หรือ เอเจ วัย 3 ขวบ ที่หายตัวไปจากบ้านที่สภาพแวดล้อมเป็นป่า ( bushland ) เมื่อเช้าวันศุกร์ที่แล้ว ครอบครัว ตำรวจ ทีมกู้ภัยและอาสาสมัครกว่าร้อยชีวิต กระจายกำลังค้นหาตลอด 3 วันไม่พบ จนครอบครัวเริ่มเตรียมใจรับข่าวร้าย แต่แล้วก่อนเที่ยงของวันจันทร์ ( 6 ก.ย.) เฮลิคอปเตอร์ตำรวจที่บินสำรวจก็พบเด็กชายขณะกำลังนั่งวักน้ำขุ่นคลั่กจากลำห้วยขึ้นมาดื่ม จุดที่พบนั้น อยู่ในอาณาเขตบ้านชนบทของครอบครัว ซึ่งกินพื้นที่กว่าพันไร่ และส่วนใหญ่เป็นป่ารก ทางเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์
การพบตัวเอเจซึ่งเป็นเด็กพิเศษ หรือออทิสติกและไม่พูด รอดชีวิต หลังระหกระเหินในป่า 3 คืน มีแค่รอยขีดข่วน ฟกช้ำ มดกัด และผื่นผ้าอ้อม จุดข้อสงสัยมากมายบนสื่อสังคมออนไลน์ บ้างว่าจัดฉาก เด็กไม่น่าจะเอาตัวรอดได้ลำพัง โดยไม่ได้กินอะไรเลยในป่ารก แถมอุณหภูมิตอนกลางคืนยังต่ำแตะ 5 องศาเซลเซียส
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เด็กน้อยหลงป่าสองคืนรอดปาฏิหาริย์-เล่า"หมี"ช่วยคุ้มครอง
แม่อังกฤษซึ้งใจคนแปลกหน้า นอนบนทางเท้าเป็นเพื่อนลูกชายเด็กพิเศษ พูดคุยจนสงบ
คุณแม่ตื้นตันลูกเรือ-ผู้โดยสารช่วยลูกชายออทิสติกอยู่ไม่สุข
แต่ตำรวจที่สืบสวนพฤติการณ์แวดล้อม และทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการเอาชีวิตรอดในป่า ระบุว่า อาการและบาดแผลต่าง ๆ ของเอเจ ขณะที่พบตัวนั้น สอดล้องกับการอยู่ในป่าตลอดเวลา และเชื่อว่า ความเป็นเด็กพิเศษ ช่วยให้เอเจอยู่ในความสงบได้
พนักงานสอบสวนคนหนึ่ง กล่าวว่า เอเจไม่รู้ตัวว่ากำลังหลงทาง จึงไม่ได้หวาดกลัว ไม่ตื่นตระหนก หากเหนื่อยก็หลับ ที่สำคัญ เด็กเข้าถึงแหล่งน้ำได้ ซึ่งช่วยประทังชีวิตและรอดตาย นอกจากนี้ ขณะที่เอเจได้รับการช่วยเหลือและส่งตัวขึ้นรถพยาบาลที่จอดรออยู่ เด็กชายกินพิซซา 2 ชิ้นใหญ่ และดื่มน้ำอย่างหิวโหย ซึ่งก็เป็นอาการของคนไม่ได้กินอะไรเลยมาหลายวัน
บ็อบ คูเปอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเอาตัวรอดในป่า ที่ทำงานร่วมกับตำรวจ บอกเดลีเมล์ออสเตรเลียว่า เด็กเก่งกว่าผู้ใหญ่ในเรื่องการเอาตัวรอดบางครั้ง เพราะไม่มีภาพจำมาก่อนว่าป่าเป็นอย่างไร เมื่อเหนื่อยก็นอนหลับ หนาวก็หาที่พักพิง กระหายก็หาน้ำกิน เด็กพิเศษอย่างเอเจ เป็นข้อได้เปรียบตามธรรมชาติอย่างที่สอง
สถาบัน Child Mind ระบุว่า เด็กออทิสติกอาจเดินไปทั่ว เพราะรับรู้ถึงอันตรายได้น้อยกว่าเด็กอื่น ๆ หรืออาจจะหมกมุ่นอยู่กับการสำรวจอะไรบางอย่างที่สนใจ บ้างอาจกำลังพยายามออกจากสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกกังวลใจ หรือต้องการหลบหนีจากสิ่งเร้า เช่น เสียงดัง หรือแสงสว่าง เด็กพิเศษที่เดินไปทั่ว จึงเสี่ยงสูงที่จะหลง หรือบาดเจ็บหากไปอยู่ในที่อันตราย เช่น บนถนนหรือตกน้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง