รวบท้าวแชร์ "บ้านทิชา ตุ๋นกว่า 400 คน ส่งเงินก่อนเชิดหนี สูญกว่า12 ล้าน

3 ก.ย. 2564   เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. และตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ชัยนาท ร่วมกันจับกุม นางสาวนันทิชา (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1745/2560 ลง 2 ส.ค.2560 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”

อ่านข่าวที่น่าสนใจ :

• มุกเดิมปิดบ้านหนี ผู้เสียหายแห่แจ้งจับท้าวแชร์โกงเงิน สูญหลายสิบล้าน
• ผู้เสียหายโดนโกงแชร์มู๋จ๋าร้องตร.
• นาทีชีวิต สาว19 เครียดถูก"โกงแชร์" กระโดดสะพานกลาง "เขื่อนลำปาว"

สืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณปี 2560  กลุ่มผู้เสียหายได้รู้จักกับ น.ส.นันทิชา ผ่านทางเฟซบุ๊ก ต่อมา น.ส.นันทิชา ได้ชักชวนให้กลุ่มผู้เสียหายเข้ากลุ่มไลน์ ชื่อว่า “ออมเงิน ออมทองบ้านทิชา” โดยชักชวนให้เล่นแชร์ กินดอกเบี้ย โดย น.ส.นันทิชา ได้ชักชวนให้ผู้เสียหายมาร่วมเล่นเเชร์จำนวนกว่า 400 คน และ  ยังได้สร้างสมาชิกวงแชร์ ซึ่งเป็นมือผี ต่อจากตนเองอีกหลายมือ เพื่อรับผลประโยชน์ต่อจากท้าวแชร์ โดยมือแรกจะเป็นท้าวแชร์ และมือต่อๆ มาจะเป็นมือที่ น.ส.นันทิชา กำหนดขึ้นมาเอง หรือ มือผีที่ไม่มีตัวตนจริง ซึ่งเมื่อถึงกำหนดที่ น.ส.นันทิชา จะต้องจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยตามที่ได้เล่นแชร์ไว้   น.ส.นันทิชา กลับปิดวงแชร์หลบหนีไป 

กลุ่มผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.นันทิชา ตามกฎหมาย มูลค่าความเสียหายจำนวนกว่า 12 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.นันทิชา มีประวัติเคยถูกดำเนินคดี "ฉ้อโกง" ดังนี้  วันที่ 29 มิ.ย.2560 พื้นที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในข้อหาว่ากระทำผิดฐาน “ฉ้อโกง” ,วันที่ 1 ก.ค.2560 พื้นที่ สภ.หันคา จ.ชัยนาท ในข้อหาว่ากระทำผิดฐาน “ฉ้อโกง”

กระทั่งวันที่ 2 ก.ย.2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ชัยนาท สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาจะเข้ามาทำธุระที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยนาท จึงได้วางแผการจับกุม และสามารถจับกุม น.ส.นันทิชา ได้บริเวณริมถนน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยนาท หลังจากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน  กก.2 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้น น.ส.นันทิชา ยังให้การปฏิเสธ ว่าไม่ได้โกงเงินกลุ่มผู้เสียหาย แต่ยอมรับว่าเป็นท้าวแชร์ “ออมเงิน ออมทอง บ้านทิชา” จริง ซึ่งเปิดบ้านออมเงินฯ เมื่อประมาณต้นปี 2560 โดยตนเองจ่ายเงินต้นกับดอกเบี้ยให้ทางลูกแชร์เรื่อยมา แต่ภายหลังลูกแชร์ที่ได้รับเงินต้นและดอกเบี้ยไปแล้ว กลับไม่ยอมส่งเงินให้ จึงทำให้เกิดปัญหาด้านการเงิน ไม่มีเงินจ่ายให้กับลูกแชร์รายอื่นๆ ประกอบกับในช่วงหลังเกิดปัญหาการเงิน มีผู้เสียหายมาทวงเงินจำนวนมาก ตนไม่มีเงินชดใช้ จึงได้หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ ตั้งแต่กลางปี พ.ศ.2560 นานประมาณ 4 ปี ก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทย