ข่าว

กองปราบ เร่งสอบ "ผู้กำกับโจ้" ป่วยไบโพล่า ย้ำวงจรปิดมัดแน่น ดิ้นไม่หลุด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้การกองปราบ เร่งสอบ "ผู้กำกับโจ้" ป่วยเป็นโรคไบโพล่า ย้ำคลิปวงจรปิดมัดตัวแน่น ดิ้นยังไงก็ไม่หลุด พร้อมเจาะเส้นทางการเงิน และจับกุมรถหรู 300 คัน

จากคดีสะเทือนขวัญ ซึ่งมี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ "ผู้กำกับโจ้" กับพวกรวม 7 คน ลงมือทำร้ายผู้ต้องหาคดียาเสพติด ด้วยการใช้ถุงคลุมหัว จนเหยื่อเสียชีวิต 


เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 31 สิงหาคม 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า สำหรับขั้นตอน กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้รับโอนสำนวนนคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ "ผู้กำกับโจ้" กับพวกรวม 7 คนมาทำคดี โดยมี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสืบสวนสอบสวน เรื่องนี้คณะพนักงานสอบสวน จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน จากนั้นก็จะส่งสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. 

  

ส่วนในทางคดีพนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำตำรวจ 6 นาย ซึ่งเป็นชุดจับกุมในฐานะพยาน ให้การเป็นประโยชน์ยอมรับว่า อยู่ในเหตุการณ์การจับกุมจริง  และชุดจับกุมมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ จริง แต่หลังจากนั้น จะมีพฤติกรรมอย่างไร ต้องตรวจสอบในรายละเอียด ส่วนทั้ง 6 นาย จะเข้าข่ายความผิด ฐานละเว้น การปฎิบัติหน้าที่ตาม ม.157 ด้วยหรือไม่ ความชัดเจนไม่สามารถเปิดเผยได้ ขึ้นอยู่กับคณะพนักงานสอบสวนที่มี พล.ต.อ.สุชาติ เป็นหัวหน้าคณะฯ จะพิจารณาความผิดดังกล่าว
 

 

ส่วนการขยายผลเส้นทางการเงินของ "ผู้กำกับโจ้" โดยเฉพาะการครอบครองรถยนต์หรูกว่า 300 คัน ขณะนี้มอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. เป็นผู้รับผิดชอบ ในการตรวจสอบทั้งหมด เบื้องต้นกรณีที่ "ผู้กำกับโจ้" เป็นผู้แจ้งจับรถกับกรมศุลากรกว่า 300 คัน ยังไม่ได้ชี้ชัดว่า เป็นเรื่องผิดปกติ แต่ ปอศ.ต้องสอบสวนอย่างละเอียดว่า ข้อมูลที่มีการเผยแพร่จริงหรือไม่

 

รวมทั้งผู้ที่นำเข้ารถหรู จะรู้เห็นเป็นใจกับ "ผู้กำกับโจ้" ด้วยหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ปอศ.เช่นกัน แต่ยอมรับว่าข้อมูลต่างๆ ที่แจ้งมายังตำรวจ และเผยแพร่สื่อออนไลน์ ส่วนใหญ่พบว่าเป็นข้อมูลเก่า และไม่มีตัวตนสำหรับผู้แจ้งแล้ว แต่ตำรวจจะตรวจสอบข้อมูลทุกอย่าง ที่ประชาชนแจ้งเบาะแสมา ส่วนที่สังคมมองว่าตำรวจ มีการช่วยเหลือกันหรือไม่นั้น ก็เป็นความคิดเห็นที่มองได้ แต่กองปราบปราบ ขอยืนยันว่า จะดำเนินการตามพยานหลักฐาน และให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

 

ส่วนกระแสข่าวที่ "ผู้กำกับโจ้ป่วยเป็น "โรคไบโพล่า" นั้น ขณะนี้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ว่าเป็นก่อนหรือหลัง มีการรักษาตัวหรือไม่ อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ไม่มองข้ามในประเด็นไหน

 

พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวถึงกรณีเรื่องคนนำคลิปเหตุการณ์ ขณะทำร้ายผู้ต้องหาบนโรงพักมาปล่อยว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยังไม่สามารถบอกได้ว่า เป็นคนในหรือคนนอก เพราะอาจจะเป็นคนนอกเอามาปล่อยก็ได้ แม้เรื่องจะเกิดขึ้นภายในโรงพักก็ตาม แต่ยืนยันว่า การสอบสวน หากไม่พบคนปล่อยคลิปก็สามารถดำเนินคดีได้ หากคลิปดังกล่าวไม่มีการตัดต่อ ก็ถือเป็นหลักฐานที่สำคัญ และสมบูรณ์ในการดำเนินคดี
 

 

ส่วนบิดาของผู้เสียชีวิต จะมีความผิดหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ แต่ตำรวจไปสอบปากคำมาแล้ว เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องทำอย่างรอบคอบ รวมทั้งเรื่องบุคคลที่มาช่วยเหลือนำตัว "ผู้กำกับโจ้" มาส่ง สภ.แสนสุขนั้น ตรงนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนเช่นกัน
 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ