"ผอ.รพ.บุษราคัม" ขอบคุณ"บังซา"ที่ตั้งใจสะท้อนการทำงานของทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ ดูแล้วไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไร ยืนยันให้ออกจากรพ.เพราะรักษา"โควิด-19"หายแล้ว ครบ 7วัน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุขและผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุษราคัม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนผ่านระบบออนไลน์กรณี ความคืบหน้าการให้บริการของ โรงพยาบาลบุษราคัม ว่า ตั้งแต่เปิดบริการมีเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์จากทั่วประเทศ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาปฏิบัติงานกว่า 1,800 คน โดยปฏิบัติงานวันละ 300 คน เป็นพยาบาล 200 คน เวรละประมาณ 50-60 คน เข้าไปให้การรักษาพยาบาลวันละ 5 รอบ ทำให้ภาระงานหนักมาก จึงได้ปรับลดกระบวนการทำงานและการตรวจที่ไม่จำเป็น ทั้งนี้การตรวจแยกกลุ่มผู้ป่วย เจาะเลือดกลุ่มสีเหลือง และให้ยารักษาตั้งแต่จุดแรกรับผู้ป่วย ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาเร็วขึ้น
นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วยที่ไม่มีอาการมาช่วยเป็นจิตอาสาดูแลผู้ป่วยกลุ่มละ 18 คน รวมถึงเป็นอาสาสมัครดูแลเรื่องต่าง ๆ ช่วยแบ่งเบาภาระเจ้าหน้าที่ได้อย่างมาก
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่อาสาที่ทำการไลฟ์สดในโรงพยาบาลบุษราคัม หรือบังซา ที่ภายถูกเชิญให้ออกจากโรงพยาบาลนั้น นายแพทย์กิตติศักดิ์ ได้กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณที่สะท้อนการทำงานของเจ้าหน้าที่ เท่าที่ดูก็ไม่มีการตำหนิใดๆ เพียงแต่อาจจะมีถ้อยคำที่อาจจะดูรุนแรง แต่ก็เชื่อว่าไม่มีเจตนาไม่ดีอะไร
ส่วนที่บอกว่าถูกเชิญตัวออกหลังทำการไลฟ์สดนั้น ยืนยันว่าเป็นไปตามมาตรฐานการรักษาตามแนวทางของกรมการแพทย์ โดยผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย รักษาหายแล้วครบ 7 - 10 วันให้กลับไปกักตัวที่บ้านต่อได้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยอาการหนักเข้ารับการรักษา และเมื่อรักษาครบ 14 วันจะไม่มีการตรวจหาเชื้อซ้ำ เนื่องจากผู้ป่วยอาจมีซากเชื้ออยู่ แต่ก็ถือว่าหายจากโรคแล้ว
หากผู้ป่วยสามารถกลับไปดูแลตัวเองที่บ้านได้ ก็เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยรายอื่นที่รอเตียงเข้ามา ส่วนเรื่องการถ่ายภาพต่าง ๆ ภายในพื้นที่โรงพยาบาล การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ หรือผู้ป่วย โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำที่ไม่ถูกกฎหมาย ตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541
ทั้งนี้โรงพยาบาลบุษราคัม ยินดีรับคำติชมอย่างสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาบริการ คุณภาพความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยเสมอ จึงอยากให้ช่วยกันสื่อสารทางบวก เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีกำลังใจในการทำหน้าที่มากขึ้น
ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ยังคงมีจิตอาสามาช่วยงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเจ้าหน้าที่แบคออฟฟิศที่มาช่วยงานเอกสาร กองทัพไทยส่งทหารมาร่วมประกอบเตียง เคลื่อนย้ายผู้ป่วย ส่งอาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยดูแลการจราจร และความปลอดภัยตลอด 24 ชม. รวมทั้งอาสาสมัคร จิตอาสาที่ช่วยดูแลผู้ป่วยแบ่งเบาภาระงานเจ้าหน้าที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง