ทำไมยังปิดคดี 'น้องชมพู่' ไม่ได้ ทั้งที่ผู้ต้องสงสัยมีรายเดียว  | คมชัดลึก

     พรุ่งนี้จะก้าวเข้าสู่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 เวลาจะเริ่มนับถอยหลังจากนี้ไปสำหรับข่าวดีหรืออย่างน้อยความเคลื่อนไหวสำคัญของคดี'น้องชมพู่' ตามที่ พล.ต.อ.สุฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวเอาไว้เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา 

     คดี 'น้องชมพู่' ล่วงเลยมากว่า 1 ปี แล้วตำรวจยังไม่สามารถจับผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยใด ๆ ได้เลย จนกลายเป็นประเด็นให้กับประชาชนที่ตั้งตารอคอยบทสรุปของคดีนี้อย่างใจจดใจจ่อ 

     อันที่จริงแล้วทาง 'ผบ.ตร.' ได้แถลงข่าวใหญ่ไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งในทางทฤษฎีถือว่าชัดเจนที่สุด และตัวหลักฐานต่าง ๆ ในคดี ไม่ว่าจะเป็นคำให้การของพยาน หลักฐานที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ นำมาสู่การพิสูจน์ทราบทางนิติวิทยาศาสตร์สำคัญ       

ข่าวที่เกี่ยวข้อง รู้ตัวแล้วคนร้ายคดี "น้องชมพู่" จ่อสรุปสำนวนส่งขอหมายจับสัปดาห์หน้า

 

     ขณะที่การพิจารณาถึงบุคคลต้องสงสัยจนถึงนาทีนี้เชื่อได้ว่าเหลือเพียงคนเดียว และจากแฟ้มการสอบสวนและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พุ่งเป้าไปคนคนหนึ่ง ที่รู้จักกับน้องชมพู่เป็นอย่างดี เนื่องจากลักษณะนิส้ยของน้องชมพู่จะไม่ยอมให้คนแปลกหน้าอุ้มหรือพาไปไหน 

     ลักษณะนิสัยของ 'น้องชมพู่' นำมาสู่การพิจารณาบุคคลต้องสงสัย จำกัดวงแคบลงมาเหลือราว 10 คน แต่เมื่อตำรวจได้สอบปากคำพยานแวดล้อม

     รวมไปถึงตัวบุคคลใกล้ 'น้องชมพู่' ก่อนจะนำมาพิจารณาเกี่ยวกับห้วงเวลาและความน่าเชื่อถือ ก็ทำให้ตัดทอนผู้ต้องสงสัยลงไปได้อีกจนเหลือเพียงคนเดียว เนื่องจากผูต้องสงสัยรายนี้ไม่สามารถยืนยันที่อยู่ในบางห้วงเวลาได้ 

     และจนกระทั่งมาถึงหลักฐานสำคัญอย่าง 'เส้นผม' ของ 'น้องชมพู่' ที่ถูกผู้ต้องสงสัยรายนี้หั่นเพื่อหวังดำพลางคดี แต่แล้วกลับกลายจะมาเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ และ มัดตัวเอง มากที่สุด

     เนื่องจากชุดคลี่คลายพบเส้นผมของน้องชมพู่เชื่อมโยงผู้ต้องสัย และ พบเส้นผมของบุคคลใกล้ชิดของผู้ต้องสงสัย เชื่อมโยงอีกด้วย 

     จากหลักฐานทั้งหมดที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีได้รวบรวมไว้อย่างรัดกุม พร้อมที่จะนำไปเสนอศาลจังหวัดมุกดาหาร เพื่อออกหมายจับผู้ต้องสงสัยรายนี้หนึ่งคนเป็นอย่างน้อย 

     การปิดคดี 'น้องชมพู่' ดูเหมือนว่าจะยากเย็นเหลือเกิน แต่ทางเจ้าหน้าที่รู้ดีว่าการทำงานกับคดีที่ประชาชนให้ความสนใจมาก ๆ นั้น ต้องรวบครอบที่สุด 

     การออกหมายจับ หรือ การจับกุมตัว คนร้ายในคดีนี้ ไม่ใช่ปลายทางสำคัญที่สุด แต่เป็นการต่อสู้ขบวนการในชั้นศาล 

     ทุกหลักฐานทางตำรวจต้องมีเหตุผล ใช้ได้ ได้รับการยอมรับ 

     สุดท้ายคดีนี้ผู้ต้องหาจะถูกลงโทษและได้รับโทษตามสมควร และคดีนี้จะต้องไม่ใช่การจับแพะอย่างแน่นอน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 'ลุงพล - ป้าแต๋น' หอบของออกจากหมู่บ้านกกกอกตั้งแต่เมื่อวาน