ข่าว

นายจ้างไต้หวันแสบ จ่ายเงินเดือนสุดท้ายอดีตลูกจ้างเป็นเหรียญเกือบ 9 พัน 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ใช้แรงงานแบบเอาเปรียบ  4 ปีพอลูกจ้างร้องเรียนและขอลาออก ยอมจ่ายค่าจ้างงวดสุดท้ายเกือบ 9 พันบาท เป็นเหรียญทั้งหมด 

 

ไทเป ไทมส์ และ ไต้หวัน นิวส์ สื่อไต้หวัน รายงานว่า นายจ้างรายหนึ่งในเมืองเถาหยวน ถูกวิจารณ์อย่างหนัก หลังจากที่สำนักงานแรงงานชี้ขาดให้จ่ายเงินค่าจ้างคงค้างให้กับคนงานต่างชาติ จำนวน 8,938 ดอลลาร์ไต้หวัน (พอๆกับเงินบาทไทย)  เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา แต่กลับใช้วิธีจ่ายเป็นเหรียญ 1 ดอลลาร์ไต้หวันทั้งหมด 

ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานต่างชาติซินจู่ นำภาพมาเผยแพร่บนเพจเฟซบุ๊ก พร้อมเล่าที่มาของภาพเหรียญกองพะเนินบนโต๊ะว่า แรงงานต่างชาติที่ใช้ชื่อว่า เอส  ทำงานเป็นแม่บ้านให้กับครอบครัวหนึ่งมานาน 4 ปี แต่ถูกใช้ให้ช่วยธุรกิจขายอาหารของครอบครัวควบคู่ไปด้วย  ซึ่งถือว่าผิดข้อตกลง เพราะเป็นงานนอกเหนือจากหน้าที่ทั้งยังไม่จ่ายค่าทำงานล่วงเวลา การทำงานหนักเป็นเวลานาน ทำให้เธอเหนื่อยล้าจนทนไม่ไหว เมื่อรายงานไปที่นายหน้า ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ เธอขอลาออกแต่นายจ้างไม่ยอม ให้รอจนกว่าจะคนมาแทน เมื่อเธอไม่ยอมทำงาน  นายจ้างขู่ว่าจะริบค่าจ้างที่เหลือ และเรียกค่าชดเชย 4 หมื่นดอลลาร์ไต้หวัน ถ้าเธอลาออกไปหางานใหม่ก่อนกำหนด  

 

นายจ้างไต้หวันแสบ จ่ายเงินเดือนสุดท้ายอดีตลูกจ้างเป็นเหรียญเกือบ 9 พัน 

Facebook/Hsinchu.HMISC

 

สำนักงานแรงงานเถาหยวนเรียกสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ย เมื่อวันที่ 26 มีนาคม นายจ้างยินยอมให้เธอเปลี่ยนงานได้ และยอมจ่ายค่าจ้างที่ยังค้างอยู่ แต่กลับใช้วิธีจ่ายเป็นเหรียญ 1 ดอลลาร์สองถุงเต็มๆ นำมาวางบนโต๊ะให้อดีตลูกจ้างนับเอาเอง  

 

นายจ้างไต้หวันแสบ จ่ายเงินเดือนสุดท้ายอดีตลูกจ้างเป็นเหรียญเกือบ 9 พัน 

 

Chen Chiu-mei  หัวหน้าสำนักงานแรงงานต่างชาติเถาหยวน กล่าวว่า ทุกคนในที่เจรจาอึ้งไปตามๆกัน นายจ้างพูดว่า “มีปัญหาอะไรกับเหรียญ มันก็เงินไต้หวันเหมือนกัน”  อย่างไรก็ดี  เจ้าหน้าที่บอกให้เธอหิ้วเหรียญทั้งหมด ไปที่สำนักงานไปรษณีย์ฝั่งตรงข้ามให้ช่วยนับและเปลี่ยนเป็นธนบัตร  

ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานต่างชาติซินจู่ ซึ่งเป็นเอ็นจีโอ ระบุว่า นอกจากไม่ขอโทษแล้ว นายจ้างยังดูแคลนแรงงานต่างชาติด้วยการจ่ายเป็นเงินเหรียญ พฤติกรรมเช่นนี้ ไม่เคยพบเห็นมาก่อน และทำให้ชาวไต้หวันทุกคนที่อยู่ในที่นั้น รู้สึกอับอายอย่างยิ่ง 

ที่มา/ภาพ Taipei Times  Facebook/Hsinchu.HMISC

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ