ข่าว

หนุ่มเสริมงาม กลับจาก กทม.ยอมกักตัวเองทันทีในกระท่อมปลายนาท้ายหมู่บ้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ลำปาง "ผมทำเพื่อส่วนรวม" หนุ่มเสริมงามกลับจาก กทม.ยอมกักตัวเองทันทีในกระท่อมปลายนาท้ายหมู่บ้าน

หนุ่มเสริมงาม กลับจาก กทม.ยอมกักตัวเองทันทีในกระท่อมปลายนาท้ายหมู่บ้าน

หลังจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ในประเทศไทยระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2563 จากจังหวัดสมุทรสาคร และได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในบริเวณจังหวัดใกล้เคียง หลายคน เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง สีส้มและสีแดงกลับบ้านช่วงหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่แต่ไม่ยอมทำตามมาตรการของทางภาครัฐ และยังคงเดินทางไปในหลายพื้นที่ เพราะคิดว่าตนเองไม่เป็นผู้ติดเชื้อดังกล่าวแน่นอน และภายหลังเกิดอาการป่วยเนื่องจากติดเชื้อ Covid-19 ซึ่งตรวจพบภายหลังว่าเป็นผู้นำเชื้อเข้ามาในพื้นที่และสร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมส่วนรวม

หนุ่มเสริมงาม กลับจาก กทม.ยอมกักตัวเองทันทีในกระท่อมปลายนาท้ายหมู่บ้าน

 

หนุ่มเสริมงาม กลับจาก กทม.ยอมกักตัวเองทันทีในกระท่อมปลายนาท้ายหมู่บ้าน

 

แต่สำหรับชายคนนี้ หนุ่มวัยทำงานจากตำบลเสริมซ้าย อำเภอเสริมงาม ที่ได้เดินทางกลับบ้าน และรู้ตัวดีว่ามาจากพื้นที่เสี่ยงอย่างกรุงเทพมหานคร เมื่อมาถึงพื้นที่ในจังหวัดลำปางได้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ ตามมาตรการของทางอำเภอเสริมงามและจังหวัดลำปาง ยอมกักตัวเองอยู่ที่กระท่อมปลายนาของตน เพื่อกักตัวเองเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม โดยชายผู้กักตัวเองได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฯ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือว่า

หนุ่มเสริมงาม กลับจาก กทม.ยอมกักตัวเองทันทีในกระท่อมปลายนาท้ายหมู่บ้าน

"ผมได้ทำงานเป็นเชฟ อยู่ในโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร วางแผนจะกลับลำปางมาอยู่กับครอบครัวต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2564 แต่แล้วเมื่อกลางเดือนธันวาคม 2563 ในประเทศไทย เริ่มพบผู้ติดเชื้อ Covid-19 จากตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร และขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าเริ่มทยอยยกเลิกจองงานจัดเลี้ยงกับทางโรงแรมเกือบ 90% ในวันที่ 25 ธันวาคม 2563 ผมจองตั๋วเครื่องบินกลับลำปางวันที่ 1 มกราคม 2564 สถานการณ์พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากทุกวัน กรุงเทพมหานครกลายเป็นพื้นที่สีแดง ผมจึงได้โทรประสานงานกับสาธารณสุขอำเภอเสริมงามและ อสม.บ้านสบแม่ทำ โดยแจ้งประสงค์ว่าผมจะทำตามมาตรการเคร่งครัดทุกอย่าง ก่อนกักตัวในกระท่อมปลายนาท้ายหมู่บ้าน เพราะที่บ้านพักมีเด็กเล็กและมีผู้สูงอายุ (สมัครใจมากักเอง) วันที่ 1 มกราคม 2564 ผมเดินทางถึงสนามบินจังหวัดลำปางและนั่งหลังรถกระบะเข้าสู่ที่กักตัวโดยไม่ได้สัมผัสใครและเว้นระยะห่าง พร้อมสวมหน้ากากอนามัยป้องกันอยู่ตลอดเวลา" เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความรู้สึกที่ตั้งใจกักตัวเองในครั้งนี้ ได้รับคำตอบจากชายดังกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า "ผมยอมโดดเดี่ยวเพื่อคนหมู่มากครับ"

 

หนุ่มเสริมงาม กลับจาก กทม.ยอมกักตัวเองทันทีในกระท่อมปลายนาท้ายหมู่บ้าน

 

หนุ่มเสริมงาม กลับจาก กทม.ยอมกักตัวเองทันทีในกระท่อมปลายนาท้ายหมู่บ้าน

 

อย่างไรก็ตามการกักตัวของชายดังกล่าวเดินทางมาถึงวันที่ 4 มกราคม 2564 แล้ว เหลือเวลาอีก 10 วันหรือราวสองสัปดาห์ที่เขาจะต้องใช้ชีวิตตามลำพังในกระท่อมเล็ก ๆ จนกว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไป และเป็นไปตามมาตรการการคัดกรองที่สมบูรณ์ ที่สำคัญเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม เมื่อกลับบ้านจากพื้นที่เสี่ยงสีแดงและสีส้ม "ต้องกักตัวเอง 14 วัน"

หนุ่มเสริมงาม กลับจาก กทม.ยอมกักตัวเองทันทีในกระท่อมปลายนาท้ายหมู่บ้าน

 

หนุ่มเสริมงาม กลับจาก กทม.ยอมกักตัวเองทันทีในกระท่อมปลายนาท้ายหมู่บ้าน

 

หนุ่มเสริมงาม กลับจาก กทม.ยอมกักตัวเองทันทีในกระท่อมปลายนาท้ายหมู่บ้าน

อัมรินทร์ วะนะวิเชียร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดลำปาง

#โปรดีๆ ลดต่อเนื่อง จากลาซาด้า ไม่ซื้อได้ไง คลิกเลย

หนุ่มเสริมงาม กลับจาก กทม.ยอมกักตัวเองทันทีในกระท่อมปลายนาท้ายหมู่บ้าน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ