สาวท้องแจ้งความ หลังถูกตำรวจบุกเข้าบ้านกลางดึก อ้างมาจับยา แต่นำเงินเจ้าของบ้านติดไปด้วย ส่วนตำรวจทั้ง 5 นาย ที่ได้เข้าไปในบ้านของผู้เสียหายนั้นได้มีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี
วันนี้ 7 ม.ค.2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางสาว เอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี อาศัยอยู่ หมู่ 2 ต.เตาปูน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ว่าถูกตำรวจบุกเข้าไปตรวจค้นยาเสพติดในบ้านในยามวิกาล โดยไม่มีหมายตรวจค้น และไม่พบยาเสพติด แต่อย่างใด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวยังนำเงินที่ตนเองตั้งใจว่าจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์ไปด้วย โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้าน
หลังได้รับการร้องเรียนผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว โดยพบกับนางสาว เอ (นามสมมุติ) ซึ่งอยู่พร้อมกับนางทิพย์ ทองมอญ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นป้า และนาย บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซึ่งทั้งสามคนนั้นอยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด โดยนางสาวเอ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 4 ม.ค. ตนกำลังนอนอยู่ในห้องนอน จู่ๆ ได้มีชายฉกรรจ์ 2 คน เดินเข้าไปในห้องนอน ซึ่งตนเองนั้นก็ตกใจและถามว่าเข้ามาทำไม ก็ได้รับคำตอบว่ามาตรวจค้น ตนจึงถามว่ามีหมายค้นหรือไม่ ชายทั้งสองคนก็บอกว่าในนั่งเฉยๆ และถามหานายอดิศร ทองมอญ อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นสามีของตนเอง ที่เพิ่งจะพ้นโทษออกมาจากเรือนจำกลางราชบุรี ในข้อหาพยายามฆ่า เมื่อประมาณ 1 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งตนก็บอกว่าไม่อยู่ จากนั้นก็พากันออกมาด้านนอกก็พบว่ามีผู้ชายอีกหลายคนอยู่ที่หน้าบ้าน โดยกำลังถกเถียงกับนายบี ซึ่งเป็นน้องชายอยู่ เนื่องจากน้องชายของตนนั้นสอบถามว่ามีหมายค้นหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มี และทำให้ทราบว่าชายทั้งหมดนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้นชายสองคนก็ให้ตนพาเข้าไปตรวจค้นภายในบ้าน ซึ่งก็ไม่พบอะไรที่ผิดกฎหมาย แต่ไปพบเงินสดในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง จำนวน 9,500 บาท ชายสองคนก็ถามว่าเงินอะไร ตนจึงบอกว่าเป็นเงินที่จะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์ ตนจึงวางเงินเอาไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง และเดินออกมาพอดีผู้เป็นป้าเดินมา ตนจึงได้ไปเก็บเงินจำนวนนั้นไว้กับตัว แต่ชายสองคนนั้นก็ยังสอบถามว่าเงินที่พบเมื่อสักครู่อยุ่ไหน ป้าก็บอกว่าเก็บไว้แล้ว ชายสองคนจึงให้นำเงินทั้งหมดใส่ถุง โดยอ้างว่าจะนำไปตรวจเบอร์แบงก์ เนื่องจากได้ทำการล่อซื้อยามา จากนั้นชายทั้งหมดก็ยังได้ขอเบอร์โทรศัพท์ของลุงไปด้วย ซึ่งทราบต่อมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่เข้ามาตรวจค้นนั้นได้โทรศัพท์ติดต่อให้นำเงินจำนวน 30,000 บาท ไปเคลียร์คดี ทางลุงของตนจึงได้ให้สามีของตนนำเงินจำนวน 30,000 บาท ไปให้ จากนั้นก็ไปแจ้งความในข้อหาบุกรุกในยามวิกาล และลักทรัพย์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด ที่สภ.เขาดิน อ.โพธาราม ทำให้ทราบว้าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปตรวจค้นที่บ้านนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.โพธาราม และจะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุดด้วย เพราะทำเกินกว่าเหตุและขโมยเงินเอาไปด้วย แต่ต่อมาเมื่อตนไปแจ้งความทางตำรวจก็นำเงินจำนวน 9,500 บาทมาคืน โดยนำไปฝากไว้กับแม่ของตนเองที่อยู่ที่ตำบลบ้านฆ้อง อ.โพธาราม โดยแม่ของตนได้โทรศัพท์มาบอกหลังจากที่ได้แจ้งความแล้ว
ด้านนายอดิศร ทองมอญ สามีของนางสาว เอ (นามสมมุติ) ก็บอกว่า วันเกิดเหตุนั้นตนออกไปธุระนอกบ้าน และมาทราบข่าวหลังจากที่ตำรวจกลับไปแล้ว และทางลุงก็โทรมาบอกว่าให้หาเงินจำนวน 30,000 บาท ไปเคลียร์คดี ตนนั้นไม่อยากจะมีปัญหา จึงได้หยิบยืมเพื่อนเพื่อเอาไปให้ และมาทราบทีหลังว่าทางตำรวจก็ยอมคืนเงินมาให้ทั้งหมด หลังทราบว่าทางเราไปแจ้งความที่สภ.เขาดิน แล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี ก็บอกว่า หลังได้รับรายงานเรื่องทั้งหมด ก็ได้ให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.เขาดิน ได้ทำการเร่งรัดสอบสวนพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อจะได้ดำเนินคดี ส่วนตำรวจทั้ง 5 นาย ที่ได้เข้าไปในบ้านของผู้เสียหายนั้น ได้ให้มาช่วยราชการที่ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี ซึ่งในเรื่องของคดีนี้นั้นก็จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ภัทรพงศ์ คำเปรม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ราชบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง