เหตุการณ์ยิง 4 ศพสังเวยบ่อนกลางกรุงที่รู้จักในนามบ่อน "เฮียตี้" กระทบกระเทือนถึงเก้าอี้ตำรวจทั้งในระดับพื้นที่ และระดับสูง "สังคมเกิดตั้งคำถามทำไมจึงมีการเปิดบ่อนการพนันกลางกรุง และไม่มีตำรวจเข้าไปจับกุมแต่อย่างใด ถือเป็นคดีที่สร้างผลกระทบกับวงการ"สีกากี
ในรอบปี 2563 มีหลายคดีที่สร้างความสะเทือนใจ ระทึกขวัญ หนึ่งในคดีที่สำคัญต้องหนีไม่พ้น คดียิงในบ่อน“เฮียตี้” ย่านพระราม 3 ตาย 4 ศพ โดยผู้ตายหนึ่งในนั้นเป็นถึงตำรวจระดับสารวัตร พ.ต.ต.วัทธเศรษฐ์ สำเนียงประเสริฐ สว.(สอบสวน)สน.แสมดำ "คม ชัดลึก ออนไลน์" ย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลางดึกวันที่ 23 สิงหาคม 2563 เสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ภายในอาคารพาณิชย์ เลขที่ 501/237 ถ.พระราม 3 ซอย 66 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: "บรรยิน" อุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาต่อรองคดีหุ้น
ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 4 ชั้นปลูกติดกัน 10 คูหา ชั้นล่างเชื่อมต่อถึงกัน ทำเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ มีประตูใหญ่และประตูลับด้านข้าง และที่สำคัญรอบอาคารมีกล้องวงจรปิดติดอยู่หลายสิบตัว โดยอาคารแห่งหนึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นของ “เฮียตี้” เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงการพนันระดับประเทศ มีการเปิดทั้งบ่อนการพนันและตู้ม้าไฟฟ้ากระจายทั่วประเทศ โดยข้อมูลเชิงลึกระบุว่าเป็นลูกน้องของ“บิ๊กสีกากี”คนหนึ่ง
ภายในตึกพบผู้เสียชีิวิต 4 ราย 1.พ.ต.ต. วัทธเศรษฐ์ สำเนียงประเสริฐ หรือ สารวัตรแม็ก สารวัตรสอบสวน สน.แสมดำ นรต.รุ่น 65 ซึ่งเข้ามาเล่นการพนัน , 2.นายถาวร สีสด อายุ 51 ปี นักพนัน 3.นางเมา สะแลเปา อายุ 29 ปี ชาวกัมพูชา คนแจกไพ่ และน.ส.พีรญา นุ่มละมูล นักพนันอีกราย เมื่อดูจากจุดเกิดหตุลักษณะการยิงแบบยิงถล่ม เพราะผู้เสียชีวิตแต่ละรายอยู่ไม่ห่างกันมากนัก น่าจะเป็นการยิงกันมากกว่า 1 จุด
จากการสอบสวนตำรวจระบุว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือนายถาวรนั้น เป็นผู้ที่ลงมือสังหาร พ.ต.ต.วัทธเศรษฐ์,นางเมาและนางพีรญา โดยขณะเกิดเหตุชุลมุน นายถาวรได้ถูกมือสังหารยิงเสียชีวิตทันที โดยผู้ที่ลงมือยิงคือ นายพิพิธ หรือ บอย ศรีสุวรรณ์ หรือบอย บ้านครัว วัย 61 ปี เมื่อตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานชัดเจน จึงได้ขออำนาจศาลและอนุมัติหมายจับ
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 นายบอย ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจสน.ทุ่งมหาเมฆในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมกับปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนขนาด 9 มม.
โดยที่เขารับสารภาพว่า เข้าไปเล่นพนัน ไม่ได้เกี่ยวพันเป็นอะไรกับเจ้าของบ่อน โดยเห็นเหตุการณ์ตอนที่นายถาวรกราดยิงปืนไปทั่วอย่างเสียสติ โดยสารวัตรแม็กพยายามเข้าไปเจรจาเคลียร์ปัญหา จึงถูกยิงระยะประชิด และทำท่าจะยิงตัวเอง ตนเข้าไปห้ามให้วางปืนลง แต่เจ้าตัวไม่ยอมและเกิดการยิงต่อสู้กัน จนนายถาวรวิ่งหนีไปทางห้องน้ำ ตนจึงยิงตามไปยิงก่อนที่จะหลบหนีออกมา
จากนั้นตำรวจได้คุมตัวฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2563 พร้อมกับค้านประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เมื่อศาลสอบผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขัง และไม่มีผู้มายืนหลักทรัพย์ขอประกันตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
คดีนี้ถือเป็นคดีที่ส่งผลกับเก้าอี้นายตำรวจระดับสูงเป็นอย่างมาก เพราะเกิดคำถามถึงการทำงานตำรวจ ว่าทำไมจึงมีบ่อนการพนันอยู่ใจกลางกรุง ถ้าไม่มีเหตุการณ์อุกอาจนี้เกิดขึ้นเรื่อง “บ่อน”จะถูกปิดเงียบไปด้วยเช่นกัน
เรื่องนี้ทำให้ “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น) ได้ขีดเส้นให้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จับกุมคนร้ายให้ได้ภายใน 3 วัน ก่อนที่นายบอยจะเข้ามอบตัวในที่สุด
และสุดท้ายการแต่งตั้งระดับนายพลตำรวจประจำปี 2563 จำนวน 142 ตำแหน่งนั้น พบว่าพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังสามารถรักษา เก้าอี้คุมบังเหี้ยน“นครบาล”ได้เหมือนเดิม
"บ่อนการพนัน" ยังสะท้อนปัญหาเรื้อรังที่หน่วยงานของรัฐอย่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ไม่อาจจัดการได้อย่างเด็ดขาด เพราะลองมองกลับมาที่เวลาปัจจุบัน แม้บ่อนที่ จ.ระยอง ไม่มีความสูญเสีย แต่มันก็พอยืนยันได้ว่า บ่อนการพนันจะอยู่สังคมไทยตลอดไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง