ข่าว

ผู้เชี่ยวชาญจีนชี้โอกาสทางการค้าและลงทุนในจีนจะต้องมีเป้าชัดเจนและทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้เชี่ยวชาญจีนชี้โอกาสทางการค้าและลงทุนในจีนจะต้องมีเป้าชัดเจนและทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด  ขณะระบบแฟรนไชส์จะเป็นโอกาสของธุรกิจเอมเอ็มอีไทย ย้ำการนำสินค้าจากจีนมาปรับแต่งต่อยอดให้สู่ตลาดใหม่ก็เป็นอีกช่องทางธุรกิจที่น่าจับตา

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของอบรมในโครงการ”มองจีนยุคใหม่ที่สื่อไทยควรรู้”ปีที่3 จัดโดยสมาคมนักข่าวฯร่วมกับสถานทูตจีนประจำประเทศไทยในระหว่าง 11-15 พฤจิศกายน 2563 ที่ผ่านมา โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านจีนดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน ได้บรรยายพิเศษถึง”โอกาสทางการค้าและการลงทุนของไทยในแดนมังกร” โดยระบุว่านักลงทุนไทยจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน และจะต้องลงทุนในสินค้าที่ตัวเองถนัด เพราะไม่เช่นนั้นจะเริ่มต้นด้วยการติดลบ และที่สำคัญจะต้องเดินทางไปดูไปสัมผัส สถานที่จริงเพื่อวิเคราะห์ความต้องการได้อย่างตรงจุด
“จีนเป็นตลาดใหญ่ก็จริง แต่ว่าไม่หมูนะ นักลงทุนไทยไปลงทุนที่จีนเจ็บตัวมาก็เยอะ ประสบความสำเร็จมาก็มาก ฉะนั้นจะต้องวางแผนให้ดีและทำอย่างเป็นระบบ  ยกตัวอย่างดอกบัวคู่ บ้านเรารู้จักในนามยาสีฟัน แต่ที่จีนยอดขายหลักสินค้าดอกบัวคู่คือรังนก พอเขาเข้าไปก็เห็นโอกาส พ่อแม่จีนที่มีฐานะวันนี้ อยากซื้ออาหารอะไรก็ตามที่เขาเชื่อว่าบำรุงสมอง บำรุงร่างกายให้กับลูกหลานเขา ส่วนยาสีฟันในจีนคู่แข่งเยอะใครๆ ก็ผลิตยาสีฟันได้ แต่รังนกไม่ใช่ทุกคนจะผลิตได้ วันนี้ดอกบัวคู่ เป็นผู้จัดหน่ายรังนกพร้อมดื่มที่ใหญ่ที่สุดในจีน”ดร.ไพจิตรยกตัวอย่าง
                                        ผู้เชี่ยวชาญจีนชี้โอกาสทางการค้าและลงทุนในจีนจะต้องมีเป้าชัดเจนและทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด

                                         ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน

     ผู้เชี่ยวชาญจีนชี้โอกาสทางการค้าและลงทุนในจีนจะต้องมีเป้าชัดเจนและทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด

นอกจากนี้รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีนยังมองว่า สินค้าในระบบแฟรนไชส์ก็เป็นสิ่งน่าสนใจถ้าจะนำไปจำหน่ายในจีน โดยเฉพาะสินค้าในธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีเงินทุนน้อย ขายผ่านระบบแฟรนไชส์จะดีที่สุด เพราะจีนทำตามสิ่งที่บอกเก่งมาก ถ้าเรามีระบบดี เขาก็จะทำตามนั้น เหมือนกับสิ่งที่เรากำหนดเอาไว้ ยกเว้นพวกนอกลู่ ดังนั้นการลงทุนในระบบแฟรนไชน์ ในจีนก็จะสามารถเกาะเกี่ยวและเติบโตได้ในระยะยาว  
 “เหตุผลก็เพราะว่าเอสเอ็มอีบ้านเรามีเงินทุนจำกัด ถ้าเราคิดอยากจะเข้าเมืองจีน บางเมืองมีประชากรครึ่งประเทศไทย ถ้าเกิดเข้าไปแล้ว เมืองเดียวคุณหมดทุนรอนแล้วจะทำอย่างไร  แต่ถ้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรระบบแฟรนไชส์ก็จะได้ประโยชน์”

            ผู้เชี่ยวชาญจีนชี้โอกาสทางการค้าและลงทุนในจีนจะต้องมีเป้าชัดเจนและทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด
  ดร.ไพจิตรยอมรับว่าในทางกลับกัน จีนมีฐานการผลิตสินค้าใหญ่ของโลกบางครั้งเราไม่จำเป็นต้องไปแข่งขันกับเขา แต่ไปเอาสินค้าเขามาต่อยอดเพื่อผลผลิตขายในตลาดอื่น ๆ เช่นตลาดอินเดีย เอเชียใต้หรือออสเตรเลียเพียงแต่ต้องไปดูว่าเขามีอะไรแล้วมาประกอบกับของเราที่มีอยู่แล้วนำมาต่อยอดให้แตกต่างจากต้นแบบเดิมเพื่อเข้าไปสู่ตลาดใหม่
 “ลักษณะนี้ผมคิดว่าทำให้เราเติบโตอย่างเป็นขั้นเป็นตอนยั่งยืนมากขึ้น ถ้าเรามีระบบ มีโมเดลธุรกิจที่ชัดเจนก็จะทำให้เราเติบโตได้ดีในเมืองจีน เพราะสภาพในตลาดเมืองจีนวันนี้มีทั้งความเร็วและความโหดอยู่ที่เราต้องปรับตัวอย่างไรให้อยู่ได้ตลอดเวลา เมื่อเราเข้าไปแล้วเราก็จะเห็นโอกาสและความท้าทายอยู่ในจีน”

           ผู้เชี่ยวชาญจีนชี้โอกาสทางการค้าและลงทุนในจีนจะต้องมีเป้าชัดเจนและทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด
  ดร.ไพจิตรยังกล่าวถึงการเติบโตเศรษฐกิจจีนอย่างก้าวกระโดดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาว่าเป็นเพราะรัฐบาลจีนได้มีการวางแผนอย่างเป็นระบบและเป็นขั้นเป็นตอนว่าจะก้าวไปสู่จัดไหนอย่างไร ซึ่งเป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมจีน ซึ่งปีหน้า 2564 จะเป็นปีแรกและใช้เวลา 5 ปีจะสิ้นสุดในปี 2025 โดยแผนพัฒนาฯฉบับนี้จะเน้นด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมมากที่สุด
  “อีกอย่างที่จะไปควบคู่กับนโยบายรัฐบาลคือตัวคนจีนเองเป็นนักคิด ที่จริงจีนเป็นนักประดิษฐ์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว  วันนี้เขามีเทคโนโลยี มีงานวิจัยและพัฒนามาต่อยอดทำให้เทคโนโลยีนวัตกรรมเป็นไปอย่างรวดเร็ว พอเกิดรูปธรรม รัฐบาลก็มามองว่าทำอย่างไรให้สินค้าเหล่านี้จะมีเวทีในเชิงพาณิชย์ เช่นระยะแรกหาช่องทางจัดจำหน่ายให้กับคนที่คิดพัฒนาสินค้า   ซึ่งอาจจะไม่ดีกับตลาดส่งออก แต่พร้อมสำหรับตลาดในประเทศหรือตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศจีนด้วยต้นทุนที่ถูก ทำให้เขาสามารถที่จะพัฒนาทำให้นวัตกรรเหล่านี้มีรายได้จากการคิดที่จะพัฒนาต่อยอดไปสู่สินค้าเวอร์ชั่นใหม่ๆ แล้วยกระดับที่สูงขึ้นเพื่อก้าวไปสู่การส่งออก”
  รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีนย้ำด้วยว่าวันนี้คนจีนถูกสอนถูกดดันให้แก้ปัญหาตอบโจทย์ผู้ใช้สินค้าให้เกิดความสะดวก ไม่เช่นนั้นสินค้าก็จะขายไม่ได้และเมื่อเขาคิดประดิษฐ์เหล่านั้นขึ้นมา ขณะเดียวกันรัฐบาลจีนก็จะให้การสนับสนุนทั้งแหล่งเงินทุนและการต่อยอดสินค้าสู่เชิงพาณิชย์ผ่านโครงการต่าง ๆ และสร้างเวทีให้คนเหล่านี้ได้เกิดและเติบโตผ่านเวทีการแข่งขันระหว่างกันตลอดเวลา
“เด็กจีนวันนี้ถูกหล่อหลอมให้ต้องคิดและปฏิบัติให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อต่อยอดไปสู่เชิงพาณิชย์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก รัฐบาลจีนเอง เขาก็ไปดึงคนเก่ง ๆ ค่าตัวแพง ๆ จากทั่วโลก รัฐบาลเขาลงทุนจ่ายให้มาสอนเด็กจีนเพื่อให้เด็กจีนได้คิดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เมื่อคิดประดิษฐ์สินค้าขึ้นแล้วมาตอบโจทย์ว่าแล้วจะแข่งในเชิงพาณิชย์ได้หรือไม่ ภาคธุรกิจจะรองรับได้ไม๊ ถ้าได้คุณจะขายสิทธิบัตรไม๊ ถ้าไม่ขายจะร่วมทุนกันไม๊ ตีค่าผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบนี้เท่าไหร่แล้วระบบแบบนี้ จีนเขามีระบบเปอร์เซนต์แบ่งผลประโยชน์ตอบแทนย้อนกลับไปยังอาจารย์ด้วย” 
 ดร.ไพจิตร ยังกล่าวถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเกาะเกี่ยวไปกับจีนและต้องทำตัวเหมือนเหาฉลาม ที่จะต้องก้าวไปด้วยกัน โดยการเรียนลัดจากหลักคิดที่จีนดำเนินการ  พร้อม ๆ กับการเรียนรู้จากประเทศอื่น ๆ  แต่สิ่งสำคัญที่สุด เมื่อเรียนรู้แล้วจะต้องนำมาต่อยอดปรับแต่งให้มีกลิ่นอายของความเป็นประเทศไทย ให้เหมาะสมกับสภาพ แวดล้อมและและวัฒนธรรมไทย หากเป็นเช่นนี้ได้ก็จะทำให้เราเดินหน้าการพัฒนาในธุรกิจและอุตสาหกรรมได้อย่างเป็นระบบและเท่าทันกับการเติบโตของจีน  

 โปรลาซาด้า

ผู้เชี่ยวชาญจีนชี้โอกาสทางการค้าและลงทุนในจีนจะต้องมีเป้าชัดเจนและทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ