ข่าว

พท.ยัน ดันตั้ง กมธ.วิสามัญตรวจสอบใช้งบ 1.9 ล้านล้านบาท

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เพื่อไทย ยืนยัน ดันตั้ง กมธ.วิสามัญ ตรวจสอบใช้งบ 1.9 ล้านล้านบาท ต้องรายงานสภา ทุก 3 เดือน อัดรัฐไม่สร้างความเชื่อมั่น สร้างความหวาดกลัว หวั่นใช้เงินไม่มีประสิทธิภาพ

 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการติดตามการเสนอ พ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับ รวมทั้งจะมีการพิจารณา พ.ร.บ.โอนงบประมาณ 2563 ว่าพรรคเพื่อไทยมีความไม่สบายใจ อยากให้รัฐบาลนึกถึงความยากลำบากของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ต้องละความเห็นแก่ตัวลง ไม่ใช่ความมั่นคงของรัฐบาล ไม่ใช่ประโยชน์ของพรรคการเมือง แต่ต้องมองประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก พรรคเพื่อไทยเห็นช่องโหว่ของ พ.ร.ก. 3 ฉบับและ พ.ร.บ.ที่กำลังจะเข้าที่ประชุม

ทั้งนี้ สิ่งที่พรรคเพื่อไทยกังวล และมองเห็นหายนะด้านเศรษฐกิจที่กำลังจะมาถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดว่าไม่เก่งเศรษฐกิจแต่มีความจริงใจ ตนเห็นด้วยที่นายกฯไม่เก่งเศรษฐกิจจริงๆ ส่วนเครื่องความจริงใจตนมองไม่เห็น ทั้งเรื่องการนำเสนอ พ.ร.ก.3 ฉบับ และการบริหารเศรษฐกิจที่ผ่านมา สิ่งที่พรรคเพื่อไทยอภิปราย เน้นเห็นด้วยกับ พ.ร.ก.ว่าต้องทำ แต่สิ่งที่คัดค้าน คือในรายละเอียดไม่มีความชัดเจน ว่าเงินที่ใช้ลงไปจะได้เยียวยาฟื้นฟูและพัฒนาเศษฐกิจจริงและการใช้เงินอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ใช้เงินอย่างไม่โปร่งใส 

ดังนั้นต้องการจะแก้ พ.ร.ก.ฉบับนี้ ให้ตรวจสอบได้ โดยการตั้งกรรมาธิการและรายงานงบประมาณทุกๆ 3 เดือน เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยให้ทุกคนช่วยกันตรวจสอบให้เงินไม่รั่วไหล ส่วน พ.ร.บ.โอนงบประมาณปี 2563 พรรคเพื่อไทยเสนอว่าควรตัดงบปี 63-64 ก่อนแล้วค่อยไปกู้เงิน แต่รัฐบาลแสดงความไม่จริงใจโดยการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน ก่อนและจึงพิจารณา พ.ร.บ.โอนงบฯ นอกจากนี้การตัดงบประมาณก็ไม่จริงใจเพราะแต่ละหน่วยงานตัดน้อยมาก ทั้งนี้มีการอ้างว่ากู้เพื่อช่วยโควิดแต่การตัดงบประมาณนี้กลับนำไปไว้ในงบกลาง ที่นายกรัฐมนตรีมีอำนาจเพียงคนเดียวในการใช้ จึงจำเป็นต้องอภิปรายและเสนอให้มีการตรวจสอบ 

ด้าน ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านนโยบายและแผนงาน นายโภคิน พลกุล กล่าวถึงการทำงานหลังจากผ่านการอภิปรายพระราชกำหนด 3 ฉบับ ว่า ต้องขอชื่นชม ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยที่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนอย่างเต็มที่และไม่ต้องการให้ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อ้างว่าการชนะโควิด -19 ได้คือมีผู้ป่วยน้อยมากเป็นผลงานของตนเอง เพราะจริงๆแล้วเป็นผลงานของทุกคนโดยเฉพาะประชาชนคนไทย

โดยที่ผ่านมาวิสัยทัศน์ของรัฐบาลแทนที่จะสร้างความเชื่อมั่นความหวังให้กำลังใจประชาชน กลับสร้างความหวาดกลัวกับสถานการณ์โควิด ซึ่งประชาชนเสียสละมากและไม่มั่นใจในอนาคตว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ทั้งนี้การใช้เงิน 1.9 ล้านล้านบาทนั้นยังไม่มีความชัดเจนขาดเป้าหมายและตัวชี้วัด รวมถึงการตรวจสอบที่ยากมากๆ ดังนั้นอาจจะการทุจริตคอรัปชั่นในรูปแบบต่างๆ ซึ่งมีความชอบมาพากลแฝงมาตั้งแต่แรกจึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด

ดังนั้น จึงต้องการให้ผลักดันให้มีการตั้งกรรมาธิการเพื่อตรวจสอบการใช้เงินและ เตรียมร่างกฎหมายพระราชบัญญัติแก้ไขพระราชกำหนด เพื่อให้มีการรายงานการทำงานของรัฐบาลทุกๆ 3 เดือน ด้านธนาคารแห่งประเทศไทยก็จะต้องรายงานการใช้เงินทั้งหมด ทุกๆ 15 วันหรือ 1 เดือน รวมถึงพลักดันให้มีกฎหมาย สภาSMEs ขึ้น เพื่อสร้างมาตราฐานร่วมกันในกลุ่มเอสเอ็มอี  

พท.ยัน ดันตั้ง กมธ.วิสามัญตรวจสอบใช้งบ 1.9 ล้านล้านบาท


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ