ข่าว

"หงส์แดง"ปะทะ"นกขมิ้น" เกมเปิดหัวพรีเมียร์ลีกซีซั่นใหม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เตรียมกลับมาเปิดฉากแข่งขันกันในค่ำคืนนี้ (9 ส.ค.) สำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ อังกฤษ ซีซั่นใหม่ ฤดูกาล 2019-2020

โดยคู่เปิดหัวจะลงห้ำหั่นกันเพียงคู่เดียวของเกมวันศุกร์ระหว่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล รองแชมป์ฤดูกาลก่อน ลงปะทะ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี น้องใหม่ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาในฐานะรองแชมป์ลีกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ

 

ลิเวอร์พูล - นอริช

 

สนาม : แอนฟิลด์

 

เวลา : 02.00 น. (คืนวันศุกร์ที่ 9 ส.ค.ตามเวลาบ้านเรา)

 

ผู้ตัดสิน : ไมเคิล โอลิเวอร์ (อังกฤษ)

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

ลิเวอร์พูล

เสมอ แมนฯ ซิตี 1-1 (แพ้ จุดโทษ 4-5) คอมมูนิตี ชิลด์

ชนะ ลียง 3-1 อุ่นเครื่อง

แพ้ นาโปลี 0-3 อุ่นเครื่อง

เสมอ สปอร์ติง ลิสบอน 1-1 อุ่นเครื่อง

แพ้ เซบีญา 1-2 อุ่นเครื่อง

 

 

นอริช

ชนะ ตูลูส 1-0 อุ่นเครื่อง

แพ้ อตาลันตา 1-4 อุ่นเครื่อง

ชนะ ลูตัน ทาวน์ 5-1 อุ่นเครื่อง

แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-3 อุ่นเครื่อง

ชนะ ชาลเก 2-1 อุ่นเครื่อง

 

ความพร้อมของทั้ง 2 ทีม

ลิเวอร์พูล

 

เป็นที่แน่นอนว่าสามประสานแนวรุกตัวหลักของฝั่ง หงส์แดง จะเหลือแค่ โรแบร์โต ฟีร์มิโน กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โดยชื่อที่ขาดหายไปก็คือ ซาดิโอ มาเน สตาร์เซเนกัล ที่ยังไม่พร้อมจะลงช่วยทีมบู๊ในเกมเปิดหัวนัดนี้

 

ดาวยิงวัย 27 ปี เพิ่งจะกลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังได้ไฟเขียวจากเจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ หยุดพัก 16 วัน จากภารกิจรับใช้ทีมชาติเซเนกัล บ้านเกิด ในศึกแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ ที่นักเตะพาทัพสิงโตแห่งเตรันกาทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศแต่ต้องอกหักได้แค่ตำแหน่งรองแชมป์

 "หงส์แดง"ปะทะ"นกขมิ้น" เกมเปิดหัวพรีเมียร์ลีกซีซั่นใหม่

สำหรับตำแหน่งแนวรุกริมเส้นที่จะเข้ามาทดแทน เกมที่แล้วในนัดชิงโล่การกุศล คอมมูนิตี ชิลด์ ที่เสียท่าให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี ในการดวลจุดโทษ “คลอปป์” เลือกจะให้โอกาส ดิวอค โอริกี ดาวเตะเลือดเบลเยียม และสำหรับเกมกับนอริช สื่ออังกฤษหลายสำนักก็ยังคาดว่า โอริกี จะยังได้โอกาสนี้ตามเดิม ในระบบแนวรุก 4-3-3

 

กลางสนาม ฟาบินโญ ตัวตัดเกมชาวบราซิเลียน ซึ่งช่วงปรีซีซั่นได้รับโอกาสลงเล่นมากกว่าดาวเตะทุกรายในตำแหน่งมิดฟิลด์ จะยังคงได้รับความไว้วางใจให้ลงประจำการ โดยจะประสานงานร่วมกับกัปตันทีม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และจอร์จินิโอ ไวนัลดุม ซึ่งหากเป็นตามนี้เท่ากับสามกองกลางจะไม่เปลี่ยนโฉมหน้าจากเกมนัดชิงโล่การกุศลกับเรือใบสีฟ้า แม้จะมีเสียงค่อนขอดที่การปั้นเกมดูจะเป็นรองคู่แข่งในนัดที่ผ่านมา แต่นาทีนี้ นาบี เกอิตา ที่ดูจะเป็นตัวสอดแทรกก็ดูยังไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร

 

ขณะที่ เจมส์ มิลเนอร์ กองกลางพลังไดนาโม เต็มที่น่าจะแค่กลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรองเท่านั้นหลังมีปัญหาบาดเจ็บกล้ามเนื้อเล็กน้อย

 

มาดูกันต่อที่แนวรับจากรายงานของดิ เอ็กซ์เพรส สื่อเมืองผู้ดี ระบุชัด แอนดี โรเบิร์ตสัน, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และเทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ จะเป็นสามตัวเลือกแรกที่ลงประจำการ ซึ่งอีกหนึ่งตำแหน่งที่ต้องชั่งใจ เจอร์เกน คลอปป์ คือจะเลือกใครลงจับคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟกับ ฟาน ไดค์ ระหว่าง โจ โกเมซ ที่นัดก่อนได้รับโอกาส กับ โจเอล มาติป ตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมายิงประตูตีเสมอให้ทีม และเดยัน ลอฟเรน ปราการหลังโครแอต

 "หงส์แดง"ปะทะ"นกขมิ้น" เกมเปิดหัวพรีเมียร์ลีกซีซั่นใหม่

สื่อเจ้าดังกล่าวจิ้มไปที่โกเมซ ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องความเร็ว เป็นตัวเลือกแรกเหนือรายชื่อเซ็นเตอร์แบ็กทั้งสามรายที่กล่าวมา แต่เมื่อถึงเวลานั้นก็ไม่แน่ว่า มาติป ซึ่งมีภาษีดียามเล่นคู่กับฟาน ไดค์ ก็อาจจะได้โอกาสก่อนเช่นกัน

 

ส่วนเรื่องของนักเตะเจ็บ ลิเวอร์พูล มีแค่ชื่อของ นาธาเนียล ไคลน์ แบ็กขวาเลือดผู้ดี รายเดียวเท่านั้นที่ยังต้องรักษาตัวในโรงหมอ

 

นอริช

 

นกขมิ้นเหลืองอ่อน ภายใต้การคุมทัพของ ดาเนียล ฟาร์เคอ ผู้จัดการทีมวัย 42 ปี คนบ้านเดียวกับเจอร์เกน คลอปป์ นำทีมสร้างผลงานในช่วงปรีซีซั่นได้ดีทีเดียว โดยเกมชัยชนะไปถึง 3 เกม แพ้ 2 เกม และเสมออีก 1 นัด

 

โดยตลาดนักเตะหน้าร้อนที่ผ่านมาทีมใช้เงินสำหรับคว้าตัวแข้วใหม่ไป 4 ล้านปอดน์ โดย แซม ไบแรม แบ็กขวา คือแข้งค่าตัวแพงสุด 750,000 ปอนด์ ที่ดึงมาจาก “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และน่าจะได้ลงบู๊ในเกมนี้ทันที

 "หงส์แดง"ปะทะ"นกขมิ้น" เกมเปิดหัวพรีเมียร์ลีกซีซั่นใหม่

การจัดทัพ นอริช จะหมดสิทธิ์ใช้งาน คริสตอฟ ซิมเมอร์มานน์ กองหลังเยอรมนี, อเล็กซ์ เทตตี และหลุยส์ ธอมป์สัน 2 กองกลาง ที่ยังมีปัญหาบาดเจ็บเล่นงาน

 

ขณะที่ ทิม โคลส ยังมีปัญหาเจ็บบริเวณสะโพกต้องลุ้นว่าจะผ่านความฟิตทันหรือไม่

 

อย่างไรก็ตาม ตีมู พุคกี เจ้าของผลงาน 30 ประตู ซีซั่นที่แล้วจะยังเป็นตัวทีเด็ดในแดนหน้าให้ทีมน้องใหม่ โดยมี แพทริค โรเบิร์ต หัวหอกดาวรุ่งวัย 22 ปี ซึ่งยืมมาจากแมนฯ ซิตี เป็นตัวสอดแทรก

 

สถิติน่าสนใจก่อนเกม

 

- สถิติการพบกันของทั้ง 2 ทีม ลิเวอร์พูล ไม่เคยแพ้ให้ นอริช เลยตลอด 12 เกมหลังสุดที่พบกัน นับตั้งแต่ปี 1994 โดยหงส์แดง ยิงได้ทั้งหมด 39 ประตู และเป็นฝ่ายเอาชนะไป 10 เกมจากจำนวนทั้งหมด ซึ่งผลงานบุกชนะถึงถิ่นแคร์โรว์ โรด 5-4 รังเหย้าของทีมนกขมิ้นเมื่อมกราคมปี 2016 คือเกมล่าสุดที่ทั้งคู่ลงเผชิญหน้ากัน

 

- ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ทีมใดยามลงเล่นในแอนฟิลด์มาแล้ว 40 เกม

 

- ลิเวอร์พูล ไม่เคยแพ้ทีมน้องใหม่ตลอด 25 นัด ยามเฝ้ารังในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

 

สุดท้ายนี้ก็ต้องมาดูกันว่าสถิติก่อนเกมจะโดนทำลาย หรือยืดอายุออกไปก็คงต้องมาลุ้นกันในคืนนี้ซึ่งจะเริ่มคิกออฟเวลา 02.00 น. คืนวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ