ข่าว

แท็กซี่ติด EM ลักทรัพย์เข้าเรือนจำ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โฆษกศาลยุติธรรม แจงขั้นตอน ปลด EM ถอนประกัน โชเฟอร์แท็กซี่ติดกำไลข้อเท้า EM ลักนาฬิกาโรเล็กซ์ผู้โดยสาร

 

               26 ม.ค. 62  จากกรณีที่ นายอานนท์ ล่าชัย อายุ 34 ปี ซึ่งเคยได้รับการปล่อยชั่วคราวชั้นศาล ด้วยการติด อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กำไลข้อเท้า EM ในคดีลักทรัพย์ผู้โดยสารแท็กซี่ในเวลากลางคืน กลับก่อเหตุคดีอื่นลักทรัพย์อีก ขณะขับรถแท็กซี่รับจ้างโดยลักทรัพย์นาฬิกาข้อมือ Rolex ราคา 250,000 บาท ของผู้โดยสารที่นั่งโดยสารจากปากซอยเอกมัย 7 เพื่อกลับบ้านพักย่านติวานนท์ โดยเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาฝากขังครั้งแรกคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน คดีใหม่ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้

 

 

 

               นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า กำไล EM เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่จะใช้สำหรับตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทางของบุคคลที่ตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ได้รับการปล่อยชั่วคราว โดยกำไล EM สามารถระบุได้ว่าตัวบุคคลนั้นเดินทางไปที่ไหน กระทำผิดเงื่อนไขเรื่องการเดินทางออกนอกเคหะสถานที่กำหนดและนอกเหนือเวลาที่กำหนดหรือไม่ แต่จะไม่สามารถระบุได้ว่า ตัวบุคคลนั้นไปกระทำหรือก่อเหตุอะไร อย่างไรก็ดี ตามหลักเกณฑ์การปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยด้วยการใส่กำไล EM หากผู้ต้องหาหรือจำเลย ได้กระทำผิดซ้ำหรือปฏิบัติผิดเงื่อนไข ศาลนั้นมีสิทธิ์นำตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยนั้นมาปลดอุปกรณ์ EM ซึ่งถือเป็นการถอนหลักประกัน ไม่ให้ปล่อยชั่วคราวด้วย โดยตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยนั้นต้องถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำต่อไป

               โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวอธิบายต่อว่า สำหรับขอบเขตเงื่อนไข การปล่อยชั่วคราวด้วยกำไล EM นั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะความผิดและการกำหนดเงื่อนไขของผู้ต้องหาหรือจำเลยแต่ละราย ว่าจะมีการจำกัดบริเวณไว้มากน้อยแค่ไหน บางรายอาจจะจำกัดบริเวณได้ถึงทั่วประเทศ แต่ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ หรือบางรายอาจจะจำกัดไว้ในแค่บางเขต บางจังหวัด ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบุคคล หากใครฝ่าฝืนเดินทางเกินเขตที่กำหนด เครื่องกำไล EM จะส่งสัญญาณเตือนไปที่ ศูนย์ควบคุมติดตามการปล่อยตัวชั่วคราวและการบังคับตามคำสั่งศาลโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อมีการผิดเงื่อนไขก็จะดำเนินการจับกุมและปลดกำไล EM เพื่อควบคุมตัวเข้าสู่เรือนจำต่อไป

 

 

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ดีสำหรับ นายอานนท์ ล่าชัย ผู้ต้องหาก่อคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืนดังกล่าว เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 62 เวลา 02.00 น. เศษ ซึ่งหลังจากพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ รับตัวผู้ต้องหามาเมื่อค่ำวันที่ 24 ม.ค. แล้ว จึงได้นำตัวมาขออำนาจศาลฝากขังในคดีใหม่ไว้เมื่อวันศุกร์ที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมาแล้ว ก็ไม่มีญาติหรือบุคคลใดมายื่นขอประกันตัวชั้นฝากขังนี้อีก ปัจจุบันตัว นายอานนท์ ก็ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยศาลอาญากรุงเทพใต้อนุญาตให้ฝากขังครั้งแรกตามคำร้องของพนักงานสอบสวนสนทองหล่อ เป็นเวลา 12 วัน เนื่องจากต้องสอบปากคำ 6 ปาก และรอตรวจสอบของกลาง กับผลตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหา โดยการฝากขังครั้งนี้ พนักงานสอบสวน ก็ได้คัดค้านการให้ประกันตัวนายอานนท์ ผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

               ขณะที่ นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงกรณีนายอานนท์ โชเฟอร์แท็กซี่ถูกติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM) ตามเงื่อนไขประกันตัวในคดีลักทรัพย์ ก่อเหตุลักทรัพย์ผู้โดยสารซ้ำ ว่า นายอานนท์เคยถูกตำรวจ สน.ทองหล่อ จับกุมดำเนินคดีในความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 61 และศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 2 ปี แต่ผู้ต้องหาได้ยื่นอุทธรณ์ ศาลจึงสั่งติดกำไล EM ระหว่างประกันตัวสู้คดี แต่กลับมาก่อเหตุซ้ำอีกรอบ กรมคุมประพฤติจึงได้รายงานพฤติกรรมนายอานนท์ต่อศาลว่าไม่เหมาะสมที่จะใช้วิธีคุมประพฤติโดยติดกำไล EM จากนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลจะสั่งลงโทษอย่างไรต่อไป ส่วนใหญ่หากมีการกระทำผิดซ้ำศาลจะสั่งติดคุกตามระยะเวลาต้องโทษเดิม ส่วนคดีที่ก่อเหตุใหม่ศาลจะพิจารณาเพิ่มโทษตามกฎหมายต่อไป

               นายประสาร กล่าวอีกว่า กรมคุมประพฤติเตรียมหารือกับกรมราชทัณฑ์เพื่อติดกำไล EM กับผู้ต้องขังที่ได้รับการพักการลงโทษ เพื่อยกระดับการควบคุมไม่ให้กระทำผิดซ้ำ และต้องมารายงานตัวเจ้าหน้าที่ตามกำหนด ร่วมกับการบริการสังคมตามเงื่อนไขด้วย

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ