ข่าว

อธิบดีกรมน้ำ โวย สตง. ดิสเครดิต หักงบ 10%

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สั่งอธิบดีกรมน้ำชี้แจงด่วน หลังสั่งกันงบทุกหน่วยงาน 10% อธิบดีกรมน้ำสวนกลับ สตง. คิดอะไรอยู่มาดิสเครดิต ระบุ หารือสำนักงบแล้ว

   
             15 ส.ค.60 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายประกิต พงษ์แสงสน ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบการบริหารพัสดุและสืบสวนที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานตวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เพื่อให้ชี้แจงเรื่องการจัดสรรงบประมาณในปี 2561 ของกรม
             หนังสือดังกล่าวระบุว่าทาง สตง.ได้รับข้อมูลว่า กรมทรัพยากรน้ำกำหนดแนวทางในการจัดสรรงบประมาณปี 2561 ว่า “ให้สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรน้ำใช้กรอบฐานของงบประมาณปี 2560 และ 2559 เป็นกรอบในการจัดสรรงบประมาณให้ทุกหน่วยงาน โดยเก็บที่ส่วนกลางไว้ร้อยละ 10 สำหรับงบสำรวจ ควบคุมงาน และอื่นๆ ให้จัดสรรตามสัดส่วนของโครงการที่ได้รับในแนวทางการกันไว้ร้อยละ 10 เช่นเดียวกัน”
             “สตง.พิจารณาแล้วเห็นว่าการจัดสรรงบประมาณตามแนวทางของกรมทรัพยากรน้ำดังกล่าว ไม่ปรากฏว่ามีแนวทางหรือหลักเกณฑ์ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ” หนังสือ สตง.ระบุ

 

อธิบดีกรมน้ำ โวย สตง. ดิสเครดิต หักงบ 10%

อธิบดีกรมน้ำ โวย สตง. ดิสเครดิต หักงบ 10%


             ในหนังสือดังกล่าว ได้สั่งให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำดำเนินการ 2 อย่าง คือ 1.ตวจสอบการดำเนินการดังกล่าว หากพบว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง ขอให้พิจารณาทบทวน 2.ชี้แจงรายละเอียดการจัดสรรงบประมาณตามแนวทางดังกล่าว และถามด้วยว่าในปีงบประมาณ 2560 และ 2559 ได้ดำเนินการในแนวทางนี้หรือไม่ โดยให้ชี้แจงกลับมาภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2560 
             ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องดังกล่าว สืบเนื่องมาจากการที่นายวรศาสน์ อภัยพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ ได้ทำหนังสือถึงเวียนถึงหน่วยงานต่างๆของกรม โดยอ้างถึงการประชุมผู้บริหารกรมทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 5/2560 เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยสั่งให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการดำเนินการตามมติที่ประชุมตามเอกสารแนบ โดยเอกสารแนบได้ระบุมติที่ประชุมในเรื่องการกันงบประมาณ 10% ไว้อย่างชัดเจน 

อธิบดีกรมน้ำ โวย สตง. ดิสเครดิต หักงบ 10%

 

อธิบดีกรมน้ำ โวย สตง. ดิสเครดิต หักงบ 10%


             ทั้งนี้หลังจากอธิบดีทำหนังสือเวียนดังกล่าว ได้มีข้าราชการในกรมทรัพยากรน้ำสงสัยในวิธีจัดสรรงบประมาณดังกล่าวว่าสามารถทำได้หรือ จึงได้ทำเรื่องสอบถามไปยัง สตง. และทาง สตง.ได้มีหนังสือมาถึงอธิบดีดังกล่าว
             ด้านนายวรศาสน์ เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือชี้แจงกลับไปยัง สตง.แล้ว ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีการทุจริตแน่นอน แต่เป็นเรื่องของการบริหารจัดการงบประมาณเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งได้สอบถามไปทางสำนักงบประมาณแล้วว่าสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งสำนักงบก็บอกว่าทำได้จึงทำ
             อธิบดีกรมน้ำ บอกว่า ที่ต้องใช้การกันงบประมาณไว้ 10% เพราะปีที่ผ่านมากรมน้ำแทบจะเป็นกรมต้นๆของกระทรวงที่เบิกจ่ายงบประมาณได้น้อยที่สุด คือไม่สามารถดำเนินการได้ เรียกว่า แทบจะไม่มีผลงานอะไรออกมา เพราะติดขัดเรื่องงบประมาณ จึงให้กันงบประมาณไว้ 10% ให้เหมือนเป็นงบสำรองอยู่ที่ส่วนกลาง หากส่วนงานไหนมีปัญหาติดขัดก็เอางบจากส่วนกลางไปให้ก่อนเพื่อให้งานสามารถเดินไปได้ ซึ่งงบประมาณส่วนนี้ไม่ใช่งบลงทุนที่จะไปจ้างใครทำอะไร แต่เป็นงบดำเนินงาน เป็นค่าใช้จ่ายให้ขเาราชการ เจ้าหน้าที่ใช้ในการดำเนินงาน เช่นค่าน้ำมัน ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พักต่างๆ
             “ไม่เข้าใจว่า สตง.คิดอะไรอยู่จึงให้ข้าราชการระดับผู้อำนวยการมาเซ็นต์หนังสือแทนผู้ว่าการ และส่งมาถึงอธิบดี โดยมารยาทในการทำงานเขาไม่ทำกัน และการทำมาแบบนี้เหมือนจะให้สังคมเข้าใจว่ามีการทุจริตทั้งที่ไม่ใช่ สื่อให้สังคมเข้าใจว่าเป็นเรื่องทุจริต เป็นการหักค่าหัวคิว หรือเหมือนกรณีเงินทอนวัด จึงอยากให้ผู้ว่า สตง.ช่วยดูด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นเรื่องหวังดีประสงค์ร้ายหรือไม่ ต้องการดิสเครดิตกรมทรัพยากรน้ำหรือไม่” อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าว

             ต่อมา ผู้ว่า สตง.ได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ (อ่านต่อ...ผู้ว่า สตง. ชี้ ตรวจสอบไม่ใช่ดิสเครดิต)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ