ข่าว

จำคุก 27 ปี !! "พล.ท.มนัส" ค้ามนุษย์โรฮิงญา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จำคุกหนัก 75 - 78 ปี "โกโต้ง-บรรจง-บังสัน-บังเบส" อดีตนักการเมืองท้องถิ่นสงขลา-สตูล ส่วน "นายหน้าพม่า" โดน 94 ปี สุดท้ายรวมโทษตามกฎหมายจำคุกสูงสุด 50 ปี

 

               19 ก.ค. 60  เมื่อเวลา 21.00 น. ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก  ภายหลัง องค์คณะผู้พิพากษาคดีค้ามนุษย์ในศาลอาญา ใช้เวลาอ่านคำพิพากษาคดีค้ามนุษย์แรงงานโรฮิงญาชาวเมียนมาและบังกลาเทศกว่า 500 หน้า นานร่วม 12 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 08.30 น.

               องค์คณะผู้พิพากษาคดีค้ามนุษย์ในศาลอาญา ได้มีคำพิพากษาให้จำคุก 78 ปี นายบรรจง หรือ จง ปองพล อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา จำเลยที่ 1 , นายอ่าสัน หรือ หมู่สัน หรือ บังสัน อินทธนู อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ จำเลยที่ 2 และนายประสิทธิ์ หรือ เดช หรือ บังเบส หรือ บังเค เหล็มเหล๊ะ อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลปาดังเบซาร์ จำเลยที่ 6 ที่เป็นอดีตผู้บริหารท้องถิ่นและอดีตสมาชิกท้องถิ่น ฐานค้ามนุษย์บุคคลที่อายุไม่เกิน 15 ปี และอายุเกิน 15 ปี กับอายุเกิน 18 ปี และมีส่วนร่วมอาชญากรรมข้ามชาติ

               จำคุุก 74 ปี จำเลยที่ 10 , 11 , 53 , 99 , 101 ส่วนจำเลยที่ 39 , 56 คงจำคุกคนละ 37 ปี

               จำคุก 94 ปี นายซอเนียง อานู หรือ อันวา หรือ โซไนท์ จำเลยที่ 46 อายุ 42 ปี สัญชาติเมียนมา เป็นนายหน้าขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศไทย ซึ่งนอกจากความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์แล้วยังผิดฐานให้ทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งถือเป็นจำเลยที่ได้รับโทษสูงสุด

               จำคุก 76 ปี จำเลยที่ 12 , 47 กับ จำคุก 57 ปี จำเลยที่ 4 กับ จำคุก 79 ปี จำเลยที่ 5 กับ จำคุก 77 ปี จำเลยที่ 18 , จำคุก 57 ปี 9 เดือน จำเลยที่ 28 , จำคุก 50 ปี 16 เดือน จำเลยที่ 43

               จำคุก 75 ปี นายปัจจุบัน หรือ โกโต้ง อังโชติพันธุ์ อดีตนายก อบจ.สตูล จำเลยที่ 29

               จำคุก 75 ปี จำเลยที่ 16 , 38 และจำคุก 50 ปี จำเลยที่ 40 กับ จำคุก 76 ปี จำเลยที่ 57 , 58 กับ จำคุก 22 ปี จำเลยที่ 17 , 96 กับ จำคุก 14 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 3 , 20

               จำคุก 23 ปี จำเลยที่ 8 , 30 , 45 , 48 , 49 , 50 , 51 , 81 กับ จำคุก 11 ปี 6 เดือน จำเลยที่ 21 , 55  กับ จำคุก 15 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 44 และจำคุก 17 ปี 3 เดือน จำเลยที่ 13 , 19

               ส่วน พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก จำเลยที่ 54 , พ.ต.ท.ชาญ อู่ทอง จำเลยที่ 31 , ร.ต.ต.นราทอน สัมพันธ์ จำเลยที่ 33 และนายอาบู หรือ ส.จ. บู ฮะอุรา อดีต ส.อบจ. อ.ควนโดน จ.สตูล จำเลยที่ 14 จำคุกเป็นเวลา 27 ปี

               จำคุก 79 ปี จำเลยที่ 22 กับ จำคุก 77 ปี จำเลยที่ 27 , 48 และจำคุกจำเลยที่ 5 เป็นเวลา 57 ปี 9 เดือน

               จำคุก 19 ปี จำเลยที่ 59 , 60 , 65 , 66 , 67 , 74 , 79 , 87 , 97 , 100 ส่วนจำเลยที่ 78 และ 88 จำคุก 14 ปี 3 เดือน

               จำเลยที่ 22 , 25 , 27 , 28 , 29 , 38 , 43 , 46 , 47 , 48 , 53 , 57 , 58 , 99 และ 100 ซึ่งรวมโทษทุกกระทงแล้วเกินกว่า 50 ปี จึงให้ลงโทษสูงสุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 วงเล็บสาม จำคุกไว้คนละสูงสุด 50 ปี

               ส่วนจำเลยที่เหลือ 40 ราย พิพากษายกฟ้อง โดยให้ขังจำเลยจำนวน 28 ราย จาก 40 รายไว้ก่อนในระหว่างอุทธรณ์

               และให้จำเลย 62 ราย ที่ศาลพิพากษาลงโทษ ร่วมกันชดใช้เงินค่าเสียหายต่อเสรีภาพ กับทุกข์ต่อจิตใจและร่างกาย และการขาดรายได้ทำมากินกับผู้เสียหายทั้งที่เป็นเด็กชาย 7 ราย และผู้เสียหายที่อายุกว่า 15 ถึง 18 ปี จำนวน 58 คนด้วย ตั้งแต่รายละ 50,000 - 159,000 บาท รวมเป็นเงิน 4,400,250 บาท

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ซึ่งเริ่มอ่านคำพิพากษานั้น ศาลได้อ่านคำตัดสินเสร็จสิ้นทั้งหมดช่วงเวลาประมาณ 21.50 น. อย่างไรก็ดี เนื่องจากขณะนี้ล่วงเลยเวลาทำการแล้ว จำเลยที่ประสงค์จะยื่นประกันระหว่างต่อสู้อุทธรณ์นั้น ยังไม่สามารถยื่นคำร้องได้ โดยจำเลยจะต้องถูกคุมตัวไปขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และทัณฑสถานหญิงกลางก่อน โดยเมื่อเริ่มทำการเวลาราชการสามารถยื่นประกันตัวได้ ส่วนจำเลย 12 ราย ที่ศาลไม่ได้มีคำสั่งให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ ก็จะได้รับการปล่อยตัวที่เรือนจำต่อไป

               ทั้งนี้ ผลคำพิพากษาดังกล่าวเป็นการตัดสินของศาลชั้นต้น ซึ่งกฎหมายยังเปิดโอกาสให้จำเลยยื่นอุทธรณ์สู้คดีได้

               โดยคดีนี้นับเป็นประวัติศาสตร์ของการอ่านคำพิพากษาคดีอาญามาราธอนนาน 12 ชั่วโมง โดยองค์คณะฯ 9 คน ผลัดเปลี่ยนอ่านคำพิพากษาโดยมีการพักเบรก 2 ครั้งๆ ละ 30 นาทีเท่านั้น และเป็นคดีแรกที่ได้มีการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้บริหารท้องถิ่น , ข้าราชการ , ทหาร กระทั่งมีคำตัดสินลงโทษ ขณะที่คดีนี้ศาลใช้เวลาไต่สวนพยานกว่า 200 ปาก ช่วง มี.ค. 59 - 24 ก.พ. 60

               นายชัชวร เปียกลิ่น ทนายความดาบตำรวจอัศณีย์รัญ นวลรอด จำเลยที่ 7 กล่าวว่า โดยในวันนี้ศาลอาญา พิพากษาจำคุกจำเลยไป 62 คน และยกฟ้องจำเลยไป 40 คน ซึ่งลูกความของตนเป็นจำเลยที่ 7 และเป็นตำรวจ ศาลมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องในข้อหาอื่นทั้งหมด ยกเว้น ปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ให้จำคุก 4 ปี ก็ถือว่าโทษไม่สูงมาก โดยศาลสั่งให้ขังจำเลยไว้ระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งเราก็พอใจโทษที่ศาลตัดสิน แต่ก็มีสิทธิ์อุทธรณ์ ซึ่งเข้าใจว่าญาติคงขอยื่นประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ แต่ศาลจะพิจารณาหรือไม่นั้นก็ไม่ทราบ

               นายชัชวร กล่าวว่า คดีนี้จำเลยที่ศาลยกฟ้องไปนั้นเนื่องจากพยานหลักฐานไม่สามารถนำสืบได้ เพราะพยานหลักฐานอ่อน ไม่เพียงพอว่าได้กระทำผิด ส่วนที่ศาลลงโทษก็มีไม่เท่ากัน 70 - 80 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับความผิดว่าจำเลยเหล่านั้นได้กระทำความผิดในฐานความผิดอะไรบ้าง โดยส่วนมากจำเลยที่ศาลยกฟ้องจะยังให้ขังระหว่างอุทธรณ์ มีส่วนน้อยที่ศาลจะปล่อยเลย ซึ่งจำเลยที่ศาลปล่อยโดยไม่ขังระหว่างอุทธรณ์จะเห็นว่าพฤติการณ์ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด แต่ที่ให้ขังระหว่างอุทธรณ์นั้นเพราะยังมีเหตุสงสัยอยู่ จึงควรให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้กลั่นกรองอีกครั้ง

 

 

จำคุก 27 ปี !! "พล.ท.มนัส" ค้ามนุษย์โรฮิงญา

 

103 รายชื่อจำเลย คดีค้ามนุษย์ โรฮิงญา (ที่นี่...)

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ