ข่าว

“ปลัดกีฬา” เดินหน้าลุย มวยไทยไปโอลิมปิก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ปลัดกีฬา” พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ สั่งเดินหน้าลุยยุทธศาสตร์ 5-10 ปี หลัง “มวยไทย” ได้รับการรับรองจากโอลิมปิกสากล มีลุ้นบรรจุในอนาคต อย่างเร็วที่สุด ในปี 2024

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับข่าวดีจากดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (อิฟมา) ว่าคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ได้รับรองกีฬา “มวยไทย” ที่อยู่ในกระบวนการที่จะผลักดันเข้าสู่กีฬาโอลิมปิกเกมส์ในอนาคต  เนื่องด้วย “มวยไทย” มีองค์กรในแต่ละชาติไม่ต่ำกว่า 135 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งนักมวยกว่า 4 แสนคนขึ้นทะเบียนนักกีฬาในปัจจุบัน

“ปลัดกีฬา” กล่าวว่า กระทรวงมีแผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับกีฬามวยมาโดยตลอด และนับจากวันนี้เป็นต้นไปจะเดินหน้าลุยอย่างเต็มที่ โดยได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ 5-10 ปีร่วมกัน ซึ่งกระทรวงมีหน่วยงานในสังกัดที่พร้อมบูรณาการในการส่งเสริมสนับสนุนอย่างเต็มที่ อาทิ กรมพลศึกษา มีสถาบันอนุรักษ์ศิลปะมวยไทย จะทำงานเชิงรุกเป็นผู้วางรากฐานมวยไทยตั้งแต่ระดับพื้นฐานเยาวชน ชุมชน โดยผ่านเจ้าหน้าที่พลศึกษาเป็นผู้ขับเคลื่อน, การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จะต้องพัฒนาต่อยอดจากระดับพื้นฐานเพื่อสร้างความเป็นมืออาชีพ และให้การสนับสนุนในการผลักดันนักกีฬามวยไทยเพื่อออกไปคว้ารางวัลและสร้างชื่อเสียงในระดับสากล, สถาบันการพลศึกษา (สพล.) คือหัวใจสำคัญที่จะสร้างคน สร้างอาชีพและสร้างการศึกษา เพื่อที่จะรองรับให้นักกีฬาสามารถประกอบอาชีพอย่างมีศักดิ์ศรีโดยมีวุฒิการศึกษาเป็นหลักประกัน ภายหลังการเลิกเล่นกีฬา

นายพงษ์ภาณุ กล่าวอีกว่า มวยไทย มีประวัติศาสตร์คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน และได้รับการยอมรับในระดับสากล จึงนับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งอย่างเร็วที่สุด มวยไทยก็มีโอกาสจะได้รับการบรรจุแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ 2024 หากการดำเนินการผลักดันสำเร็จ ประเทศไทย ก็จะมี “ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกมวยไทย” อย่างแน่นอน

นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. กล่าวเสริมว่า ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ ไอโอซี รับรองมวยไทยให้เป็นกีฬาโอลิมปิกชั่วคราว 3 ปี ดังนั้น ในช่วง 3 ปีหลังจากนี้สมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ จะต้องพัฒนากีฬามวยไทยให้เป็นที่ยอมรับ และให้งบประมาณสนับสนุนพัฒนาด้านต่างๆ ทั้งเรื่องการจัดการแข่งขัน การพัฒนาเยาวชน และการเสริมสร้างกิจกรรมให้มวยไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมทั้งการตัดสินต้องยุติธรรม เพื่อเพิ่มโอกาสในการพิจารณาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกีฬาโอลิมปิกในอนาคต หากไม่มีการพัฒนาให้เป็นที่ยอมรับมวยไทยก็อาจถูกถอดออกจากกีฬาโอลิมปิก และก็จะมีกีฬาอื่นเข้ามาแทน

นายสกล ยังแสดงความเห็นด้วยว่า สิ่งที่กังวลใจมากที่สุดเกี่ยวกับการพัฒนามวยไทยคือปัญหาความขัดแย้ง เพราะที่ผ่านมาหลายองค์กรมวยไทยก็มักอ้างสิทธิ์ต่างๆ จนนำไปสู่ความขัดแย้งมาตลอด ซึ่งหาก อิฟมา ได้รับมอบหมายจาก ไอโอซี ให้ดำเนินการ ก็ควรจะเดินหน้าทำตามกระบวนการอย่างเต็มที่ อย่าไปทะเลาะกับองค์กรมวยไทยอื่นๆ ที่เข้ามาอ้างสิทธิ์ เพราะจะทำให้การทำงานล่าช้าไม่ทันตามกำหนด 3 ปี

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ