เอดีบีปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้เพิ่มจากโต 3% มาอยู่ที่ 3.2% มองเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว ผู้ว่าธปท.ระบุส่งออกสัญญาณดีขึ้นแต่ต้องจับตาต่อเนื่อง ห่วงศก.โลกยังเปราะบาง
นางลักษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโส ประจำประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยว่า เอดีบีได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2559 จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 3% เพิ่มเป็น 3.2% หลังครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยการบริโภคขยายตัว 2.8% สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 2.5% และการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 1% ส่วนการลงทุนภาครัฐเติบโต 9.5-9.8% อย่างไรก็ตาม การส่งออกในปีนี้คาดว่าจะติดลบ 1-2%
สำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2560 ยังคงคาดการณ์ไว้ที่ 3.5% เท่าเดิมจากอานิสงส์ของโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐและแนวโน้มการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชน ส่วนการส่งออกน่าจะกลับมาขยายตัวอีกครั้งในปีหน้า โดยคาดการณ์การส่งออกน่าจะอยู่ที่ 0% หรือมากกว่านี้เล็กน้อย ตามการขยายตัวในภาคเศรษฐกิจอุตสาหกรรมหนัก และราคาส่งออกที่สูงขึ้นของสินค้าบางประเภท
“เรามองว่าเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว เห็นได้จากปริมาณการค้าที่มีมากขึ้นและคาดว่าปีหน้าจะเพิ่มมากกว่านี้ รวมทั้งการบริโภค การลงทุนภาคเอกชนก็เริ่มขยับขึ้นเช่นกัน ขณะที่ในปีหน้าการลงทุนภาครัฐที่จะออกมามากก็น่าจะส่งผลเป็นลูกโซ่ต่อการลงทุนภาคเอกชน และช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นด้วย”
สำหรับปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจไทย ต้องจับตาการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐว่าจะออกมาตามกำหนดหรือไม่ หากมีความล่าช้าอาจจะส่งผลต่อเนื่องถึงการลงทุนภาคเอกชนด้วยเช่นกัน รวมถึงปัจจัยทางการเมืองคือการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยหรือไม่ และปัญหาด้านภัยธรรมชาติที่เริ่มมีผลกระทบมากขึ้น ขณะที่หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ลดลง สะท้อนว่าประชาชนมีการชำระหนี้ แต่ทำให้การบริโภคลดลง
ด้านนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในหัวข้อ “Thailand Agenda 2030 : วิสัยทัศน์การพัฒนาใหม่สู่ประเทศไทยยั่งยืน” ว่า ภายใต้สภาวะที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การดูแลให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ต่อเนื่องในระยะสั้นๆ เป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ก็ต้องระวังไม่ให้ปัญหาเฉพาะหน้ามาบดบังเรื่องสำคัญในระยะยาว ซึ่งการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก
“ตัวเลขเศรษฐกิจที่เราควรให้ความสำคัญจึงไม่ได้มีแค่การเติบโตของ GDP ในปีนี้หรือปีหน้า แต่ต้องมองไปถึงอัตราการขยายตัวตามศักยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะปานกลางถึงระยะยาวด้วย”
สำหรับตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนสิงหาคมที่ขยายตัว 6.5% ถือเป็นข่าวดีที่การส่งออกปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ในระดับสูง เนื่องจากการส่งออกหลายอุตสาหกรรมมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น และอีกส่วนหนึ่งอาจจะมีผลมาจากมูลค่าการส่งออกในเดือนกรกฎาคมต่ำกว่าคาดอย่างไรก็ตาม การพิจารณาตัวเลขการส่งออกต้องมองหลายปัจจัยต่อเนื่องว่ายังมีประเด็นใดที่จะเข้ามาสร้างผลกระทบบ้าง และหากมองไปข้างหน้ายังต้องให้ความสำคัญกับตลาดต่างประเทศ เพราะเศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มเปราะบางและการฟื้นตัวยังไม่กระจายตัว
ขณะที่นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารทหารไทย หรือ ทีเอ็มบี กล่าวว่า ธนาคารได้มีการปรับประมาณการอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้เพิ่มขึ้นจากขยายตัว 2.8% เป็น 3.2% หลังสัญญาณเศรษฐกิจครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก ประกอบกับการส่งออกเดือนสิงหาคม 2559 ปรับตัวเป็นบวกในรอบ 5 เดือน อยู่ที่ 6.5%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง