เด่นโซเชียล

กางปฏิทินเทศกาล "กินเจ" ประจำปี64 เช็คเลยเริ่มวันไหน อาหารอะไรทานได้-ควรงด

04 ต.ค. 2564

6-14 ต.ค.นี้ เริ่มต้นเทศกาล "กินเจ" ประจำปี 64 เตรียมพร้อมงดเนื้อสัตว์-ถือศีล เช็คแนวทางอะไรทานได้อะไรควรงด พร้อมแนะกินเจอยังไงได้บุญสูงสุด

สำหรับเทศกาล "กินเจ" ประจำปี 2564 ปีนี้ตรงกับวันที่ 6 ต.ค.-14 ต.ค. 64 รวม 10 วัน ขณะเดียวกันตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไปหลายคนคงเริ่มล้างท้องเพื่อเข้าสู่ช่วงถือศีล กินเจ กันอย่างเป็นทางการ ซึ่งดเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับผู้ที่จะเริ่มกินเจในวันพุธที่ 6 ต.ค. 64 เป็นต้นไป

สำหรับเทศกาลกินเจนั้น เป็นช่วงเวลาของคนไทยเชื้อสายจีน ที่จะถือศิล ภาะนา และทำบุญด้วยการรักษาศีล 8 รวมถึงการงดกินเนื้อสัตว์ กระดูก ไขมันจากสัตว์ รวมถึงเครื่องปรุงที่ทำจากสัตว์ อาหารที่จะรับประทานได้ ก็จะมีผัก ธัญพืช ถั่ว แป้ง เต้าหู้  

นอกจากเนื้อสัตว์แล้วให้ช่วงเทศกาลกิจเจนั้นจะห้ามกินของต่อไปนี้

  • ผักที่มีกลิ่นฉุน 5 อย่าง ได้แก่ กระเทียม (ไม่ดีต่อหัวใจ), หอมใหญ่ แดง ขาว ต้นหอม (ไม่ดีต่อไต), หลักเกียว ผักของจีน มีลักษณะคล้ายกระเทียมโทน (ไม่ดีต่อม้าม), กุยช่าย (ไม่ดีต่อตับ) และ ใบยาสูบ (ไม่ดีต่อปอดเมื่อใช้สูบ) นอกจากนี้ผักชนิดไหนที่มีกลิ่นฉุนก็ไม่ควรทานระหว่างช่วงกินเจด้วย
  • นม เนย น้ำมัน และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
  • อาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นเค็มจัด หวานจัด เปรี้ยวจัด หรือเผ็ดจัด
  • เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • สำหรับใครที่กินเจ แบบเคร่งครัดจะห้ามทานอาหารบนภาชนะที่ใช้ร่วมกับผู้ที่ไม่ได้กินเจ และต้องทานอาหารที่ปรุงจากคนที่กินเจด้วยกันเท่านั้น

สำหรับแนวทางการกินเจให้ได้บุญสูงสุดนั้น ประชาชนสามารถดำตามได้ดังนี้

  • เป้าหมายการกินเจ

สำรวจตัวเองก่อนนิดนึงว่า คุณอยากกินเจเพราะอะไร เพราะอยากได้บุญ เพราะอยากละเว้นชีวิตสัตว์โลกสักช่วงหนึ่งในชีวิต หรืออยากได้สุขภาพที่ดีจากการงดทานเนื้อสัตว์ หากเป็นเหตุผลดังกล่าว รับรองว่าได้ผลบุญเต็มๆ แน่นอน แต่ถ้าคุณอยากกินเจเพราะแค่อยากตามกระแสคนอื่น อันนี้คุณอาจจะต้องพิจารณาตัวเองใหม่แล้วล่ะ

  • อดทนระหว่างกินเจ

เนื่องจากเครื่องปรุงที่หายไปค่อนข้างเยอะ ทำให้อาหารเจมักมีรสชาติไม่อร่อยเท่าอาหารไทยที่เราทานกันอยู่ทุกวัน น้ำปลาเอย ซอสน้ำมันหอยเอย พวกนี้ไม่ได้แตะลิ้นเราแน่ๆ บางคนจึงอาจเปรยเบาๆ (หรือดังๆ) ว่าอาหารเจไม่อร่อย แต่ถึงกระนั้น การทานอาหารเจ เราไม่ได้ทานเอาอร่อย เราทานเอาอิ่ม และทานเพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ ดังนั้นเรื่องรสชาติต้องเป็นรอง ขอให้คิดว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ยิ่งทาน ยิ่งได้สุขภาพดีนะคะ

  • ห้ามงกช่วงกินเจ

เราเข้าใจว่าบางทีก็ทำได้ยาก เห็นราคาผัก ราคาอาหารเจตามห้างร้านต่างๆ แล้วอาจจะทำใจไม่ได้ หรือพอลองเอาราคาอาหารปกติมาเทียบด้วยแล้ว ยิ่งปริ๊ด “ทำไมจู่ๆ ร้านนี้ขายข้าวราดแกงธรรมดา 30 พอเป็นอาหารเจขึ้นเป็น 50 เฉยเลย” หากอยากได้บุญ ต้องพยายามใจเย็น แล้วทำความเข้าใจกับราคาข้าวของในช่วงนี้ ว่ามันต้องขึ้นราคาเป็นธรรมดา หากรับราคาไม่ไหว ลองทำทานเองที่บ้าน อร่อยและคุ้มค่ามากกว่าแน่นอน

  • กินเจให้ต่อเนื่อง

ช่วงเวลา 10 วัน ดูไม่เร็วไม่ช้า แต่เรากินๆ หยุดๆ ขอผลัดวันไปกินเพิ่มวันอื่นแทน แบบนี้ไม่ได้ เราต้องมีวินัยกับตัวเอง ตั้งใจกินเจแล้ว ก็ต้องกินเจให้ได้ตามเวลา และครบจำนวนวันที่กำหนด ยิ่งหากมีใจอยากกินเจไปเรื่อยๆ หลังเทศกาลกินเจไปแล้วก็ยังกินอยู่ แบบนี้ได้บุญเต็มๆ

  • กินเจด้วยความเบิกบาน

แบ่งปันช่วงเวลากินเจกับคนรอบข้าง ครีเอตเมนูอาหารเจใหม่ๆ สนุกกับอาหารเจหลากหลายเมนู หากคุณกินอาหารเจด้วยความรู้สึกที่ดี มากกว่าต้องทนกินอาหารเจที่ไม่ชอบไปวันๆ ล่ะก็ รับรองว่าผลบุญที่คุณได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

  • ถือศีลไปพร้อมกับกินเจ

แน่นอนว่าคำนี้มาคู่กัน “ถือศีล กินเจ” เมื่อเรากินแต่ของดีๆ ไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิตแล้ว เราก็ต้องพูดดี ทำดี ปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมอันดีด้วย จะได้มีทั้งร่างกาย และจิตใตที่บริสุทธิ์ผุดผ่องยังไงล่ะ

 

ที่มา: เว็บไซต์ sanook.com

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง