เด่นโซเชียล

แชร์ว่อน "พายุไต้ฝุ่น" จ่อขึ้นฝั่งนครศรีธรรมราช ล่าสุด กรมอุตุฯ ชี้แจงแล้ว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แชร์ว่อนโซเชียล "พายุไต้ฝุ่น" กำลังจะพัดขึ้นฝั่งที่ จ.นครศรีธรรมราช ให้ศูนย์เตือนภัยส่งสัญญาณเตือนประชาชน ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้เป็น ข่าวปลอม อย่าแชร์

ตามที่ได้มีการให้ข้อมูลสภาพอากาศประเทศไทย เกี่ยวกับเรื่อง "กรมอุตุฯ รายงานพบพายุไต้ฝุ่นกำลังจะพัดขึ้นฝั่งที่ จ.นครศรีธรรมราช ให้ศูนย์เตือนภัยส่งสัญญาณเตือนประชาชน" ทาง ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

กรณีการส่งต่อข้อมูลสภาพอากาศประเทศไทย โดยระบุว่า ขณะนี้ กรมอุตุฯ ได้รายงานว่าพบพายุไต้ฝุ่นกำลังจะพัดขึ้นฝั่งที่ จ.นครศรีธรรมราช จึงให้ศูนย์เตือนภัยส่งสัญญาณเตือนประชาชนนั้น ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง และไม่ได้มีที่มาจากแหล่งข้อมูลของ กรมอุตุนิยมวิทยา 

 

โดยจากการติดตามสถานการณ์พายุหมุนเขตร้อนในขณะนี้ ยังไม่ปรากฏมีการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อน ใกล้บริเวณประเทศไทยและภาคใต้แต่อย่างไร 

 

ส่วน พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ของวันที่ 4 กันยายน 2564 พบว่าร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง 

 

ดังนั้น ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปลอม พายุไต้ฝุ่น กำลังจะพัดขึ้นฝั่งที่ จ.นครศรีธรรมราช และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อมิให้เกิดความสับสน และตื่นตระหนกขึ้นในสังคม

 

หากมีสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพื่อเติมสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.tmd.go.th โทรสายด่วน 1182 

 

 

กล่าวสรุปคือ ข้อมูล พายุไต้ฝุ่น กำลังจะพัดขึ้นฝั่งที่ จ.นครศรีธรรมราช ไม่เป็นความจริง และไม่ได้มีที่มาจากแหล่งข้อมูลของ กรมอุตุนิยมวิทยา อีกทั้งในปัจจุบันยังไม่ปรากฏการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อน ใกล้บริเวณประเทศไทยและภาคใต้แต่อย่างไร 

 

แชร์ว่อน "พายุไต้ฝุ่น" จ่อขึ้นฝั่งนครศรีธรรมราช ล่าสุด กรมอุตุฯ ชี้แจงแล้ว


ที่มา Anti-Fake News Center Thailand

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ