โควิด-19

"โอไมครอน" จะจบแบบไหน อ.นิด้า ชี้ สัปดาห์หน้ารู้กัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อ.นิด้า ยัน กรุงเทพฯ สัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า คือสมรภูมิตัดสินของสงคราม "โอไมครอน" ว่าจะจบแบบไหน เมื่อไหร่ ชี้ ถ้าตัวเลขเริ่มลงจะเป็นข่าวดี 

อ.นิด้า ยัน กรุงเทพฯ สัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า คือสมรภูมิตัดสินของสงคราม "โอไมครอน" ว่าจะจบแบบไหน เมื่อไหร่ ชี้ ถ้าตัวเลขเริ่มลงจะเป็นข่าวดี

 

วันนี้ 17 ม.ค.65 ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค Sunt Srianthumrong อัปเดตสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์ "โอไมครอน" ที่กำลังเริ่มลุกลามในประเทศ ระบุว่า

 

Covid-19: รูปร่างหน้าตา Completed Full Wave ของ "โอไมครอน" ใน South Africa และตัวเลขที่เราต้องคาดหวังในกทม. สัปดาห์นี้เพื่อจบสงคราม

 

เคล็คการรบแบบไม่ซุนวู "ข้าศึกยังไม่ทันถอย ก็สั่งไพร่พลให้เตรียมเก็บของกลับบ้าน" แม่ทัพที่รบแบบนี้ไม่ใช่อยากชนะ แต่แค่อยากประหยัดเสบียง ระวังจะวายวอดทั้งคนทั้งเสบียง

 

มาดูภาพสงคราม "โอไมครอน" ตั้งแต่จนจบที่ S.Africa กันดีกว่าครับ

South Africa เข้าสู่ Wave ของ "โอไมครอน" มาได้ 2 เดือนกว่าแล้ว การติดเชื้อดำเนินไปแล้วเกือบๆ 90% ของตัวเลขสุดท้าย ทำให้เราสามารถวาดภาพของ Omicron Wave ตั้งแต่ต้นจบจบบริูบรณ์ได้แล้วครับ ที่นี่ให้ข้อมูลของ Full Wave Omicron ที่สมบูรณ์มากๆเป็นที่แรกเลย

ผมทำกราฟมาให้ทั้ง 3 กราฟคือ Daily New Case, %Increase, Total Case

S.Africa เพิ่งฉีดวัคซีน 2 เข็มไปได้แค่ 27.2% เท่านั้น

ประเด็นสำคัญ "โอไมครอน" จากกราฟ S.Africa 

1. "โอไมครอน" Wave S.Africa จะมีขนาดรวมประมาณ 700,000 คน เล็กแค่ครึ่งเดียวของ Delta Wave ที่มีขนาดประมาณ 1,400,000 คน ต่างจากในยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกาที่ควบคุมไม่ดี Wave Omicron จะใหญ่กว่า Delta มากๆ มาตรการต่างๆ หน้ากากและวินัยสำคัญมาก

2. Peak ของ Omicron S.Africa อยู่ที่ 37,000 ต่อวัน สูงกว่า Delta ที่อยู่ที่ 26,000

3. กราฟวิ่งขึ้นเร็วมาก แต่ก็ลงเร็วมากเช่นกัน Time Constant ขาลงแค่ 10.65 เป็นสถิติใหม่ของ S.Africa

4. Wave มีระยะเวลาประมาณ 4 เดือน มีช่วงที่หนักแค่ 1-2 เดือน

5. Omicron Wave S.Africa อาจลงไปจนติดเชื้อเหลือแค่วันละร้อยกว่าในช่วงปลายเม.ย.

6. มาตรการในการกด Omicron ไม่จำเป็นต้องรุนแรง สำคัญที่เร็วและมีวินัย การใส่หน้ากาก การจำกัดกิจกรรม Indoor และร้านขายแอลกอฮอล สำคัญมาก

7. การผ่อนคลายเมื่อช่วงปีใหม่ 31 Dec ของ S.Africa เป็นไปด้วยดี กราฟยังลงต่อแม้จะช้าลง

8. อัตราการเสียชีวิตใน S.Africa ลดมาเหลือ 0.5% ยังสูงเกินไป เพราะฉีดวัคซีนกันน้อย แต่ก็ดีกว่า Wave ก่อนๆที่เคยสูงถึง 3% ถ้าฉีดวัคซีนมากน่าจะลงไปเหลือ 0.1%

9. S.Africa อยู่ในกลุ่มที่สู้กับ "โอไมครอน" ได้ดีมากๆ ประเทศไทยมีโอกาสทำกราฟที่ดีกว่านี้ได้ครับ ณ จุดนี้ขึ้นอยู่กับคนกทม.และปริมณฑลแล้วครับ

 

ตัวเลข "โอไมครอน" ที่ต้องคาดหวังในกทม.สัปดาห์นี้

1. จากสัปดาห์ที่แล้วมาสัปดาห์นี้กทม.ยังเป็นขาขึ้น วันพุธ พฤหัสนี้ ถ้า Daily Case ตัวเลขเริ่มทรงตัวจะเป็นข่าวดี ถ้ายังไม่ได้ก็ต้องลุ้นต่อไป

2. %Increase ในกทม.ยังทรงตัว ต้องกดลงให้ได้ในสัปดาห์นี้

3. ต่างจังหวัด หัวเมือง ตัวเลขเริ่มทรงหรือลงแล้ว แต่ถ้ากทม. ปริมณฑลไม่ลง อาจเด้งกลับเมื่อไหร่ก้ได้ ห้ามประมาท

 

กรุงเทพฯสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า คือสมรภูมิตัดสินของสงคราม "โอไมครอน" ว่าเราจะจบแบบไหน เมื่อไหร่

 

ผมคิดว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเราสู้ "โอไมครอน" ได้ดีมากทั่วประเทศ ดีกว่า S.Africa เสียอีก เพื่อนๆที่เก่งๆแบบญี่ปุ่นก็ไปวันละ 26,000 คนแล้วส่วน Australia ไปวันละแสน แต่ยังเหลือที่เดียวคือ กทม. ที่ตัวเลขยังดีไม่พอ รอลุ้นสัปดาห์นี้ครับ ถ้าตัวเลข %Increase เริ่มลง จะเป็นข่าวดีมาก ได้เวลาคนพระนครแสดงฝีมือครับ สู้กันให้เต็มที่ แล้วประเทศไทยจะมีโอกาสชนะสงครามนี้ได้โดยเร็ว

 

ที่สำคัญ แม่ทัพ อย่าเพิ่งใจร้อน ข้าศึกยังคงประชิดพระนคร สถานการณ์ยังหมิ่นเหม่ มีโอกาสชนะแล้วก็ต้องรบหักโค่นมันให้สุด ไม่ใช่สั่งให้เตรียมถอยไปตั้งวงเหล้าทั้งๆที่ข้าศึกยังล้อมกรุงฯ ทุกทิศทุกทาง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ