ข่าว

"วัคซีนโควิด" สธ. ชี้ 2 เข็มทุกสูตรเอา "โอไมครอน" ไม่อยู่ แนะสูตรกระตุ้นใหม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วัคซีนโควิด" กรมวิทย์ฯ ชี้ 2 เข็มทุกสูตรเอา "โอไมครอน" ไม่อยู่ ต้องกระตุ้นเข็ม 3 พร้อมสรุปผลทดลองระดับภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอน-เดลตา ทุกสูตร

นายศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวระหว่างการแถลงสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และผลการทดสอบภูมิคุ้มกัน "วัคซีนโควิด" ต่อไวรัสสายพันธุ์เดลตาและโอไมครอน ว่า จากการทดสอบประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ประเทศไทยที่ใช้อยู่ขณะ ซึ่ง เป็นการทดสอบโดยวิธีการ เพาะเชื้อจากไวรัสจริง (Reciprocal neutralizing antibody tiier : PRNT 50)  ที่ได้มาจากการเพาะเชื้อในจำนวนที่มากพอ

โดยไม่ใช้การทดสอบประสิทธิภาพจากไวรัสเทียม เพื่อหาระดับภูมิคุ้มกันในการป้องกัน ซึ่งมีหลักการทดสอบคือการเก็บตัวอย่างเลือด หรือซีรัม ของผู้ที่ได้รับวัคซีนมาแล้ว และนำไปเจือจาง จนได้ผล PRNT 50 จากนั้นมีการวิเคราะห์จากตัวเลขประสิทธิภาพของวัคซีนที่ทำให้ไวรัสเจือจางลง โดยจากการทดสอบ ได้ข้อมูลจากการเก็บตัวอย่างเลือด หรือ ซีรัม ของผู้ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่จะมีระดับภูมคุ้มกันที่มากพอที่จะต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้  โดยจากการทดสอบระดับภูมิคุ้มกันต่อไวรัสจริง สายพันธุ์โอไมครอนเทียบกับสายพันธุ์เดลตาที่ระดับ PRNT 50 มีระดับภูมิคุ้มกันดังนี้ ทั้งหมด 8 สูตร ดังนี้ 

 

ระดับภูมิคุ้มกันในการฉีด "วัคซีนโควิด" ครบ 2 เข็ม ในสูตรต่าง ๆ 

  • สูตรซิโนแวค-แอสตร้าฯ       ระดับภูมิคุ้มกันต่อเดลตาอยู่ที่ 201.9   ระดับภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอนอยู่ที่ 11.63 
  • สูตรแอสตร้าฯ -แอสตร้าฯ     ระดับภูมิคุ้มกันต่อเดลตาอยู่ที่ 226.9   ระดับภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอนอยู่ที่ 23.81 
  • สูตรไฟเซอร์-ไฟเซอร์           ระดับภูมิคุ้มกันต่อเดลตาอยู่ที่ 189.4   ระดับภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอนอยู่ที่ 19.17
  • สูตรไขว้ ซิโนแวค-ไฟเซอร์    ระดับภูมิคุ้มกันต่อเดลตาอยู่ที่ 581.1   ระดับภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอนอยู่ที่ 21.70
  • สูตรไขว้ แอสตร้าฯ-ไฟเซอร์   ระดับภูมิคุ้มกันต่อเดลตาอยู่ที่ 388.2  ระดับภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอน 21.21

ระดับภูมิคุ้มกันในการฉีด "วัคซีนโควิด" เข็มกระตุ้น หรือ วัคซีนเข็ม 3 ในสูตรต่าง ๆ ดังนี้ 

  • สูตรซิโนแวค-ซิโนแวค กระตุ้นด้วย ไฟเซอร์   ระดับภูมิคุ้มกันต่อเดลตาอยู่ที่ 729.30 ระดับภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอนอยู่ที่ 282.50 
  • สูตร แอสตร้าฯ-แอสตร้าฯ กระตุ้นด้วยไฟเซอร์ ระดับภูมิคุ้มกันต่อเดลตาอยู่ที่ 691.10 ระดับภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอนอยู่ที่ 229.9
  • สูตร ซิโนแวค-ซิโนแวค กระตุ้นด้วยแอสตร้าฯ ระดับภูมิคุ้มกันต่อเดลตาอยู่ที่ 368.10 ระดับภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอนอยู่ที่ 71.64

 

นพ.ศุภกิจ  กล่าวต่อว่า จากการผลการทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนจะเห็นว่า การฉีดวัคซีน 2 เข็ม ไม่สามารถสร้างภูมิที่ป้องกันเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนได้มากเพียงพอ  แต่เมื่อมีการทดสอบในผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไปแล้ว พบว่า ระดับภูมิคุ้มกันจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น และสูงพอที่จะป้องกันการป่วยรุนแรง และเสียชีวิตจากโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้  ดังนั้นการฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดสจะช่วยยกระดับภูมิคุ้มกัน ช่วยลดอัตราการแพร่เชื้อ ลดเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้อย่างดี  ไม่ว่าจะกระตุ้นด้วย แอสตร้า หรือ ไฟเซอร์ ก็สามารถป้องกันการติดเชื้อแล้วป่วยหนัก เสียชีวิตได้เช่นกัน

สำหรับสูตรการฉีด "วัคซีนโควิด" เข็มกระตุ้น ประจำเดือนมกราคม 2565  ดังนี้

  • ซิโนแวค+แอสตร้าเซนเนก้า ครบเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2564  กระตุ้นด้วย แอสตร้าเซนเนก้า เป็นหลัก 
  • แอสตร้าเซนเนก้า +แอสตร้าเซนเนก้า ครบเดือนสิงหาคม -ตุลาคม 2564 กระตุ้นด้วย ไฟเซอร์ 
  • ซิโนแวค+ซิโนแวค หรือ ซิโนฟาร์ม+ซิโนฟาร์ม ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป กระตุ้นด้วย แอสตร้าเซนเนก้า 
  • ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด19 ฉีดวัคซีนไม่ครอบ /ครบตามเกณฑ์น้อยกว่า 2 สัปดาห์ก่อนติดเชื้อกระตุ้นด้วยแอสต้าเซนเนก้า 
     
logoline

ข่าวที่น่าสนใจ