ทหารเสือ ‘บิ๊กแป๊ะ’ มือกระบี่คู่ใจ ‘สุทิน’ เขย่าขวัญค่าย 3 ป.

ทหารเสือตัวจริง บิ๊กแป๊ะ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รับบทมือกระบี่คู่ใจ สุทิน คุมกลาโหม จับตาปฏิริยาขุนศึกสาย 3 ป.

นายกฯเศรษฐา ไม่เร่งรุกปฏิรูปกองทัพ ดึงบิ๊กแป๊ะ ช่วยงาน สุทิน รมว.กลาโหม ส่งสัญญาณทหารประชาธิปไตยมาแล้ว

มีความชัดเจนมากขึ้น พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม จะลาออกจากที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. มานั่งตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม ตามคำเชิญของสนามไชย 1 สุทิน คลังแสง 

วันที่ 3 ก.ย. 2566 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้นำ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม และ ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การต่างประเทศ ร่วมรับประทานอาหารหลางวัน กับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ชุดใหม่ ได้แก่ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ว่าที่ ผบ.สส. ,พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ว่าที่ ผบ.ทบ. ,พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยว ว่าที่ ผบ.ทร. ที่โรงแรมโรสวูด ย่านเพลินจิต กทม.

การพบปะกันครั้งนี้ นายกฯเศรษฐา เป็นการแนะนำตัวให้รู้จักกันและได้ขอให้ทหารช่วยเป็นแบ็กอัพรัฐบาล จับมือพัฒนาประเทศไปด้วย กัน 

สำหรับการดึงตัว “บิ๊กแป๊ะ” พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก มาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม อาจทำให้มีปฏิกิริยาทั้งบวกและลบ ในสถานการณ์สลายขั้วสลายสียังคุกรุ่นอยู่

เนื่องจาก บิ๊กแป๊ะ-พล.อ.นิพัทธ์ ในสายตากองเชียร์ลุงตู่ คือ ทหารประชาธิปไตย หรือทหารฝ่ายสีส้ม 

ถ้ายังจำกันได้ ช่วงที่ก้าวไกล เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ชื่อของบิ๊กแป๊ะ พล.อ.นิพัทธ์ เป็นตัวเต็งที่จะนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยกลาโหม เพราะมีภาพลักษณ์เป็นนายทหารประชาธิปไตย  

ว่ากันว่า หากพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะนั่งเก้าอี้นายกฯ ควบ รมว.กลาโหม และบิ๊กแป๊ะเป็น รมช.กลาโหม

ปัจจุบัน พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และช่วงหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. บิ๊กแป๊ะก็เป็นหนึ่งในทีมงานชัชชาติ

ย้อนไปในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ บิ๊กแป๊ะ พล.อ.นิพัทธ์ ในฐานะปลัดกลาโหม ยังเป็นกุนซืองานด้านความมั่นคงให้กับรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์

หลังรัฐประหาร ปี 2557 พล.อ.นิพัทธ์ ต้องเกษียณอายุราชการในตำแหน่งลอยที่ไม่ใช่ตำแหน่งหลัก ตามวิถีผู้แพ้

ดังนั้น พล.อ.นิพัทธ์ เป็นนายทหารระดับสูงเพียงคนเดียว ที่แสดงท่าทียืนตรงข้ามกับคณะรัฐประหาร และการยึดอำนาจมาโดยตลอด จนได้รับฉายานายทหารประชาธิปไตย

ทหารเสือไม่ใช่สาย 3 ป.
พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 14 เริ่มชีวิตราชการที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ (ร.21 รอ) หรือค่ายทหารเสือราชินี ซึ่งเป็นหน่วยเดียวกับพี่น้อง 3 ป.

ช่วงเกิดเหตุกบฏเมษาฮาวาย ปี 2524 พล.อ.นิพัทธ์ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบฝ่ายก่อการยึดอำนาจ

“พี่เป็นทหารเสือราชินีตัวจริง เคยเป็นหัวหน้าชุด ไปควบคุมตัว พ.อ.ประจักษ์ (พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร) และนายทหารที่ก่อการยึดอำนาจ พล.อ.เปรม เมื่อปี 2524...พี่เป็นทหารเสือราชินีและกำลังฝึกอยู่ ยศร้อยโท ถูกสั่งให้นำชุดปฏิบัติการพิเศษ ที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี เข้ามากรุงเทพฯ พี่ก็รับอาสาที่จะบุกเข้าไปจับตัว พ.อ.ประจักษ์ นั่นคือผลงานในสมัยที่มียศเป็นร้อยโท” พล.อ.นิพัทธ์ เล่าเหตุการณ์ปราบกบฏเมษาฮาวาย

บิ๊กแป๊ะ เคยเป็นเจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ยาวนานถึง 4 ปี ก่อนโยกเข้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นปลัดกลาโหม ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์

 

มือทำงานลับ
ฉากชีวิตอีกด้านหนึ่งของ พล.อ.นิพัทธ์ คือนายทหารที่ทำงานลับให้รัฐบาลมาโดยตลอด เพราะสนิทสนมกับผู้นำต่างประเทศ

เมื่อปี 2556 พล.อ.นิพัทธ์ ได้ร่วมกระบวนการพูดคุยดับไฟใต้ เมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ตัดสินใจเปิดโต๊ะพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นแบบเปิดเผย เป็นทางการครั้งแรก โดยมีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก

ตอนนั้น บิ๊กแป๊ะ เป็นหนึ่งในแกนนำคณะพูดคุยฝ่ายรัฐบาลไทย ประกอบด้วย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ขณะดำรงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)

คาดหมายว่า ในรัฐบาลเศรษฐา การพูดคุยกับไฟใต้คงมีความคืบหน้า เพราะ พล.อ.นิพัทธ์ เป็นผู้ช่วย รมว.กลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง นั่งเก้าอี้รัฐมนตรียุติธรรม