คอลัมนิสต์

ชัวร์หรือมั่ว "ปวิน" ฟ้องโลก ถูกทำร้ายคาเตียง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์ "ท่องยุทธภพ" โดย "ขุนน้ำหมึก" หนังสือพิมพ์คมชัดลึก 2 ส.ค.62

 

********************

 

เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun หยุดความเคลื่อนไหวมาแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2562 ทำให้เหล่าสาวกที่เฝ้ารอว่า “ปวิน” จะจิกกัด “ก๊วนส้มหวาน” แบบแสบๆ คันๆ รู้สึกแปลกใจ

 

กระทั่ง 31 กรกฎาคมนี้ จึงมีความชัดเจนจากการแพร่คลิปที่ “ปวิน” ออกมาแถลงว่า สาเหตุที่ต้องเร้นกายหายไปจากโซเชียล เพราะมีคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายร่างกายถึงห้องพักในอพาร์ตเมนต์ กลางกรุงโตเกียว 

 

นัยว่า ปวินกำลังได้รับการดูแลจากตำรวจญี่ปุ่น และพำนักในสถานที่ปิดลับ เพื่อความปลอดภัยของนักวิชาการอิสระรายนี้ 

 

 

นึกว่าไปกับผู้ชาย

 

เบื้องต้นที่มีการเสนอข่าวการหายตัวไปอย่างลึกลับของ “ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์” นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ซึ่งยังไม่มีข่าวสารใดๆ จากทางมหาวิทยาลัยต้นสังกัด

 

เมื่อ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา “จอม เพชรประดับ” สื่ออิสระในสหรัฐ ได้แจ้งเบาะแสของปวินผ่านเฟซบุ๊ก Jom Petchpradab ว่า หลังจากสืบหาข้อมูลจากคนใกล้ชิด สนิทสนม ทั้งในและต่างประเทศ ทุกคนต่างก็อ้างข้อมูลของ Andrew MacGregor Marshall ที่บอกว่า อาจารย์ปวิน สบายดี 

 

 

ชัวร์หรือมั่ว "ปวิน" ฟ้องโลก ถูกทำร้ายคาเตียง

ปวิน กับเตียงนอนในห้องพัก

 

 

เพียงแต่อยากจะดึงตัวเองจากโลกโซเชียลไปสักพักเท่านั้นเอง (แหล่งข่าวจากขอบเตียงแอบกระซิบมาว่า ก็คงไม่พ้นเรื่องผู้ชง ผู้ชายนั่นแหละค้า...ที่เป็นเหตุหลัก)...”

 

จอมเขียนแซวปวินทีเล่นทีจริง...ใครๆ ก็ทราบถึงรสนิยมส่วนตัวของปวินเป็นอย่างดี และเขาไม่เคยปิดบัง 

 

 

 

หน้ากากดำทำร้าย

 

ในที่สุด “เลอพงษ์ วิไชยคำมาตย์” หรือโจ กอร์ดอน (Joe Wichai Commart Gordon) สัญชาติไทย-อเมริกัน ผู้ต้องหาคดี 112 ที่อยู่ในสหรัฐ เป็นคนเปิดเผยข้อมูลว่า ปวินถูกทำร้าย ผ่านเฟซบุ๊ก Joe Gordon

 

เรื่องมีอยู่ว่า ปวินได้ไปสัมมนาที่สถาบัน East-West Center ในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยถือโอกาสใช้เวทีนี้บอกเล่าเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเขา

 

 

ชัวร์หรือมั่ว "ปวิน" ฟ้องโลก ถูกทำร้ายคาเตียง

ปวิน วันที่แถลงเรื่องถูกทำร้าย

 

 

ตอนประมาณ 04.45 . ของวันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมานี้ มีคนร้ายใส่ชุดดำสวมหน้ากาก ได้บุกเข้าไปในห้องนอนที่อพาร์ตเมนต์ในกรุงโตเกียว และเปิดผ้าห่มฉีดสเปรย์สารเคมีบางอย่างใส่ แล้ววิ่งหนีไป ต่อจากนั้นได้แจ้งให้ตำรวจญี่ปุ่นได้ทราบและดำเนินการสอบสวนต่อไป”

 

วันเดียวกัน “เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง” (คนส.) ได้นำถ้อยแถลงของอาจารย์ปวินมาเผยแพร่ทางแฟนเพจ และมีเนื้อหาบางตอนที่ต่างจากของ โจ กอร์ดอน แปล

 

 

ชัวร์หรือมั่ว "ปวิน" ฟ้องโลก ถูกทำร้ายคาเตียง

งานสัมมนาทางวิชาการที่วอชิงตัน

 

 

จากนั้นก็ฉีดสเปรย์สารเคมีใส่เขาและคู่ที่หลับอยู่ เขาพยายามวิ่งไล่ตามแต่ไม่ทัน..” (แสดงว่า มีเพื่อนนอนอยู่ด้วยกัน

 

อย่างไรก็ตาม ปวินอ้างว่า ตำรวจญี่ปุ่นมาที่เกิดเหตุพร้อมหน่วยพิสูจน์หลักฐาน พร้อมกับแนะนำให้เขาย้ายไปพักในสถานที่ปลอดภัยภายใต้การดูแลของตำรวจญี่ปุ่น

 

กลุ่มผู้ลี้ภัย 112 พยายามจะขยายผลให้เป็นเรื่องการเมืองไทย ที่เป็นต้นเหตุของการบุกทำร้ายปวินถึงห้องพัก 

 

 

 

ไม่ตายก็เหมือนตาย

 

จะว่าไปแล้ว ในเพจ Joe Gordon เมื่อ 24 กรกฎาคม ได้อัพเดท “อ.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ปลอดภัยดีนะครับ อาทิตย์นี้บรรยายเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบัน อยู่ที่องค์กรการกุศลชื่อ Asia Matters for America ที่กรุง Washington D.C...”

 

 

ชัวร์หรือมั่ว "ปวิน" ฟ้องโลก ถูกทำร้ายคาเตียง

โจ กอร์ดอน

 

 

วันนั้น โจ กอร์ดอน ก็ไม่ได้พูดถึงปวินถูกทำร้ายร่างกาย จอม เพชรประดับ ยังแชร์ข้อความดังกล่าวมาที่เพจ Jom Petchpradab และแสดงความเห็นว่า

 

ถ้าเป็นจริง กระแสตีกลับที่ควรพูดถึงคือ ไม่ควรเล่นกับความรู้สึกของคนที่ห่วงใย การจะหยุดเล่นเฟส หรือสื่อสารผ่านโลกโซเชียลสักพัก เป็นเรื่องที่ชี้แจง บอกกล่าวกับบรรดาผู้ติดตามได้ แต่การเงียบหายไป ไม่สื่อสาร สร้างความกังวล กระวนกระวายใจในหมู่คนที่ติดตามอย่างยิ่ง ทำไมถึงเป็นความทุกข์ กระวนกระวายใจอย่างยิ่ง..”

 

ดูน้ำเสียงของจอม ออกอาการหงุดหงิด ที่ปวินเล่นเกมซ่อนหา โดยไม่บอกกล่าวมิตรสหาย แต่เมื่อทราบรายละเอียดของเหตุการณ์แล้ว จอมก็เขียนถึงตัวเอง

 

 

ชัวร์หรือมั่ว "ปวิน" ฟ้องโลก ถูกทำร้ายคาเตียง

จอม เพชรประดับ

 

 

ผมเองก็ได้รับคำขู่ว่าตกเป็นเป้าหมาย อยู่ในบัญชีที่จะถูกไล่ล่าเหมือนกัน...ก็มีคนใกล้ชิดแนะนำให้เพิ่มความระมัดระวังตัวอย่างมากขึ้นด้วยเช่นกัน และอาจรวมไปถึงการต้องไปแจ้งให้กับ Homeland security ได้รับรู้รับทราบ”

 

ตลอดระยะเวลา 5 ปี จอมเป็นกระบอกเสียงให้กลุ่มผู้ลี้ภัยในประเทศเพื่อนบ้าน และสองปีหลัง ปรากฏว่า ผู้ลี้ภัยหลายคนถูกอุ้มฆ่า และหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

ถ้าจะบอกว่าไม่กลัวตาย ก็คงจะเป็นการโกหก แต่สำหรับผมสิ่งน่ากลัวกว่า “ความตาย” คือการอยู่อย่างสิ้นหวัง และไร้อนาคต เพราะเหมือนเป็นการตายผ่อนส่ง ซึ่งทรมานมากกว่าการต้องพบกับความตายในทันที”

 

จอมส่งสัญญาณเหมือนคนสิ้นหวัง ที่จะเห็นฟ้าสีทองบนแผ่นดินไทย 

 

**************//****************

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ