โดย... สมัชชา หุ่นสาระ
“วันนึ้ไม่มีใครรู้อนาคต แต่เมื่อพวกเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกันแล้ว ต้องทำผลงานให้ดีที่สุด ไม่จำเป็นว่ามีเสียงมากเสียงน้อย เพราะคำตอบว่ารัฐบาลจะไปต่อได้หรือไม่คือผลงาน”
“ปุณณกันต์” คือหนึ่งในนามสกุลการเมืองสายซอยราชครูอันโด่งดัง เพราะหลายชีวิตจากซอยนี้ผลัดกันขึ้นมามีอำนาจทางการเมืองและบริหารราชการแผ่นดินมาหลายสมัย
“พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์" รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) ในรัฐบาลปัจจุบันคือหนึ่งในทายาทซอยราชครูที่เข้ามาทำงานและมีบทบาทใน ครม.และพรรคพลังประชารัฐ
พุทธิพงษ์แม้จะเป็น รมต.ป้ายแดงสมัยแรก แต่ชั่วโมงบินทางการเมืองนั้น ดีกรี ส.ส.ปชป.หลายสมัย, รองผู้ว่าฯ กทม., ผู้ช่วยรัฐมนตรี, รองเลขาธิการนายกฯ และปฏิบัติหน้าที่โฆษกรัฐบาล รวมทั้งบทบาท ส.ส.ปาร์ลิสต์บวกกับกรรมการบริหารพรรคพปชร. ก็น่าจะพอที่จะก้าวเข้าสู่ตำแหน่งนี้แม้จะมีบางเสียงติงมาว่ายังไม่ใช่เวลาและได้สิทธิเกินสมควร...
ข้อหา "กบฏ” น่าจะเป็นปรากฏการณ์การเมืองของชายคนนี้ที่หลายคนจดจำ แต่วันนี้สังคมติดตามการทำงานของ ครม.ลุงตู่ 2 ที่มีเสียงปริ่มน้ำและกระแสข่าวซดเกาเหลาออกมาเป็นระยะในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งรอยตำหนิหลายมุมที่สังคมสะท้อนรัฐนาวาลำนี้ออกมาหลายด้าน...
“เครือเนชั่น” สัมภาษณ์พุทธิพงษ์ในหลากบทบาททางการเมืองจากนี้ไป
0 รัฐบาลมีนโยบายด้านดิจิทัลหลายด้านและวางให้ประเทศก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 แนวทางการทำงานเป็นอย่างไร ?
การทำงานในกระทรวงนั้นแบ่งเป็นสองด้าน คือ 1.หลายปีที่ผ่านมากระทรวงมีหน้าที่ตามที่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนี้และนายกรัฐมนตรีวางแนวทางไว้ว่าต้องขยายโครงสร้างพื้นฐานทางระบบดิจิทัลและอบรมผู้ใช้ทักษะดิจิทัลและอินเทอร์เน็ต รวมทั้งระบบเคเบิลที่ตัองมีมาตรฐานและครอบคลุมทั่วประเทศ ผมจะสานต่อภารกิจนี้
2.ต่อเติมและส่งเสริมให้กระทรวงใกล้ชิดประชาชน เพราะชีวิตประจำวันของคนไทยส่วนใหญ่วันนี้ระบบดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยวางแนวทางไว้ว่ากระทรวงต้องทำสามเรื่องในกรณีนี้ คือ เศรษฐกิจดิจิทัล ที่จะใช้แอพพลิเคชั่นที่คนไทยเขียนโปรแกรมไว้และเข้ากับพฤติกรรมคนไทยโดยตรง และวางระบบไวไฟเพื่อเชื่อมโยงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตประชารัฐที่วางไว้ 2.4 หมื่นจุด ปีนี้จะวางเพิ่มอีกสองหมื่นกว่าจุดเพื่อให้ปลายปีนี้เชื่อมโยงให้ได้รวมราวๆ ห้าหมื่นจุดทั่วไทย ตรงนี้จะขยายการค้าขายและเศรษฐกิจในระบบดิจิทัลได้
ส่วน สังคมดิจิทัล จะเน้นการอำนวยความสะดวกด้วยแอพพลิเคชั่น "DE 360 องศา” ที่จะรวบรวมแอพพลิเคชั่นที่จำเป็นและสำคัญของคนไทยกว่า 30 แอพมารวมไว้ที่เดียว เพื่อให้คนไทยใช้ประโยชน์ได้ทันทีในแอพเดียว ด้าน ความมั่นคงดิจิทัล เพราะวันนี้ข่าวปลอม (Fake News) มีมากในสังคมออนไลน์ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อโพสต์แล้วมีการแชร์ให้สังคมตื่นตระหนกกระทรวงต้องขจัดสิ่งเหล่านี้ด้วยระบบเอไอ ตรวจสอบหาต้นตอของแหล่งปล่อยข่าวปลอมแบบนี้ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายเพื่อให้สังคมปลอดภัยจากข่าวปลอมแบบนี้
“เพราะสามสิ่งนี้อยู่กับคนไทยทุกกลุ่ม จากนี้จะไปพบทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ระบุไว้ เพราะผมให้หลักการการทำงาน คือ 3ท. (ทันสมัย ทั่วถึง เท่าทัน) ตรงนี้กระทรวงจะตอบโจทย์การทำงานได้ รวมทั้งจะรวบรวมระบบการลดใช้เอกสารในการติดต่อราชการ เพราะเมื่อมีระบบ Single Window ที่จะใช้ก่อนระบบ Big Data ที่กำลังพัฒนาให้สมบูรณ์เร็วๆ นี้ จะลดการใช้กระดาษในการประสานหน่วยราชการและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้มาก คือคลิกเลขบัตรประจำตัวประชาชนก็จะเชื่อมโยงข้อมูลเท่าที่จะประสานหน่วยงานต่างๆ ในตอนนี้ได้ทันที มันคือหนึ่งในระบบ One Stop Service”
0 หลังเลือกตั้งเสร็จสิ้นและได้รัฐบาลชุดนี้ สังคมให้คะแนนเชิงลบกับพรรคพลังประชารัฐเพราะมีข่าวขัดแย้งทางการเมืองเยอะจนสังคมไม่ค่อยเชื่อมั่น ?
“วันนี้เราเข้าสู่กระบวนการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารแล้วที่ผ่านมายอมรับกระแสข่าวและคะแนนเชิงลบตามที่สังคมมอง วันนี้ทุกฝ่ายเข้าสู่ระบบการทำงานแล้ว พรรคต้องช่วยกันทำงาน ที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่าบางคนในพรรคขัดแย้งกัน วันนี้ยืนยันการขัดแย้งดังกล่าวไม่มีแล้ว พรรคก่อตั้งมาโดยมีสมาชิกมาจากหลายพรรคหลายกลุ่ม แต่เมื่อมารวมกันในพรรคแล้วทุกคนต้องช่วยกันเมื่อมีการคุยและประสานงานกันแล้วสถานการณ์มันก็ดีขึ้น”
0 พรรคโดนมองว่าเป็นพรรคเฉพาะกิจ?
พลังประชารัฐเป็นพรรคใหม่ที่ตั้งขึ้นมาตามรัฐธรรมนูญ คนที่มาร่วมงานกันที่นี่มาจากหลายภาคส่วนทั่วประเทศ การรวมกันที่นี่ทำให้พรรคมีส.ส.ครบทุกภูมิภาค ดังนั้นต้องใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ในการขยายพื้นที่และคะแนนนิยมของพรรคให้มากขึ้น
วันนี้พรรคมีส.ส. อดีตส.ส. และสมาชิกพรรคทั่วประเทศ เมื่อได้ทำงานในรัฐบาลและรัฐสภาต้องทำงานให้มีผลงาน เราไม่มีเวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ต้องทำงานทันที เพื่อผลงานปรากฏจะได้ไปยืนยันกับสังคมและขยายคะแนนนิยมให้ยั่งยืน หากไม่มีผลงาน อนาคตก็ไม่จีรัง แต่ผมเชื่อว่าคงไม่เป็นแบบนั้น และคำว่าพรรคเฉพาะกิจต้องไม่ปรากฏ
0 หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลนี้อายุหนึ่งปีเพราะคะแนนปริ่มน้ำ?
“ผมมองมุมกลับแม้รัฐบาลจะมีเสียงปริ่มน้ำ แต่เป็นสิ่งพิสูจน์ความสามัคคีของคนในพรรคและพรรคร่วมรัฐบาล คนในพรรคมาจากหลายภาคส่วนต้องสามัคคี ความจริงใจของทุกฝ่ายต้องปรากฏเพื่อให้เสียงปริ่มน้ำทำงานได้ทั้งในครม.และสภาผู้แทนฯ ทุกเสียงมีความหมาย เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะรอบคอบในการทำหน้าที่ของตัวเอง สมัยก่อนรัฐบาลเสียงข้างมากก็ล้มได้ ดังนั้นพวกเราจะต้องผ่านจุดนี้ไปให้ได้”
0 มั่นใจว่าลบคำปรามาสได้?
“วันนี้ไม่มีใครรู้อนาคต แต่เมื่อพวกเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกันแล้ว ต้องทำผลงานให้ดีที่สุด ไม่จำเป็นว่ามีเสียงมากเสียงน้อย เพราะคำตอบว่ารัฐบาลจะไปต่อได้หรือไม่คือผลงาน อย่าลืมว่าหลายรัฐบาลในอดีตประกาศนโยบายแต่ไม่มีผลงานก็อยู่ไม่ได้ เลือกตั้งก็ไม่ได้รับความไว้วางใจ”
"ผมและคนในพรรคไม่รู้ว่าจะมีเลือกตั้งเมื่อใด วันนี้จึงร่วมทำงานให้ดีที่สุด หากมีผลงาน เลือกตั้งครั้งหน้าก็จะมี ส.ส.และน่าจะเพิ่มจำนวนขึ้น”
0 กังวลพรรคคู่แข่งที่เป็นทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านจะมีผลงานและสังคมยอมรับมากกว่าหรือไม่?
“ไม่ประมาทคู่แข่งที่มีศักยภาพ เรามีพรรคฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงาน เราก็ต้องเร่งสร้างผลงาน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง