ปลุกความคิด..สร้างจิตสำนึก(จราจร)เพื่อสังคม!

 

 

          ว่ากันว่าปัญหาจราจรเป็นอีกหนึ่งปัญหาระดับชาติของไทย โดยเฉพาะเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ซ้ำยังแผ่ขยายไปยังจังหวัดในเขตปริมณฑล รวมถึงหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ด้วยปริมาณรถที่เพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี จะตัดถนนอีกกี่เส้น ทางด่วนอีกอีกสายก็ไม่พอรองรับ ประกอบกับระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าหลากสีก็ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ กฎระเบียบจราจรที่มีก็ถูกฝ่าฝืน แก้เท่าไหร่ใช้ “ยาแรง” เรื่องบทลงโทษขนาดไหนก็ไม่สัมฤทธิ์ผล เพราะกฎหมายใช้ไม่ได้กับคน “ไร้จิตสำนัก!”

 

 

 

 

          เรื่องของรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่บนทางเท้าจนเกิดอุบัติเหตุชนเด็กนักเรียนขณะยืนรอรถประจำทาง จนได้รับบาดเจ็บที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เป็นภาพสะท้อนให้เห็นชัดเจนเรื่องของจิตสำนึกในวินัยจราจรของคนในสังคม ป้ายประกาศห้ามก็มี บทลงโทษก็ชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นหลังเหตุการณ์ผ่านไปไม่กี่วันก็ยังมีคน “มักง่าย” คอยฝ่าฝืน เสมือนหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอถูกจับให้เสียค่าปรับกลับโวยวายทะเลาะวิวาท นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องราวบนท้องถนนซึ่งเป็นต้นตอของอุบัติเหตุ หรือการวิวาท และส่งผลกระทบต่อการจาจร อาทิ ฝ่าไฟแดง ขับปาดหน้า แซงซ้าย เบียดคอสะพาน จอดในที่ห้ามจอด ฯลฯ

          นอกจากกฎหมายที่เข้มข้น ตำรวจจราจรกวดขันแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญและทุกคนต้องมีคือ “จิตสำนึกเพื่อสังคม” ดังนั้น พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า รองผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรรถวินทน์ เกษแก้ว ผกก.สน.อุดมสุข พ.ต.ท.ธีระพล โสมโสพิน สว.จร.สน.อุดมสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสน.อุดมสุข ร่วมกันจัดโครงการ "ฝึกอบรมอาสาจราจร” ระหว่างวันที่ 13-14 ธันวาคม ที่ผ่านมา พร้อมมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้เข้าอบรม ที่ บริษัท รักษาความปลอดภัย ดูอิ้งเวล แอนด์ ฟาซิลิซิตี้ เซอร์วิสเซส จำกัด ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.

 

 

 

 

          พ.ต.อ.ธวัช อธิบายว่า การฝึกอบรมในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนจัดทำขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาจราจร ปลูกฝังให้มีจิตสำนึกในการเคารพกฎจราจรตามที่ได้รับความรู้จากโครงการนี้ และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ตระหนักถึงความสำคัญของวินัยจราจร เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนโดยส่วนรวม โดยมีการยึดถือบทบัญญัติทางกฎหมายและแผนต่างๆ ที่กำหนดกรอบเป็นแนวทางปฏิบัติ

          “โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินกลยุทธ์ด้านงานจราจร โดยเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรกับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไป และเพื่อปลุกกระแสความคิดและส่งเสริมบทบาทให้ภาคประชาชนได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการรับรู้และเป็นเจ้าของปัญหา ตามหลักการ 5 ร่วม คือ ร่วมคิด  ร่วมทำร่วมตัดสินใจ ร่วมประเมินผล และร่วมปรับปรุงเสนอแนะ ต่อวิธีการแก้ไขปัญหาในสังคม อีกทั้งเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการจราจรให้สะดวกคล่องตัวยิ่งขึ้น และจะส่งผลให้อุบัติเหตุจราจรในท้องถนนลดลง ตลอดจนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายจราจร” พ.ต.อ.ธวัช ระบุ

 

 

 

          พ.ต.อ.ธวัช บอกด้วยว่า ผู้เข้าร่วมโครงการเป็นประชาชน ได้แก่ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บริษัท Doing well โดยผู้เข้าอบรมทั้งหมดจะนำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติหน้าที่ในอนาคต และยังใบประกาศนียบัตรไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการเข้าอบรมอีกด้วย

          “วินัยจราจร สะท้อนวินัยชาติ” และ “เคารพกฎ ลดอุบัติเหตุ” จะเป็นเพียงวลีสวยหรู ถ้าคนในสังคมยังขาดจิตสำนึก..ทุกคนช่วยแก้ปัญหาจราจรได้ แค่ลด-เลิกความมักง่ายในการขับขี่..!!