คอลัมนิสต์

อ่านเกม "ยุบพรรคเพื่อไทย" รอด - ไม่รอด ??

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ใครก็มองออกว่าการยุบพรรคเพื่อไทยเป็นอีกหมากเกมเพื่อสกัดพรรคเพื่อไทย แต่เกมนี้จะไปถึงไหน จะถึงขนาดสร้างแฮตทริก "ยุบพรรคทักษิณ" หรือไม่? 

                 เรื่องยุบพรรคเพื่อไทยร้อนขึ้นมาอีกครั้งจากการออกมาเคลื่อนไหวต้านกระแส “ดูด” ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้ที่ถูกมองว่าเป็น “เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง”

 

                 “อีสานเขียว” เป็นเหตุ

                 “ทักษิณ” ถือโอกาสวันเกิด “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ผู้เป็นน้องสาวที่วันนี้ประสบชะตากรรมเดียวกันกับพี่ชาย คือไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ เป็นวันที่ออกมาเคลื่อนไหวโดยการจัดเลี้ยงที่ร้านอาหารอีสานชื่อ “อีสานเขียว” ในกรุงลอนดอน ในช่วงที่นายกฯคนปัจจุบัน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ไปที่นั่น

                 ขณะเดียวกันที่เมืองไทยแกนนำพรรคเพื่อไทยประมาณ 30 คน นำโดย “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกฯ ผู้เป็นน้องเขยทักษิณ ได้นัดออกรอบตีกอล์ฟซึ่งสมชาย บอกว่า “ตั้งใจเลือกวันเกิดท่าน (ยิ่งลักษณ์) ในวันนี้ในการออกรอบ เพื่อให้ผู้ใหญ่มารวมตัวกันเผื่อมีโอกาสอวยพร โดยช่วงเย็นหลังออกรอบจะมีการรวมตัวกันร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์อวยพรท่าน”

                 ขีดเส้นใต้ว่า เป็นการตั้งใจนัดออกรอบในวันเกิด “ยิ่งลักษณ์”

                 “ทักษิณ” บอกว่าที่เลือกมาฉลองวันเกิดให้น้องสาวที่ร้านอีสานเขียวเพราะเป็นร้านประจำ อร่อยและให้ความรู้สึกคิดถึงบ้าน แถมยังเรียกเรตติ้งเพิ่มด้วยการบอกว่า “อีสานเขียว... พรรคเพื่อไทยมีโอกาสเขียวทั้งอีสาน”

 

อ่านเกม "ยุบพรรคเพื่อไทย" รอด - ไม่รอด ??

(อ่านต่อ..."ยิ่งลักษณ์" ตื้นตันน้ำตาคลอฉลองวันเกิดในลอนดอน)

 

                 น่าจะเป็นที่ร้านนี้เองที่อดีตนายกฯ สองพี่น้อง วิดีโอคอลคุยกับแกนนำพรรคเพื่อไทยที่รวมตัวกันอยู่ที่สนามกอล์ฟอัลไพน์ และมีการปล่อยคลิปออกมา ซึ่งผู้ที่ปล่อยคลิปอาจมองถึงผลที่จะตามมาไม่รอบด้าน

                 ในคลิปทักษิณกำลังคุยถึงเรื่องส.ส.ที่ย้ายพรรค โดยบอกว่า “ที่อีสานจะชนะทุกเขตแน่ ต้องขอบคุณคนที่ออกจากพรรค เพราะเป็นคนเสียสละ ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มาเป็น ส.ส. ...คนที่ย้ายไปมั่นใจตัวเอง ลืมไปว่าคะแนนตัวเองสู้คะแนนพรรคไม่ได้มาตลอด มาเที่ยวนี้คงได้เอาเด็กรุ่นใหม่ๆ มาแทนบ้าง"

                 ทักษิณยังพูดไปถึงกรณี จ.เลย และนครราชสีมา ซึ่งอดีตส.ส.ของพรรคถูกดูดไปว่า “เที่ยวนี้จังหวัดเลย จังหวัดนครราชสีมา ต้องมีคนรุ่นใหม่มาแทน”

 

อ่านเกม "ยุบพรรคเพื่อไทย" รอด - ไม่รอด ??

(อ่านต่อ...เปิดคลิป! "ทักษิณ"ท้าอดีตส.ส.เพื่อไทยออกจากพรรค)

 

                 ในช่วงเดียวกันนี้ “ทักษิณ” ยังไปให้สัมภาษณ์บีบีซีไทย ระบุว่า มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะเป็นที่ 1 แน่นอน

                 มีเสียงเรียกร้องให้กกต.ตรวจสอบเข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ โดยเฉพาะในส่วนของคลิปวิดีโอคอลพูดคุยกับแกนนำพรรคเพื่อไทย

                 จะเพราะเสียงเรียกร้องหรือไม่ก็ตาม ล่าสุด “พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา” เลขาธิการกกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองออกมาบอกแล้วว่าได้สั่งให้รองเลขาธิการ กกต. ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายมาตรา 28 และมาตรา 29 ของกฎหมายพรรคการเมือง คือบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคมาครอบงำพรรคหรือไม่ ซึ่งมีโทษถึงขั้นยุบพรรค

  

                 เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ทักษิณและยิ่งลักษณ์เดินทางมาที่สิงคโปร์ และมีนักการเมืองจากพรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่งเดินทางไปพบ ครั้งนั้น เลขาธิการกกต. คนนี้ก็ออกมาเตือนถึงเรื่องยุบพรรคเพื่อไทยโดยอ้างถึงข้อกฎหมายเดียวกัน

 

อ่านเกม "ยุบพรรคเพื่อไทย" รอด - ไม่รอด ??

(อ่านต่อ...ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ !! ยุบพรรคเพื่อไทย เพราะ "ทักษิณ")

 

                 สำหรับกฎหมายเรื่องห้ามคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคมาครอบงำพรรคนี้เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งกำหนดขึ้นมาในรัฐธรรมนูญและกฎหมายพรรคการเมืองฉบับนี้

                 ในรัฐธรรมนูญอยู่ที่มาตรา 45 เรื่องเกี่ยวกับการตั้งพรรคและการบริหารพรรคการเมือง โดยในตอนหนึ่งระบุว่า “การบริหารพรรคการเมือง... ต้องกําหนดมาตรการให้สามารถดําเนินการโดยอิสระไม่ถูกครอบงําหรือชี้นําโดยบุคคลซึ่งมิได้เป็นสมาชิกของพรรคการเมืองนั้น”

                 และมากำหนดรายละเอียดไว้ในกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 28 ห้ามพรรคปล่อยให้บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการ “ครอบงำ” และมาตรา 29 ห้ามบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการ “ครอบงำพรรค” (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในกราฟฟิก)

 

อ่านเกม "ยุบพรรคเพื่อไทย" รอด - ไม่รอด ??

                 ง่ายๆ ห้ามทั้งพรรคและห้ามทั้งคน และก็มีโทษทั้งในส่วนของพรรค และในส่วนของคน

  

                 กติกาใหม่เพื่อ “ทักษิณ” สกัด “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ”

                 ย้อนกลับไปปี 2556 เคยมีการยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคเพื่อไทยจากกรณีที่ “ทักษิณ” สไกป์มาในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามเนื่องจากตอนนั้นไม่ได้มีบทบัญญัติห้ามคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกมายุ่งเกี่ยวไว้ ครั้งนั้นจึงทำได้เพียงร้องแบบอ้อมๆ คือ โดยร้องว่าเป็นการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองที่ไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ จึงเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 (รัฐธรรมนูญ 2550) ซึ่งในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้สั่งยุบพรรค

                 ถ้าพูดตรงๆ ก็ต้องบอกว่า “กติกาใหม่” นี้ การเขียนเอาไว้เพื่อจัดการกับ “ทักษิณ” นั่นแหละ

                 กลไกนี้นอกจากอาจจะยุบพรรคได้แล้ว ยังทำให้เพื่อไทยไม่สามารถนำสโลแกน “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” มาขายอีกได้

                 แกนนำพรรคเพื่อยอมรับว่า กติกานี้ส่งผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทยพอสมควร เพราะเดิมเวลาหาเสียง ทักษิณสามารถสไกป์ หรือวิดีโอคอลมาได้ แต่ต่อไปนี้จะทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว

 

                 ยุบพรรคต้องผิดทั้งบุคคลทั้งพรรค

                 วกกลับมาที่เรื่อง “คลิปทักษิณ” ล่าสุด ว่าจะเป็นเหตุให้ถูกยุบพรรคได้หรือไม่

                 หากพิจารณาที่ข้อกฎหมายจะเห็นได้ว่ากฎหมายห้ามใน 2 ส่วน คือ ห้ามพรรคและห้ามบุคคล การจะไปถึงโทษยุบพรรคได้น่าจะต้องมีการกระทำผิดที่สมบูรณ์ทั้ง 2 ส่วน คือ 1.บุคคลครอบงำพรรค 2.พรรคยอมให้บุคคลครอบงำ

                 เช่นกรณีนี้หาก “ทักษิณ” เป็นผู้กำหนดตัวผู้ลงสมัครและพรรคยอมตาม แบบนี้น่าจะเป็นความผิดที่สมบูรณ์

                 ทั้งนี้สอดคล้องกับท่าทีของเลขาธิการ กกต. ที่บอกว่า “พฤติกรรมดังกล่าวจะเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่นั้น เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะต้องพิจารณาข้อเท็จจริงอื่นประกอบรวมถึงท่าทีของพรรคการเมือง อาทิ การจัดประชุมพรรคที่เข้าข่ายการรับนโยบายจากคนนอกพรรคมาปฏิบัติหรือไม่ แต่ขณะนี้การจัดประชุมพรรคหรือทำกิจกรรมใดยังไม่สามารถดำเนินการได้ ดังนั้นประเด็นดังกล่าวอาจทำได้แค่พิจารณาข้อมูลในเบื้องต้นซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าต้องใช้เวลาพิจารณานานเท่าใด”

                 แต่มองอีกด้านเรื่องนี้ก็เป็นเหมือน “ชนักปักหลัง” พรรคเพื่อไทยอยู่  

 

                 เป้าหมายไม่ใช่แค่ยุบพรรค?

                 ต้องบอกว่ากระแสเรื่อง “ยุบพรรคเพื่อไทย” ไม่ได้หมายความแค่ว่า พรรคนี้จะถูกยุบเท่านั้น แต่ยังหมายถึงเสถียรภาพของพรรคนี้ ซึ่งเกี่ยวโยงไปถึงกระแส “ดูด” ที่กำลังแรง ใครที่คิดจะอยู่พรรคเพื่อไทยต่อไปก็อาจจะต้องผวาว่าพรรคนี้จะถูกยุบเมื่อไร

                 ส่วนฝั่งทักษิณก็ต้องบอกว่าเจตนาของการปรากฏตัวรวมถึงการปล่อยคลิปออกมาก็เพื่อสกัด “พลังดูด” ที่ถาโถมใส่พรรค โดยทักษิณเลือกที่จะปรากฏตัวออกมาเป็น “แพ็กคู่” กับน้องสาว เริ่มตั้งแต่การปรากฏตัวอย่างเปิดเผยเมื่อที่สิงคโปร์เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

                 คำพูดของทักษิณที่บอกว่าใครย้ายออกไปแล้วจะสอบตก ที่เคยสอบได้เพราะกระแสพรรคช่วย รวมไปถึงการแสดงท่าทีไม่แคร์ และพร้อมจะส่งคนรุ่นใหม่ลงแทน ก็น่าจะทำให้คนที่คิดจะย้ายออกต้องคิดหนักเหมือนกัน

                 แต่ปฏิบัติการครั้งนี้ก็เป็นบูมเมอแรงย้อนกลับมาเล่นงานทักษิณด้วย

 

                 ชนักเก่า คดีพรรคเพื่อไทยแถลง 4 ปี คสช.

                 ต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้ 8 แกนนำพรรคเพื่อไทยเคยโดน คสช.แจ้งความดำเนินคดีจากการแถลงข่าวในวาระครบรอบ 4 ปี คสช. โดย 3 แกนนำที่เป็นผู้แถลงข่าวคือ วัฒนา เมืองสุข, จาตุรนต์ ฉายแสง และชูศักดิ์ ศิรินิล โดน 2 ข้อหา คือ 1.ขัดคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 คือร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และ 2.ความผิด ป.อาญามาตรา 116 คือยุยงปลุกปั่น

                 ส่วนอีก 5 ราย คือ นพดล ปัทมะ, ชัยเกษม นิติสิริ, ภูมิธรรม เวชยชัย, พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ และกิตติรัตน์ ณ ระนอง โดยเฉพาะข้อหาแรก

 

อ่านเกม "ยุบพรรคเพื่อไทย" รอด - ไม่รอด ??

(อ่านต่อ..."แกนนำพท." ปัดปลุกปั่น-ไม่เข้าข่ายยุบพรรค)

 

                 ถ้าจะโยงไปถึงการยุบพรรค ข้อหาที่สองจะน่ากลัวที่สุดเพราะอาจจะไปเข้าเงื่อนไขเหตุที่จะถูกยุบพรรคตามมาตรา 45 ของกฎหมายพรรคการเมือง ที่ระบุว่า “ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองกระทําการหรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทําการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน”

 

อ่านเกม "ยุบพรรคเพื่อไทย" รอด - ไม่รอด ??

                 ถึงแม้พรรคเพื่อไทยพยายามป้องกันด้วยการให้ผู้ที่แถลงข่าวมีเฉพาะคนที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พรรคจะรอด 100 เปอร์เซ็นต์

                 ตราบใดที่ยังไปไม่ถึงวันเลือกตั้งก็ยังต้องลุ้นว่าชนักเหล่านี้จะบาดลึกพรรคเพื่อไทยแค่ไหน จะมีชนักเพิ่มอีกหรือไม่ 

                 สุดท้ายจะโดน “ใบแดง” ไล่ออกจากสนามหรือไม่ !!  

  

================

โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ