เจาะสนามโคราช !! ใคร...ตระกูลไหน โดน "ดูด" แล้ว ??

 

                 จับจังหวะเคลื่อนของ “กลุ่มสามมิตร” แล้ว มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากว่ากลุ่มนี้ “จงใจ” ที่จะให้นักการเมืองทั่วประเทศรับรู้รับทราบถึงการปฏิบัติภารกิจ “ดูด” ของกลุ่มนี้

                 ที่น่าสงสัยคือ ทำไมต้องแสดงออกขนาดนี้?

                 จู่ๆ “ภิรมย์ พลวิเศษ” อดีตส.ส.โคราช ภูมิใจไทย ก็ออกมาเปิดตัว “กลุ่มสามมิตร” พร้อมสาธยายถึงที่มาของชื่อกลุ่มที่บอกว่า “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นคนตั้งชื่อ เพื่อสะท้อนความเป็นมิตรของนักการเมือง 3 ส. คือ สุริยะ สมศักดิ์ เทพสุทิน และสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ

                 แถมประกาศให้รู้ถึงการที่สุริยะและสมศักดิ์จะเดินทางไปพบ “ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข” อดีตรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยและพรรคพวกที่เมืองเลย

                 ภาพการพบกันของทั้งหมดในวันดังกล่าวเป็นข่าวใหญ่ประจำวัน

                 ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนถึงเหตุผล แต่ที่มีการวิเคราะห์กันก็มีตั้งแต่ เพื่อข่มขวัญฝ่ายตรงข้าม ซึ่งก็คือพรรคเพื่อไทย ที่ตอนนี้คนในพรรคยอมรับว่าสภาพที่กำลังเจออยู่ “ปั่นป่วนที่สุด ยับเยินที่สุด”

                 นอกจากนี้อาจเพื่อสร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมือง ต้องการให้เห็นศักยภาพของ “กลุ่มสามมิตร” หรือต้องการแสดงให้เห็นว่าการอยู่กับ “ฝ่ายอำนาจ” สามารถทำอะไรก็ได้

 

(อ่านต่อ...แกะรอย... "เกมดูด" มีอะไรซ่อนอยู่??)
 

                 หลังจาก “สุริยะ” บอกว่าการไปพบปะนายปรีชา เป็นการไปพบปะเพื่อนอดีตส.ส.เพื่อถามสารทุกข์สุกดิบเท่านั้น เมื่อนักข่าวไปถามเรื่องนี้กับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงก็ถูกย้อนถามกลับมาว่า “เป็นการไปเยี่ยมกันมิใช่หรือ เขาไปคุยเรื่องอะไร” และบอกว่า “หากคุยแล้วขัดคำสั่ง คสช. ก็จะดำเนินคดี”

                 ขณะที่ “บิ๊กตู่” คนที่ทางกลุ่มแสดงท่าทีสนับสนุน ตอบนิ่มๆ ว่า “เป็นเรื่องของการเมือง ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าการเมืองมีการเคลื่อนไหวหลายอย่างด้วยกัน หลายพรรคการเมืองก็เคลื่อนไหว ตนยังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตรงนี้เลย ฉะนั้นเป็นเรื่องของพรรคการเมืองต่อพรรคการเมือง นักการเมืองก็ว่ากันไป”

 

                 “โคราช” เป้าหมายต่อไป

                 ล่าสุดมีข่าวว่าในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ กลุ่มสามมิตรจะไปทาบทาม “วิรัช รัตนเศรษฐ” อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมทั้งภรรยา คือ “ทัศนียา รัตนเศรษฐ” และลูกชาย คือ “อธิรัฐ รัตนเศรษฐ” อดีตส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เพื่อให้ไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งสมัยหน้า

                 แต่นายวิรัชยังไม่ให้ความชัดเจน โดยบอกว่า “ยังไม่พร้อมที่จะตอบอะไรตอนนี้” แต่ก็พูดน่าสนใจว่า “แม้จะยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยไปแล้วแต่ก็สามารถเข้าออกได้ เพราะกฎหมายใหม่ไม่ได้ผูกมัดอะไร”

 

(อ่านต่อ..."กลุ่มสามมิตร" ดูดตระกูล "รัตนเศรษฐ" ถึงโคราช)

 

                 อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวข่าวนายวิรัช พร้อมครอบครัวตัดสินใจแล้วว่าจะไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ โดยได้รับการติดต่อผ่าน “สุชาติ ตันเจริญ” หัวหน้ากลุ่มบ้านริมน้ำ นักการเมือง “ส.” อีกคน

                 นอกจากตระกูล “รัตนเศรษฐ” ยังมีข้อมูลด้วยว่าตระกูล “สุวรรณฉวี” คือ นางระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ภรรยาของ “ไพโรจน์ สุวรรณฉวี” อดีตนักการเมืองผู้คร่ำหวอดที่สนามโคราชผู้ล่วงลับไปแล้ว และลูกชายคือ “พลพีร์ สุวรรณฉวี” ก็ได้รับการประสานผ่านนายสุชาติ และตัดสินใจแล้วเช่นกันว่าจะไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ

 

                 ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วตระกูลสุวรรณฉวีสวมเสื้อพรรคชาติพัฒนาของ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ลงสนาม “พลพีร์” ได้เป็น ส.ส. ส่วนระนองรักษ์ เบนไปลงสนามท้องถิ่นเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด

                 อย่างไรก็ตามการอยู่พรรคชาติพัฒนาของตระกูลสุวรรณฉวีในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วก็เป็นการมาอยู่หลังจากย้ายมาจากพรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อแผ่นดิน และภูมิใจไทย และถ้าย้อนกลับไปอีกตระกูลนี้ก็เคยอยู่พรรคชาติพัฒนาในยุค “พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ”

                 เช่นเดียวกับตระกูล “รัตนเศรษฐ” ที่เคยย้ายมาแล้วหลายพรรคเช่นกันคือ จากพรรคชาติไทย พรรคมหาชน พรรคชาติพัฒนา ก่อนจะมาอยู่พรรคเพื่อไทย

                 ถ้ามองขยายออกไปถึงส.ส.ในโคราชทั้งหมดก็จะพบว่า ส.ส.จังหวัดนี้มีการย้ายพรรคกันเป็นปกติ

                 และเนื่องจากพื้นที่โคราชเป็นพื้นที่ที่มีส.ส.มากเป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพฯ โดยเมื่อการเลือกตั้งปี 2554 มีส.ส.ถึง 15 คนจึงน่าสนใจว่าท่ามกลางกระแส “ดูด” อดีตส.ส.ที่โคราชมีการเคลื่อนไหวกันอย่างไร

                 นอกจาก 2 กลุ่มข้างต้น คือ ตระกูลรัตนเศรษฐ และตระกูลสุวรรณฉวี ที่ตัดสินใจว่าจะไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ผ่านการติดต่อของ “สุชาติ ตันเจริญ” ยังมีอดีตส.ส.โคราชอีกกลุ่มใหญ่ที่ได้รับการประสานให้เข้าร่วมกับพรรคประชารัฐด้วย เพียงแต่ไม่ใช่การประสานผ่านนายสุชาติ แต่เป็นการประสานโดยระดับ “รัฐมนตรี”

                 สำหรับอดีตส.ส.กลุ่มนี้มีทั้งคนที่เป็นอดีตส.ส.เมื่อการเลือกตั้ง 2554 และอดีตส.ส.สอบตก จากหลายพรรค ประกอบด้วย

                 นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตส.ส.พรรคภูมิใจไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและเป็นอดีตรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยด้วย นายอัศนี เชิดชัย ลูกชาย “เจ๊เกียว” สุจินดา เชิดชัย ผู้กว้างขวางที่โคราช และภรรยา คือ “ลินดา เชิดชัย” โดยอัศนี และลินดา เป็นอดีตส.ส.ในยุคพรรคพลังประชาชน

                 นอกจากนั้นก็มี พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ อดีตส.ส.พลังประชาชน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตส.ส.ไทยรักไทย และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ต่อมาก็เป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย

                 รวมทั้ง นายจำลอง ครุฑขุนทด อดีตส.ส.หลายสมัยหลายพรรคของโคราช และเคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายกฤษฎาง แถวโสภา นายพงษ์พิช รุ่งเป้า นายประชาธิปไตย คำสิงห์นอกนายสมศักดิ์ โสมกลาง

                 ตอนนี้กลุ่มนี้กำลังรวมตัวกันอย่างหลวมๆ เพื่อเจรจาต่อรอง ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงปลายเดือนนี้

                 แต่อีกด้านหนึ่งกลุ่มนี้ก็มีความต้องการที่จะรวมตัวอดีต ส.ส.โคราชให้มาอยู่ในพรรคเดียวกันคือ “พรรคพลังโคราช” ที่มีการไปยื่นจองชื่อพรรคไว้แล้ว เพียงแต่ไม่มีแรงดึงดูดพอที่จะทำให้ ส.ส.โคราชทั้งหมดมารวมกันได้ ตอนนี้จึงรวมกันได้เพียงประมาณ 10 คน

                 ต้องบอกว่าการรวมตัวของอดีตส.ส.กลุ่มนี้ก็สืบเนื่องมาจากการที่กติกาการเลือกตั้งใหม่ที่เอื้อให้อดีตส.ส.ที่แต่ละคนล้วนมีฐานคะแนน การลงสมัครส.ส. ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาต้องได้เป็นส.ส.เท่านั้น แต่อีกเป้าหมายคือการเก็บสะสมคะแนนเพื่อแปลงไปเป็นคะแนนให้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็ใช้ยุทธศาสตร์นี้

                 อีกกลุ่มคืออดีตส.ส.พรรคเพื่อไทยเมื่อการเลือกตั้งปี 2554 ได้แก่โกศล ปัทมะ, สุชาติ ภิญโญ, ประเสริฐ จันทรรวงทอง, ศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ และจรูญพงศ์ พันธุ์ศรีนคร ตอนนี้ที่ชัดเจนว่ายังอยู่กับเพื่อไทยแน่ๆ คือ “โกศล” คนเดียวเท่านั้น ส่วนที่เหลือยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจน

                 รวมถึงอดีตส.ส.ภูมิใจไทยอีก 2 คน คือ นายประนอม โพธิ์คำ และนายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ ที่ยังไม่ชัดเจนว่าพวกเขาจะตัดสินใจอย่างไร

                 ดูจากความเคลื่อนไหวแบบ “โฉ่งฉ่าง” ของฝั่งหนุน “พล.อ.ประยุทธ์” อีกไม่นานน่าจะเห็นความชัดเจน

                 อย่างไรก็ตามจากข้อมูลที่ออกมาด้านหนึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีการแบ่งสายกันประสานอดีตส.ส.เพื่อให้มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐได้แก่ 1.สายกลุ่มสามมิตร 2.สายสุชาติ ตันเจริญ 3.สายอดีตรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่ายังมีอีกสายเป็นสายที่ 4 คือสาย “คนมีสี” ที่ระยะนี้เดินสายลงพื้นที่อย่างคึกคัก

                 ต่อไปคำถามที่ว่า “รู้เห็นเป็นใจกับการเคลื่อนไหวแบบโจ๋งครึ่มนี้หรือไม่??” คงพุ่งไปที่ “บิ๊กตู่” มากขึ้น!!

 

=================

โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์

 

(อ่านต่อ : เรื่องเล่า... การเมืองที่ "โคราช" )