คอลัมนิสต์

"ทักษิณ-ธัมมชโย" : เพราะคนๆเดียว.....เหมือนกัน ?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'เพราะคนๆเดียว'ประโยคนี้ ไม่ใช่เพิ่งใช้กรณี "พระธัมมชโย" ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในขณะนี้เท่านั้น แต่เคยใช้กับ"ทักษิณ"มาแล้ว

 

      จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะจบลงอย่างไรกับปัญหาของพระธัมมชโยแห่งวัดพระธรรมกาย หลังจากดีเอสไอปฏิบัติการล่าตัวมานานนับ 2 สัปดาห์แล้วเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในข้อหา สมคบกันฟอกเงินและรับของโจร

    และความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้  ทำให้ผู้คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า 'เพราะคนๆเดียว'

     และประโยคเดียวกันนี้ เคยมีการใช้กับคนชื่อ"ทักษิณ ชินวัตร"

      ดังนั้นลองเปรียบเทียบ “ความเหมือน” และ “ความต่าง” ระหว่างบุคคลทั้งสอง

      ความเหมือนอย่างแรกของทั้งสองคน คือ    การเป็นนักการตลาด โดย“ทักษิณ” มีความสามารถในการสร้างภาพ ดึงมวลชน นำระบบธุรกิจมาใช้กับการเมือง ส่วน“พระธัมมชโย” มีความสามารถในทาง“พุทธพาณิชย์” และขยายสาขา เครือข่าย ออกไปอย่างกว้างขวาง

       ความเหมือนประการต่อมา ก็คือ การมีมวลชนสนับสนุน “ทักษิณ”  มีสมาชิกพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง และประชาชนที่ชื่นชอบในตัวเขา  เป็นกำลังสำคัญ  ในขณะที่ พระธัมมชโย ก็มีลูกศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธาจำนวนมาก อีกทั้งมีเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ

      แม้กระทั่งการเรื่องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของทั้งสองก็็เหมือนกัน  คือ “ทักษิณ” หนีคำพิพากษาในคดีที่รัชดาฯ ที่จำคุกเขา 2 ปี รวมทั้งอีกหลายคดีที่ถูกออกหมายจับเนื่องจากหลบหนีคดีในชั้นพิจารณาคดีของศาล ส่วน “พระธัมมชโย ” ก็ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหลังจากถูกอัยการสั่งฟ้องในข้อหารับของโจรและสมคบกันฟอกเงินจากการรับเงินจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น  และประการสุดท้าย ด้วยความที่ทั้งสองคนเป็นคนประเภท“ยอมหัก ไม่ยอมงอ” จึงนำมาซึ่งความวุ่นวายอย่างที่เห็น จนคนบ่นด้วยความเบื่อหน่ายว่า “เพราะคนๆเดียว” ​ "ทักษิณ-ธัมมชโย" : เพราะคนๆเดียว.....เหมือนกัน ?

       ส่วนความต่างนั้น  อย่างแรกที่เด่นชัด ก็คือ “ทักษิณ ” เป็นนักการเมือง  ส่วนพระธัมมชโย เป็นพระสงฆ์  จึงมีสถานะทางสังคมที่แตกต่างกัน

      ความต่างประการต่อมา ก็คือในด้านคดีความ   “ทักษิณ” ถูกกล่าวหาว่าทุจริต โกงรัฐ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดิน  ส่วนพระธัมมชโย ถูกกล่าวหาว่ารับเงินจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จึงโดนข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องเอกชนกับเอกชน  ไม่ได้เกี่ยวกับการโกงรัฐ หรืองบประมาณแผ่นดินแต่อย่างใด 

      นอกจากนั้นคดีของ“ทักษิณ” ได้ผ่านล่วงเลยไปถึงขั้นสุดท้ายแล้ว   คือ คดีที่ดินรัชดาฯ ศาลมีคำพิพากษาแล้ว ส่วนคดีพระธัมมชโย คดียังอยู่ในชั้นอัยการสั่งฟ้องคดี ดังนั้นโอกาสในการต่อสู้คดีของพระธัมมชโย ยังมีมากกว่า  

      รวมทั้งในเรื่องของ “อายุความ” ก็มีความต่างกัน  กล่าวคือ คดีพระธัมมชโย  ในข้อหาร่วมกันรับของโจรและสมคบกันฟอกเงินนั้น อายุความ 15 ปี  ส่วน“ทักษิณ” ถูกดำเนินคดีหลายคดี โดยบางคดี มีอายุความยาวนานถึง 20 ปี ในการนำตัว ทักษิณ กลับมาดำเนินคดี เนื่องจากมีโทษหนักกว่าคดีที่พระธัมมชโยถูกดำเนินคดี 

     “ความต่างสุดท้าย ก็คือ กรณีของทักษิณ มีเรื่องของการชิงอำนาจรัฐ รวมอยู่ด้วยจึงเป็นเรื่องของ zero-sum game  กล่าวคือเมื่อฝ่ายหนึ่งชนะ อีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องสูญเสีย  ส่วนพระธัมมชโย เป็นเรื่องของพระรูปหนึ่ง เป็นเจ้าอาวาสวัดใหญ่ มีลูกศิษย์จำนวนมาก เมื่อถูกดำเนินคดี ลูกศิษย์ ที่เขาศรัทธาจึงออกมาปกป้องช่วยเหลือเพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดี จึงไม่ใช่เรื่องชิงอำนาจทางการเมือง แต่เป็นเรื่องการถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดในเรื่องส่วนตัว” 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ