คอลัมนิสต์

แผนล้มประยุทธ์ล่ม “ทักษิณ” ฝันค้าง บัตร 2 ใบหงายเก๋ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศึกพลังประชารัฐ “ทักษิณ” ฝันล่ม แผนล้มประยุทธ์ไม่เป็นจริง แผนกลับบ้านสะดุด แก้รัฐธรรมนูญบัตร 2 ใบส่อคว่ำวาระ 3 คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

ความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ จบลงตามขนบละครการเมืองไทย “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร” เมื่อผลประโยชน์ลงตัวก็ไม่รบราฆ่าฟันกัน

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

สำหรับกองแช่ง “ไล่ประยุทธ์” อาจรู้สึกผิดหวัง ที่ไม่เห็นภาพ “ประยุทธ์แพ้โหวตกลางสภา” ซึ่งผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ค Thanapol Eawsakul จึงโพสต์เหน็บพวกไล่ประยุทธ์ว่า “นึกแล้วก็ขำดีนะครับตอนนี้ความหวังที่จะล้มประยุทธ์ จันทร์โอชา (สำหรับคนที่คิดว่าเอาประยุทธ์ออกไปอย่างเดียว)อยู่ที่ธรรมนัส พรหมเผ่า”

 

 

 

อีกรายหนึ่ง ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ค Somsak Jeamteerasakul โพสต์เรื่องความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ ในวันที่ยังไม่ทราบผลการเจรจา โดยตั้งข้อสังเกตว่า “..แต่ในที่นี้อยากทบทวนว่า เหตุที่ทักษิณ-เพื่อไทย ไม่โจมตีธรรมนัส (ทักษิณยังพูดถึงค่อนข้างดี) มาจากเหตุนี้เอง จะเรียกว่า “ดีล” หรือไม่ ไม่สำคัญเท่าไร (ที่ผมเคยบอกไปว่าอาจเรียกเป็น “ดีล” อย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะตกลงไว้ก่อนหรือไม่อย่างไร) 

ทักษิณเรียกเองว่า เป็นการคิดทาง “ยุทธศาสตร์” (ซึ่งผมว่าเป็นการใช้ภาษาที่ผิด) สำหรับการเมืองไทยและสำหรับทักษิณ อย่างน้อยตั้งแต่ปี 2549 เราได้เห็นเป็นประจำ ภาษาชาวบ้านเรียกเป็น “ดีล” บ้าง อย่างอื่นบ้าง หรือเรียกรวมๆว่า น้ำเน่า”

 

 

 

เหตุที่สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ใช้คำว่า “น้ำเน่า” เพราะนับแต่ถูกยึดอำนาจ ต้องไปใช้ชีวิตในต่างแดน ทักษิณผิดพลาด เพราะ “ดีลล่ม” มาหลายหนแล้ว

 

 

 

กรณีแผนล้มประยุทธ์ในสภาฯ นักการเมืองฝั่งตรงข้ามขั้วทักษิณ ฟันธงไปเลยว่า นี่คือเกมของคนแดนไกล ซึ่งไม่มีใครขุดหลักฐานใดออกมาโชว์ เพียงโยงตัวละครบางคน แล้วเชื่อมต่อไปถึงดูไบทันที

 

 

++

อยากกลับบ้าน

++

 

ย้อนไปก่อนหน้านี้ ช่วงเดือน ก.ค.2564 “โทนี่” หรือทักษิณ ชินวัตร จะพูดเรื่อง “กลับเมืองไทย” ถี่มาก จนผู้คนอดสงสัยไม่ได้ว่า ทักษิณมีความมั่นใจขนาดไหน จึงย้ำแล้วย้ำอีกว่า จะได้กลับเมืองไทยแน่

 

 

 

ก่อนวันเกิดครบรอบ 72 ปี(24 ก.ค.2564) ทักษิณพูดคุยกับนักข่าวกลุ่มหนึ่งที่เพจ The room 44 ก็มีคำถามว่า จะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่ เขาก็ตอบทันที

“อะไรจะเกิดก็เกิด ผมเสี่ยงตายกับชีวิตมาเยอะแล้ว เสี่ยงคุกมันเรื่องเล็ก เมื่อสปิริตออฟไทม์มันให้ ผมจะบินกลับไปทันที ไม่ต้องเตรียมพิธีรีตอง ง่ายๆเลยขึ้นเครื่องบินก็ลงจบ อะไรจะเกิดก็ไม่เป็นไร เกิดได้หมด จะเอาผมเข้าคุกก็เอา จะเอาอย่างไรบอก ไม่มีปัญหาสักเรื่อง”

 

 

 

นับแต่เกิดรัฐประหาร 2549 “ทักษิณ” ได้กลับมากราบแผ่นดิน เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2551 หลังไปลี้ภัยอยู่ที่อังกฤษนานถึง 1 ปี 5 เดือน หลังจากนั้นไม่นาน ทักษิณก็ต้องหนีออกจากเมืองไทยอีกครั้ง

 

 

 

สิบกว่าปีมานี้ มีข่าว “ทักษิณจะกลับบ้าน” นับครั้งไม่ถ้วน รวมถึงข่าวลือเรื่อง “อภิมหาดีล” ไม่รู้กี่ครั้งกี่หน นักวิชาการอย่างสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล จึงเรียกว่า เรื่องน้ำเน่า

 

 

++

บัตร 2 ใบ

++

 

 

ช่วงที่ ทักษิณ” พูดเรื่องจะกลับบ้านแบบเท่ๆ มาทางประตูหน้า สนามบินสุวรรณภูมิ ปรากฏว่า พรรคเพื่อไทยจับมือพรรคพลังประชารัฐ แก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยระบบเลือกตั้ง โดยจะกลับไปใช้ระบบบัตร 2 ใบ ตามรัฐธรรมนูญ 2540

 

 

 

ในคลับเฮาส์ “โทนี่” ก็พูดเรื่องระบบเลือกตั้งว่า “อย่างตอนผมเป็นนายกฯ ก็เป็นผลผลิตของรัฐธรรมนูญ 2540 ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนร่าง ก็ได้เป็นรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ 2540 ชนะก็ชนะเยอะ ผมก็เลยมีอำนาจในการทำงานได้เต็มที่ ตัดสินใจได้เต็มที่ ไม่มี ส.ส. กวนใจ”

 

 

 

ทักษิณจึงเห็นด้วยเต็มที่ ในการนำระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบกลับมาใช้ เพราะมั่นใจว่า เลือกตั้งเที่ยวหน้า พรรคเพื่อไทยชนะแบบแลนด์สไลด์แน่นอน

 

 

 

ขณะที่นักวิเคราะห์การเมือง ต่างกังขากรณีพรรคพลังประชารัฐ ร่วมหัวจมท้ายกับพรรคเพื่อไทย แก้ระบบเลือกตั้งจาก “บัตรใบเดียว” เป็น “บัตร 2 ใบ” ส.ส.แบ่งเขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ซึ่งเกมแบบนี้ไม่มีใครสู้ “ทักษิณ” ได้แน่นอน

 

 

 

เหตุใด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค จึงเออออห่อหมกกับพรรคเพื่อไทย

 

 

 

“ธรรมนัส” อาจมองข้ามช็อตว่า เลือกตั้งสมัยหน้า พลังประชารัฐอาจมีสภาพเป็นพรรคขนาดกลาง ที่พร้อมเข้าร่วมรัฐบาลกับขั้วไหนก็ได้ เนื่องจากฉากทัศน์การเมืองไทยในอนาคต จะไม่ใช่ยุคของ 3 ป.อีกต่อไป

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยระบบเลือกตั้ง ผ่านวาระ 2 ไปแล้ว เหลือด่านสุดท้ายวาระ 3 แต่เกิดเหตุแผนล้มประยุทธ์กลางคัน ร่างแก้รัฐธรรมนูญอาจแท้งกลางก็เป็นไปได้

logoline