ประเด็นเล็กๆ เรื่อง “ชื่อสะพาน” กลายเป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะความไม่ไว้วางใจที่ฝังลึกในหมู่ชนกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีต่อชาวพม่า
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2560 สภาผู้แทนราษฎรเมียนมา ออกเสียง 217 ต่อ 43 ให้ตั้งชื่อ “สะพานนายพลอองซาน” ข้ามแม่น้ำสาละวิน จากมะละแหม่งไปชองโส่ง ทั้งที่คนมอญคัดค้าน
การไม่ยอมรับฟังเสียงทักท้วงจากคนมอญ อาศัยเสียงข้างมากของสมาชิกสภาจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ลงมติเปลี่ยนชื่อสะพาน จึงทำให้ประชาขนในรัฐมอญ ออกมารวมตัวกันเดินบนท้องถนนในเมืองมะละแหม่ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มี.ค. 2560
เป้าหมายการชุมนุมวันนี้ เพื่อต่อต้านแผนการเปลี่ยนชื่อสะพานตานละวิน ที่ทอดข้ามแม่น้ำสาละวิน โดย ส.ส.พรรค NLD ได้เสนอให้เรียกสะพานแห่งนี้ว่า “สะพานนายพลอองซาน” ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมเห็นว่า ควรที่จะเก็บรักษาชื่อเดิมเอาไว้นั้นไม่ได้รับความสนใจ
สะพานแห่งนี้ ข้ามแม่น้ำสาละวิน เชื่อมระหว่างเมืองชอว์งซงกับเมืองมะละแหม่ง โดย ส.ส.พรรค NLD ต้องการเปลี่ยนเป็นชื่อสะพานนายพลอองซาน เพื่อเป็นเกียรติแก่นายพลอองซาน วีรบุรุษของชาติที่เสียสละเพื่อเอกราชของประเทศ
ด้านสมาชิกพรรค All Mon Regions Democracy Party ได้ริเริ่มในการประท้วงกล่าวว่า รัฐบาลควรจะพิจารณาฟังความคิดเห็นของประชาชน
ในแถลงการณ์ผู้ชุมนุมย้ำว่า พวกเขาไม่ได้ต้องการต้อสู้ หรือทำลายความสัมพันธ์กับพรรคเอ็นแอลดีแต่อย่างใด แต่การตัดสินใจเปลี่ยนชื่อสะพานดังกล่าวโดยไม่ได้ปรึกษาหารือกับประชาชนก่อน เป็นการกระทำที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ทั้งยังระบุว่า รัฐบาลควรจะเคารพความเห็นและความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาที่ประเทศพม่ากำลังก้าวไปสู่ระบบสหภาพรัฐสหพันธ์ประชาธิปไตย
ผู้ประท้วงเห็นว่า ควรจะใช้ชื่อที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์มอญมากกว่า โดยมีการเสนอให้ใช้ชื่อ Yah Ma Nya ซึ่งแปลว่า แผ่นดินมอญ
"พรรค NLD มีอำนาจในสภา และทุกวันนี้พวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ" ผู้ชุมนุมประท้วงรายหนึ่ง กล่าว
ผู้ชุมนุมกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ที่ให้การสนับสนุนชาวมอญ กล่าวว่า ชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่มรู้สึกว่า รัฐบาลของซูจีไม่รับฟังความต้องการของพวกเขา
"สมาชิกรัฐสภาควรรับฟังความต้องการของประชาชนที่เลือกพวกเขาให้เข้าไปทำหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าว แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ฟังเสียงของประชาชน"
-------------------------
ขอบคุณข้อมูล : สำนักข่าวชายขอบ transbordernews.in.th
ภาพ : แฟนเพจ Mon News Update 18+
-------------------------
ข่าวที่เกี่ยวข้อง