จะเกิดอันตรายต่อร่างกายและยังไร้การกำกับดูและและส่งเสริมให้มีการใช้อย่างสมเหตุผลอย่างจริงจัง คือ “ยากลุ่มเอ็นเสด”
“ยาเอ็นเสดหากมีการใช้อย่างไม่สมเหตุผลจะเหมือนการนำยาพิษที่มีสัญลักษณ์กะโหลกไขว้เข้าสู่ร่างกาย โดยยาเอ็นเสดเป็นยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์(NSIADs) โดยจะออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ เจ็บมาหายเจ็บ ปวดมาหายปวด บวมมาหายบวม นี่คือฤทธิ์ที่เรียกว่า ยาต้านการอักเสบ ซึ่งจะออกฤทธิ์ลดการอักเสบ ภาษาทางการแพทย์ใช้ว่า ปวด บวม แดง ร้อน เป็นอาการอักเสบ เมื่อให้ยาต้านการอักเสบลงไป ปวด บวม แดง ร้อนก็จะหาย” ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล ประธานคณะทำงานสร้างเสริมความเข้มแข็งภาคประชาชนด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผล อธิบายเกี่ยวกับยาเอ็นเสด
ผศ.นพ.พิสนธิ์ บอกอีกว่า ยาเอ็นเสดเป็นชื่อกลุ่มยาที่มีรายชื่อยาย่อยๆอยู่เป็นสิบๆชื่อ ในชีวิตประจำวันจะเจอยากลุ่มเอ็นเสดได้บ่อยมาก เช่น ผู้หญิงกินยาเมื่อปวดประจำเดือนชื่อการค้าพอนสแตน ก็มีตัวยาเมฟีนามิกแอสิด เป็นยาเอ็นเสดตัวหนึ่ง หรือใช้ยาเม็ดนิ่มๆ ชื่อการค้าโกเฟน มีตัวยาไอบูโพรเฟน ก็เป็นยาเอ็นเสดเช่นกัน
การใช้ยาเอ็นเสดจึงเปรียบเสมือนเม็ดยาที่ยืนอยู่บนเก้าอี้เล็กๆตัวหนึ่ง แล้วมีเชือกเส้นหนึ่งคล้องคอเม็ดยาไว้ หากใช้เอ็นเสดอย่างไม่สมเหตุผล ก็คือ การกระดุกกระดิกแล้วเชือกมันกระตุกลง ทำให้หล่นลงจากเก้าอี้ นี่คือความเสี่ยงของการใช้เอ็นเสด จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนให้การใช้ยาเอ็นเสดเหมือนการยืนอยู่บนพื้น ไม่มีเชือกคล้องคอ โดยให้สามารถใช้ยาได้รับผลดีและอันตรายน้อย
การใช้ยาเอ็นเสดอย่างไม่สมเหตุผล ใช้ไม่ถูกต้อง ใช้โดยขาดความรู้ ไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ไม่ได้ปรึกษาเภสัชกร คือ การกลืนยาพิษลงไปสู่ร่างกายอย่างแน่นอน
ผศ.นพ.พิสนธิ์ ให้ข้อมูลว่า ยากลุ่มเอ็นเสดทำให้ไตเสื่อม ไตวาย แต่ไม่ใช่แค่มีผลอันตรายต่อไตเพียงอย่างเดียว ยังทำให้เป็นแผลที่กระเพาะอาหาร ปวดท้อง แสบท้อง คลื่นไส้อาเจียน ถ้าเป็นมากๆเลือดออก อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ กระเพาะทะลุ และเสียชีวิตได้ อีกทั้งเป็นอันตรายต่อหลอดเลือดหัวใจ ทำให้หลอดเลือดหัวใจ อุดตัน กล้ามเนื้อหัวใจตายและเสียชีวิตได้อย่างฉับพลัน เอ็นเสดบางชนิดมีพิษต่อตับ หรือเกิดการแพ้อย่างฉับพลันได้ ความดันตก หายใจไม่ออก นอกจากนี้ ทำให้คนเป็นหอบหืดบางคน หลอดลมตีบและหายใจไม่ออก ส่วนบางคนแต่โอกาสน้อยมากจะทำให้เกิดมะเร็งที่ไตและทำให้เลือดออกในสมอง ด้วยการเกิดการอุดตันของหลอดเลือดในสมอง และเป็นพิษต่อเม็ดเลือดรวมและเกล็ดเลือด ทำให้เกล็ดเลือดไม่จับตัวกัน เลือดจะไม่แข็งตัว
ยกตัวอย่างเช่น ยาเอ็นเสดที่เรียกว่าไอบูโพรเฟนช่วยลดไข้ สมมติไข้สูงไม่รู้เป็นอะไรแต่กำลังเป็นไข้เลือดออกโดยไม่รู้ แต่ไปซื้อยาเอ็นเสดตัวนี้กิน โดยไม่รู้ว่าคือยาเอ็นเสด บอกแค่ขอยาลดไข้ คนขายหยิบยาที่เป็นไอบูโพรเฟนที่เป็นเอ็นเสดให้กิน อาจตายได้ เพราะเมื่อเลือดออกจากภาวะไข้เลือดออกแล้ว จะออกไม่หยุด คนไข้เกล็ดเลือดจะต่ำลงๆ เมื่อเจอยาตัวนี้ที่เป็นยาเอ็นเสดเกล็ดเลือดจะไม่เกาะตัวกัน อันตรายเกิดขึ้น 2 เด้ง คนไข้จะเลือดออกจนเสียชีวิต
ขณะที่ ผศ.ภญ.ดร.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา(กพย.) กล่าวว่า ยาเอ็นเสดเป็นยาอันตรายต้องจ่ายโดยเภสัชกรที่ร้านขายยา ขย.1 ที่เป็นร้านขายยาแผนปัจจุบันที่อนุญาตให้ขายยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษบางประเภทที่ให้เภสัชกรร้านขายยาขายได้เท่านั้น ซึ่งยาเอ็นเสดไม่ได้พบเฉพาะยาเม็ดเท่านั้น แต่ยาผงหรือยาน้ำก็เจอยาเอ็นเสดเช่นเดียวกัน และปัญหาต่างๆที่พบเกี่ยวกับยาเอ็นเสด
อย่างเช่น เรื่องการโฆษณา ถ้าเป็นยาเอ็นเสดที่ใช้กินจะโฆษณาไม่ได้ แต่หากเป็นยาเอ็นเสดใช้ภายนอกสามารถโฆษณา แต่ผู้ผลิตและจำหน่ายก็จะใช้ชื้อการค้าเดียวกันทั้งยากินและภายนอก เมื่อโฆษณายาภายนอกก็เหมือนโฆษณายากินไปด้วย นอกจากนี้ พบว่ายาที่มีส่วนผสมของยาเอ็นเสดบางตัวที่เป็นยากินมีการประกาศขายทางอินเตอร์เน็ต รวมถึง มีการฉีดยาเอ็นเสดในร้านชำและคลินิกพยาบาลบางแห่ง เพราะคิดว่าเมื่อมีฤทธิ์กัดกระเพาะก็เปลี่ยนมาฉีดจะได้ไม่ผ่านกระเพาะ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด แม้ฉีดก็มีผลต่อกระเพาะได้เนื่องจากกลไกการทำงานจะออกผลทั่วร่างกาย
ติดตาม ซีรีย์ “ยาชุด”
ตอน 2 แกะซอง“ยาชุด”...ชำแหละสารอันตราย!!!