เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางจอมทัพของ แมนเชสเตอร์ ซิตี ระบุทีมจะไม่ประมาทแม้กุมความได้เปรียบเหนือ เรอัล มาดริด ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย
โดยในเกมดังกล่าวเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ “เรือใบสีฟ้า” เป็นฝ่ายแซงชนะ “ราชันชุดขาว” ที่เหลือผู้เล่น 10 คนเหตุ เซร์คิโอ รามอส โดนไล่ออกถึงสนามซานติอาร์โก เบร์นาเบว 2-1 จากประตูของ กาเบรียล เฆซุส และเควิน เดอ บรอยน์ ส่งผลให้นัดหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี ต้องการเพียงผลเสมอ หรือแพ้ 0-1 ก็จะผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยกฎยิงประตูทีมเยือน
กองกลางทีมชาติเบลเยียม กล่าวถึงแมตช์ที่ผ่านมาว่า “นี่เป็นผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา โดยเรามีปัญหาในช่วง 15 นาทีแรก แต่คุณต้องฝ่าฟันอุปสรรคแบบนี้ให้ได้ ซึ่งผมคิดว่าครึ่งแรกรูปเกมออกมาแบบสูสี ส่วนในครึ่งหลังเราเริ่มต้นได้ดีแต่กลับโดนขึ้นนำ อย่างไรก็ตามผมชอบปฏิกิริยาตอบสนองของทุกคนในทีมหลังจากนั้น ส่งผลให้เราได้ประตูตีเสมอสุดสวยจาก กาเบรียล และยิงขึ้นนำจากลูกจุดโทษซึ่งเป็นอะไรที่สำคัญมากสำหรับเรา”
“ตอนนี้เราเพิ่งมาถึงครึ่งทางเท่านั้น โดยเราต้องฟื้นตัวเพื่อลงเล่นเกมคาราบาวคัพ รอบชิงชนะเลิศกับ แอสตัน วิลลา วันอาทิตย์ (1 มี.ค.) ก่อนต้องดวลกับพวกเขาอีกครั้งในอีก 3 สัปดาห์จากนี้”
ขณะที่เฮดโค้ชชาวฝรั่งเศส กระตุ้นลูกทีมพลิกเกมในเลกสอง โดยระบุว่า “นัดนี้เราเล่นได้ดีจนถึงสิบนาทีสุดท้าย แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปซึ่งแน่นอนว่าเราเจ็บปวดมาก เพราะผมคิดว่าเราควรจะได้ผลการแข่งขันที่ดีกว่านี้ โดยถ้าอยากเข้ารอบต่อไป เราต้องบุกไปชนะพวกเขาที่สนาม อิติฮัต สเตเดี้ยม เท่านั้น ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าเราสามารถทำได้"
สำหรับเกมเลกสองของคู่ดังกล่าวจะกลับไปเล่นที่ อิติฮัด สเตเดี้ยม ในวันที่ 17 มีนาคมนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง