ต้อนรับปี 2020 กับ 3 อีเว้นต์กีฬาระดับโลก สำหรับคอกีฬาตัวจริง
นอกจากทัวร์นาเมนต์กีฬาสำคัญๆ ที่ลงแข่งขันประจำทุกปีแล้ว ปฏิทินปี 2020 นี้ แฟนกีฬายังจะได้ต้อนรับ 3 ทัวร์นาเมนต์กีฬาระดับยักษ์ที่มั่นใจได้ว่าถ้าคุณคือ แฟนกีฬาตัวจริงจะไม่พลาดติดตามการชิงชัยระดับนานาชาติเที่ยวนี้แน่อน
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
เกมชิงชัยความเป็นเจ้าลูกหนังของทวีปยุโรปซึ่งแข่งกันทุกๆ 4 ปี ครั้งนี้เป็นปีแรกที่การจัดแข่งขันมีการเปลี่ยนแปลงจากมีเจ้าภาพจัดประเทศเดียวเป็นการกระจายจัดสนามฟุตบอลยูโร 2020 ในเมืองใหญ่จาก 12 ชาติทั่วทวีปยุโรป (อิตาลี, อาเซอร์ไบจาน, รัสเซีย, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, โรมาเนีย, สกอตแลนด์, สเปน, ไอร์แลนด์, เยอรมนี, ฮังการี และอังกฤษ) เพื่อเฉลิมฉลองการแข่งขันฟุตบอลยูโรครบรอบ 60 ปี
มาสคอตยูโร 2020 ชื่อว่า “สกิลซี” เป็นเด็กนักฟุตบอล โดยยูฟ่า ระบุว่า การออกแบบเจ้าสกิลซีได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมฟรีสไตล์ สตรีท และการโชว์ลีลาลูกหนังตามท้องถนน
ขณะที่รอบสุดท้ายระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน-12 กรกฎาคมนี้ ก็ได้จับสลากแบ่งสายกันไปครบแล้ว โดย “กรุ๊ป ออฟ เดธ” ได้แก่ กลุ่ม เอฟ ที่ประกอบไปด้วย เยอรมนี แชมป์ 3 สมัย, ฝรั่งเศส แชมป์โลกทีมล่าสุด และโปรตุเกส แชมป์เก่า
ยูโร 2020 รอบสุดท้าย
กลุ่ม เอ : อิตาลี, สวิตเซอร์แลนด์, ตุรกี, เวลส์
กลุ่ม บี : เบลเยียม, รัสเซีย, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์
กลุ่ม ซี : ยูเครน, เนเธอร์แลนด์, ออสเตรีย, (ทีมชนะเพลย์ออฟ สาย ดี)
กลุ่ม ดี : อังกฤษ, โครเอเชีย, เช็ก, (ทีมชนะเพลย์ออฟ สาย ซี)
กลุ่ม อี : สเปน, โปแลนด์, สวีเดน, (ทีมชนะเพลย์ออฟ สาย บี)
กลุ่ม เอฟ : เยอรมนี, ฝรั่งเศส, โปรตุเกส, (ทีมชนะเพลย์ออฟ สาย เอ)
ทั้งนี้ทีมเต็งแชมป์ประจำปีนี้ ได้แก่ ฝรั่งเศส กับ อังกฤษ เป็นเต็ง 1 ร่วมกัน
โอลิมปิกเกมส์ 2020
มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติซึ่งจัดแข่งขันกันทุก 4 ปี นอกจากจะเป็นทัวร์นาเมนต์กีฬาที่สำคัญที่สุดของโลก ความพิเศษเที่ยวนี้ซึ่งเป็นโอลิมปิกครั้งที่ 32 คือการได้กลับมาลงแข่งขันกันบนแผ่นดินเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น
ก่อนหน้านี้ชาติในเอเชียเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนแค่ 4 ครั้งเท่านั้น เกาหลีใต้ 1988, จีน 2008 และญี่ปุ่น 2 ครั้ง โดยโตเกียว 2020 เที่ยวนี้เป็นการกลับมาจัดโอลิมปิกเกมส์ในรอบ 56 ปี ของญี่ปุ่นต่อจากหนสุดท้ายเมื่อปี 1964
โอลิมปิกครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพปี 1964 รอบนั้นได้เปลี่ยนโฉมหน้าของประเทศไปตลอดกาลจากชาติผู้แพ้สงครามกลายมาเป็นมหานครที่เจริญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ขณะที่โตเกียว 2020 ที่จะเปิดฉากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น มั่นใจว่าโอลิมปิกครั้งนี้จะช่วยฟื้นฟูทุกภาคส่วนของประเทศ จึงยอมวางเดิมพันด้วยการเตรียมความพร้อมเพื่อทำให้โอลิมปิกครั้งนี้สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ด้วยความเป็นประเทศผู้นำด้านนวัตกรรม ญี่ปุ่นจึงต้องการนำเสนอจุดเด่นของพวกเขาด้วยยกระดับมหกรรมโอลิมปิกครั้งนี้ไปอีกขั้น แฟนกีฬาและนักท่องเที่ยวจะได้เห็นการนำหุ่นยนต์มาใช้ช่วยสื่อสารกับนักท่องเที่ยว การเดินทางที่สะดวกสบายด้วยรถยนต์พลังงานแบตเตอรี่อัตโนมัติ การถ่ายทอดสดการแข่งขันด้วยภาพที่คมชัดระดับ 8K ผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็ว 5G รวมถึงเหล่าตัวการ์ตูนดังของญี่ปุ่นที่จะมารับบท แบรนด์แอมบาสเดอร์
นอกจากเรื่องการอำนวยความสะดวกเวลานี้ ทัวร์นาเมนต์ก็มีการเตรียมความพร้อมแทบจะ 100% แล้ว
- มาสคอต
2 มาสคอตประจำโตเกียว 2020 มีชื่อว่า “มิไรโตวะ” และ “โซเมอิตี้”
มาสคอตสีฟ้าชื่อ มิไรโตวะ เกิดจากการผสมคำภาษาญี่ปุ่น 2 คำที่แปลว่า อนาคตกับนิรันดร์กาล
ส่วนมาสคอตสีชมพูที่เป็นมาสคอตของการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกมีชื่อว่า โซเมอิตี้ มาจากคำว่า โซเมอิโยชิโนะ ซึ่งเป็นต้นซากุระสายพันธุ์ที่มีมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยความพิเศษของมาสคอต 2 ตัวนี้คือมีพลังพิเศษเหมือนซูเปอร์ฮีโร่
- เหรียญรางวัล
มีการนำเอาขยะอิเล็กทรอนิกส์มาผลิตเป็นเหรียญรางวัลสำหรับการแข่งขันทั้งหมด 5,000 เหรียญ ผลงานการออกแบบโดย จูนิจิ คาวานิชิ ซึ่งคณะกรรมการระบุว่าเหรียญทองและเหรียญเงินในปีนี้มีน้ำหนักมากที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน
- วิ่งคบเพลิง
การวิ่งคบเพลิงจะเริ่มต้นที่จังหวัดฟุคุชิมะ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2020 ก่อนจะสิ้นสุดที่โตเกียว โดยจะวิ่งคบเพลิงรอบประเทศญี่ปุ่นจนครบ 47 จังหวัด ภายใน 121 วัน โดยมีเส้นทางพิเศษคือการวิ่งที่ฟุคุชิมะ อิวาเตะ และมิยางิ 3 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในธีม “เปลวไฟแห่งการฟื้นฟู”
ส่วนคบเพลิงมีการออกแบบมาแล้วโดยออกแบบให้มีรูปร่างคล้ายกลีบดอกซากุระ สามารถทนต่อแรงลมที่มีขนาดมากกว่า 17 เมตรต่อวินาที และทนต่อปริมาณน้ำฝนที่มีมากกว่า 50 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง
กีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 32 นี้ ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพ มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 24 กรกฎาคม-9 สิงหาคม 2020 ส่วนกีฬาพาราลิมปิกจะเริ่มจัดช่วง 25 สิงหาคม-6 กันยายน 2020โดยพิธีเปิดและพิธีปิดจะมีขึ้นที่สนามกีฬาโอลิมปิกโตเกียว ความจุ 60,000 คน
- กีฬาใหม่ 5 ชนิด
โอลิมปิกครั้งนี้ยังได้บรรจุกีฬา 5 ชนิดใหม่ ได้แก่ เบสบอลและซอฟต์บอล, ปีนผา, เซิร์ฟบอร์ด, คาราเต และสเกตบอร์ด
โดยโอลิมปิกปี 2020 นี้ จะบรรจุการแข่งขันกีฬาประเภทใหม่เพิ่มเข้าไปอีก 18 รายการ ทำให้โปรแกรมการแข่งขันทั้งหมดมี 33 ชนิดกีฬา ณ สนามกีฬา 43 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น ด้วยจำนวนนักกีฬา 11,000 คน เทียบจากเดิมที่มี 28 กีฬา และมีนักกีฬา 10,500 คน
ศึกกอล์ฟแห่งศักดิ์ศรี
กอล์ฟประเพณีระดับโลกซึ่งจัดขึ้นทุก 2 ปี “ไรเดอร์ คัพ 2020” จะเปิดฉากขึ้นที่รัฐวิสคอนซิน ของสหรัฐ ระหว่างวันที่ 25-27 กันยายนนี้
โดยเที่ยวนี้จะเป็นการล้างตาของทีมสหรัฐที่หวังแก้ตัวจากการพลาดแชมป์ปี 2018 ให้ทีมยุโรป โดยคราวนี้ เจ้าภาพนำทัพมาโดย สตีฟ สตริกเกอร์ โปรกอล์ฟจอมเก๋าวัย 52 ปี ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมชาติสหรัฐคนที่ 29
ส่วนฝั่งยุโรปได้ เปแดรก แฮร์ริงตัน ก้านเหล็กชาวไอริชดีกรีแชมป์ดิ โอเพ่น 2 สมัย และพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 2008 นำทีมในฐานะกัปตัน โดยก่อนหน้านี้โปรไอริชรับบทรองกัปตันมาตลอดการแข่งขัน 3 ครั้งล่าสุด
สถิติการเจอกันของทีมสหรัฐกับยุโรป ตั้งแต่ปี 1979 พบกันทั้งหมด 20 ครั้ง ทีมมะกันเป็นแชมป์ 8 ครั้ง ยุโรป 12 ครั้ง
นี่คือทั้งหมดของ 3 อีเวนท์กีฬาระดับโลกซึ่งต้องยอมรับว่าปี 2020 นับเป็นอีกหนึ่งปีทองของคอกีฬาที่จะได้สัมผัสกับทัวร์นาเมนต์สำคัญไปพร้อมๆ กัน และได้ร่วมส่งแรงเชียร์ไปกับอีกหลายๆ แฟนกีฬาจากทั่วทุกมุมโลก
ภาพ AFP
ข่าวที่เกี่ยวข้อง