ข่าว

 "โค้ชโต่ย" คุมทัพ "ช้างศึก" มาแล้วก็ยังต้องเรียนโค้ช

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เพื่อพัฒนาทีมชาติไทย และทำให้บุคลากรที่มีอยู่ มีความสามารถมากขึ้น

“โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย รักษาการหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย  เข้าอบรมผู้ฝึกสอนหลักสูตร AFC ‘Pro’ Diploma Coaching Course  ซึ่งโค้ช “ช้างศึก” ถือเป็น 1 ใน 21 ผู้เข้าอบรม ที่เข้าร่วมการอบรมโค้ชระดับ โปร ไลเซนส์ ซึ่งถือเป็นรุ่นที่สองในประเทศไทย

   "โค้ชโต่ย" คุมทัพ "ช้างศึก" มาแล้วก็ยังต้องเรียนโค้ช

“หลังจากที่ไปทำงานเพื่อชาติมา ก็ได้สัมผัสการเรียน ระดับโปร ไลเซนส์ มันคือที่สุดของการเรียนโค้ช ผมรู้สึกดีใจที่ได้รับโอกาสในครั้งนี้ ผมจะพยายามเก็บเกี่ยวความรู้ให้ได้มากที่สุด เพื่อพัฒนาฟุตบอลไทย ทีมชาติไทย รวมถึงเด็กๆเยาวชน ให้ทีมชาติไทย ได้มีบุคลากร นักเตะที่มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อเป้าหมายในการไปฟุตบอลโลก”

“ทั้งนี้ก็ต้อง ขอขอบคุณ ท่านนายกสมาคมฯ รวมถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ให้พวกผมและน้องๆหลายคน ที่ทำงานเพื่อชาติได้กู้ยืม มีทุนในการเข้าเรียนในครั้งนี้ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะว่าเราจะได้พัฒนาทีมชาติไทย และทำให้บุคลากรที่มีอยู่ มีความสามารถมากขึ้น”

“ที่ผ่านมา ผมก็รอโอกาสที่จะเรียนคอร์ส โปร ไลเซนส์ แต่กว่าจะเปิดแต่ละคอร์สก็ใช้เวลาพอสมควร ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนที่เรียน คอร์สนี้ถือเป็นคอร์สที่สูงที่สุดของวิชาโค้ช ถ้าใครได้เรียนผมคิดว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับน้องๆทุกคน โดยเฉพาะโค้ชหนุ่มไฟแรงที่จะมาพัฒนาทีมชาติไทยในวันข้างหน้า”

“คอร์สนี้ก็มีคนเก่งๆมากมาย ทำให้บรรยากาศมันดีมาก ถือว่าเป็นเกียรติมากที่ได้เข้าร่วมอบรมกับทุกคนในครั้งนี้”

“ผมไม่คิดเลยว่าจะมาถึงขั้นนี้ ตอนแรกคิดว่า พอมีเอ ไลเซนส์ มันก็ถือว่าสูงสุดแล้วสำหรับตัวผม แต่ถ้าเรามีโอกาส ก็ต้องไขว่คว้าไว้ ความรู้ไม่มีจุดสิ้นสุด ผมไม่คิดว่าจะมาถึงตรงนี้จริงๆ แม้ว่าเราจะเรียนโปร ไลเซนส์ แล้ว แต่พอจบไปแต่ก็ต้องหาประสบการณ์เพิ่มเติมต่อไปหลังจบคอร์สนี้”

“ในคอร์สนี้ ผมก็อยากถ่ายทอดประสบการณ์จากที่ผมไปทำงานในเอเชียน คัพ มา มันเป็นความรู้ใหม่ และเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ามาก ก็อยากให้เล่าให้น้องๆฟัง ทั้งการเจอกับโค้ชระดับโลก อย่าง อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี และ มาร์เซลโล ลิปปี้ ที่ผ่านการคุมทีมระดับโลกมาแล้ว เราได้เรียนรู้จากเขาโดยที่ไม่ต้องไปนั่งคุย”

หลักสูตร โปร ไลเซนส์ ถือเป็นหลักสูตร สูงสุด ที่ต่อยอดจาก เอ ไลเซนส์ ซึ่งก่อนจะมาเป็น โปร ไลเซนส์ นั้นต้องใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์ หลังจบ เอ ไลเซนส์ ไปแล้วอย่างน้อย 2 ปี โดยผู้ที่ผ่านหลักสูตรนี้ จะสามารถทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ อย่างฟุตบอลโลก หรือ ฟุตบอลชิงแชมป์ระดับทวีปเป็นต้น รวมถึงตำแหน่งต่างๆ อาทิ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคของสโมสร และทีมชาติ 

 

 

 "โค้ชโต่ย" คุมทัพ "ช้างศึก" มาแล้วก็ยังต้องเรียนโค้ช สำหรับระยะเวลาในการอบรม แบ่งเป็น 4 ช่วง

ช่วงแรก 27 วัน อบรมสองหัวข้อใหญ่คือ1. ฟิตเนส2. การฝึกซ้อมในภาคสนามและทฤษฎี

ช่วงที่สอง 23 วัน เก็บเกี่ยวข้อมูลฟุตบอลในประเทศที่ประสบความสำเร็จ โดยเป็นการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเก็บเกี่ยวข้อมูลฟุตบอลจากประเทศที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จในกีฬาฟุตบอล ทั้งจากสโมสรและทีมชาติ

ช่วงที่สาม เป็นช่วงระยะเวลาทำงานในรอบ 1 ปี หลังผ่าน 2 ช่วงแรก โดยจะมีการทำรายงานการทำหน้าที่ตลอด 1 ปี ในช่วงเวลาดังกล่าว

ช่วงที่สี่ 30 วัน จะเป็นช่วงเก็บงานทั้งหมด เพื่อมานำเสนอและทำข้อสอบ 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ