ข่าว

บอร์ด สปสช. เดินหน้าโอนงบกองทุน "บัตรทอง" ปี 2566 เคาะ 4 ข้อดูแลปชช.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บอร์ด สปสช. เดินหน้าโอนงบกองทุน "บัตรทอง" ปี 2566 เคาะ 4 ข้อ ดูแลประชาชน พร้อมมีมติชะลอจัดสรรงบสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันHIV ดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง และกองทุน อปท.ของผู้ไม่ใช่สิทธิบัตรทอง

จากการประชุมบอร์ดสปสช.ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการปรับประกาศ สปสช. เรื่อง หลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2566 หรือการโอนงบ "บัตรทอง"

 

 

โดยนพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ระบุว่ากรณีประกาศฉบับดังกล่าวนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีความเห็นต่างในประเด็นทางกฎหมายว่า งบประมาณในส่วนของการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค

ครอบคลุมคนไทยทุกคนหรือเฉพาะผู้มีสิทธิ "บัตรทอง" ทำให้มีข้อทักท้วงทางกฎหมายในประเด็นงบประมาณสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ที่ครอบคลุมเฉพาะผู้มีสิทธิบัตรทองเท่านั้น ไม่ใช่คนไทยทุกคนทุกสิทธิ  ดังนั้นจึงต้องทำให้เรื่องนี้มีความชัดเจนทางกฎหมายก่อน ส่งผลให้ร่างประกาศหลักเกณฑ์ดังกล่าวยังไม่สามารถลงนามและประกาศใช้ได้ สปสช.จึงไม่สามารถโอนเงินงบประมาณปี 2566 จาก กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้แก่หน่วยบริการทั่วประเทศ
 

อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการรับบริการของประชาชน ในการประชุมบอร์ด สปสช. ล่าสุด จึงให้แยกการจ่ายเงินชดเชยบริการประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในให้แก่หน่วยบริการก่อน ส่วนงบประมาณสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ยังคงชะลอการจ่ายเงินออกไป เฉพาะในส่วนของประชากรที่ไม่ใช่สิทธิ  "บัตรทอง" วงเงิน 5,146.05 ล้านบาท โดยให้รอความชัดเจนทางกฎหมายตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ขอความเห็นไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อนหน้านี้

 

นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมบอร์ด สปสช. ได้มีการพิจารณาหารือในประเด็นปัญหาทางข้อกฎหมายที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้าน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อหน่วยบริการและประชาชน โดยสรุปที่ประชุมมีมติ 4 ข้อ ดังนี้ 

 

1.คณะกรรมการ สปสช. ทุกคน มุ่งหวังให้ประชาชนทุกคนทุกสิทธิ สามารถได้รับบริการสุขภาพที่จำเป็น โดยไม่มีอุปสรรคทางการเงิน และทุกฝ่ายจะดำเนินการร่วมกันให้บรรลุเป้าหมายนั้น โดยไม่ขัดกับกฎหมาย 

 

2.บอร์ด สปสช. เห็นด้วยที่มีการทำความชัดเจนในประเด็นข้อกฎหมายที่กองทุนหลักประกันสุขภาพฯ ครอบคลุมประชากรในส่วนใดบ้าง ตามมาตรา 5, 9, 10 และ 66 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2545 โดยปรึกษาคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตามที่ สธ. ได้ดำเนินการ

 

3.เห็นชอบประกาศหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2566 โดยชะลอการจัดสรรงบประมาณสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (PP) งบป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี (PP-HIV) งบประมาณระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง (Long Term Care: LTC) และกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (อปท.) เฉพาะส่วนของผู้ที่ไม่ได้ใช้สิทธิบัตรทอง (Non-UC) วงเงิน 5,146.05 ล้านบาท 

 

ทั้งนี้ สธ.จะจัดบริการให้ครอบคลุมทุกคนในส่วนที่ สธ.รับผิดชอบ และ สปสช.จะดำเนินการให้หน่วยบริการอื่นๆ นอก สธ. ดำเนินการเช่นเดียวกันโดยไม่ให้มีช่องว่าง 

 

4.รับรองมติที่ประชุมเพื่อดำเนินการได้ทันที

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ