ข่าว

"23 จว." ยังถูก "น้ำท่วมขัง" "ปภ." เร่งประสานช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ปภ." รายงานสถานการณ์น้ำท่วม ที่พบว่า มีทั้งหมด 23 จังหวัด ประสานจังหวัดเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง แบ่งเป็นน้ำเอ่อล้นตลิ่งใน 19 จังหวัด รวม 3,570 หมู่บ้าน ส่วนน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก มีพื้นที่ประสบภัย 4 จังหวัด รวม 545 หมู่บ้าน

8 ต.ค.65 เวลา 09.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. รายงานผลกระทบจากฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมาทำให้ยังมีพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง รวม 23 จังหวัด โดยมีสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งใน 19 จังหวัด รวม 101 อำเภอ 561 ตำบล 3,570 หมู่บ้าน แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่

 

ด้านสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก มีพื้นที่ประสบภัย 4 จังหวัด รวม 14 อำเภอ 93 ตำบล 545 หมู่บ้าน

 

โดย ปภ. ได้ประสานจังหวัดดูแลผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องและระดมกำลังเร่งระบายน้ำอย่างเต็มกำลัง

 

"23 จว."  ยังถูก "น้ำท่วมขัง" "ปภ." เร่งประสานช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานผลกระทบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย รวมถึง "พายุโนรู"  ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรงในหลายพื้นที่ในช่วงที่ผ่าน ประกอบการการระบายน้ำจากเขื่อนลงแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังเป็นวงกว้างหลายพื้นที่

 

โดยช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 8 ต.ค. 65 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่รวม 50 จังหวัด รวม 311 อำเภอ 1,511 ตำบล 9,273 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 239,348 ครัวเรือน

 

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 23 จังหวัด ได้แก่ ตาก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง  พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม นครนายก ปราจีนบุรี พิจิตร เลย ลพบุรี และนครศรีธรรมราช รวม 115 อำเภอ 654 ตำบล 4,115 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 136,871 ครัวเรือน ดังนี้

 

"23 จว."  ยังถูก "น้ำท่วมขัง" "ปภ." เร่งประสานช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย
 

- น้ำล้นตลิ่ง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวม 19 จังหวัด ได้แก่ ตาก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทองพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม นครนายก และ ปราจีนบุรี รวม 101 อำเภอ 561 ตำบล 3,570 หมู่บ้าน

 

  • แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ ได้แก่

1. ตาก น้ำท่วมในพื้นที่3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวามเงา อำเภอบ้านตาก และอำเภอเมืองตากรวม 5 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ1,897 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

2. เพชรบูรณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเชียรบุรี อำเภอบึงสามพัน อำเภอหนองไผ่ อำเภอหล่มสัก อำเภอศรีเทพ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ อำเภอวังโป่ง และอำเภอน้ำหนาว รวม 79 ตำบล 623 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20,020 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

3.นครสวรรค์ น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพยุหะคีรี อำเภอท่าตะโก อำเภอโกรกพระ อำเภอตาคลี อำเภอชุมแสง รวม 36 ตำบล 328 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,699 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

4. ชัยภูมิ น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอบ้านเขว้า อำเภอเนินสง่า อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอบําเหน็จณรงค์ อำเภอจัตุรัส และอำเภอภูเขียว รวม 11 ตำบล 44 หมู่บ้าน อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย

5.ขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอชนบท อำเภอน้ำพอง และอำเภอโคกโพธิ์ชัย รวม 11 ตำบล 46 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 120 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

6. มหาสารคาม น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองมหาสารคาม อำเภอกันทรวิชัย อำเภอโกสุมพิสัย และอำเภอเชียงยืน รวม 41 ตำบล 451 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,045 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

7.นครราชสีมา น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอลำทะเมนชัย อำเภอสูงเนิน และอำเภอชุมพวง รวม 11 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,195 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

8. บุรีรัมย์ น้ำท่วมในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านด่าน อำเภอพุทไธสง อำเภอสตึก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอนางรอง อำเภอปะคำ อำเภอขำนิ อำเภอบ้านกรวด อำเภอกระสัง อำเภอคูเมือง อำเภอลำปลายมาศ อำเภอแดนดง และอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ รวม 53 ตำบล  242 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 578 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

9. สุรินทร์ น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชุมพลบุรี อำเภอท่าตูม และ อำเภอรัตนบุรี รวม 25 ตำบล 227 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,855 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

10.ศรีสะเกษ น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอห้วยทับทัน อำเภอยางชุมน้อย อำเภอวังหิน อำเภอภูสิงห์ อำเภอน้ำเกลี้ยง และอำเภออุทุมพรพิสัย รวม 16 ตำบล 46 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,301 ครัวเรือน  มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และอพยพประชาชน 528 ครัวเรือน  2,152 คน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 23 จุด ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

11. อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ อำเภอสว่างวีระวงศ์ อำเภอเดชอุดม อำเภอดอนมดแดง อำเภอสำโรง อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอเขื่องใน และอำเภอตระการพืชผล รวม 28 ตำบล 135 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,373 ครัวเรือน อพยพประชาชน 135 ชุมชน 16,7056 คน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 90 จุด ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

12. ชัยนาท น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ อำเภอมโนรมย์ อำเภอหันคา อำเภอสรรพยา และอำเภอหนองมะโมง รวม 28 ตำบล 128 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,497 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

13. สิงห์บุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอพรหมบุรี รวม 9 ตำบล 23หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,620 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

14. อ่างทอง น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก อำเภอไชโย และอำเภอเมืองอ่างทอง รวม 24 ตำบล 102 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,238 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

15. พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน และอำเภอพระนครศรีอยุธยา รวม 90 ตำบล 574 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 31,802 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

16. ปทุมธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 64 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,926 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

17. นครปฐม น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนครชัยศรี อำเภอบางเลน อำเภอสามพราน อำเภอเมืองนครปฐม  อำเภอกำแพงแสน อำเภอดอนตูม อำเภอพุทธมณฑล รวม 37 ตำบล 224 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,976 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง

18.นครนายก น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครนายก อำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา และอำเภอองครักษ์ รวม 19 ตำบล 154 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,8157 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง 

19.ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอเมืองปราจีนบุรี และอำเภอประจันตคาม รวม 17 ตำบล 103 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,363 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

 

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก มีพื้นที่ประสบภัย 4 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร เลย ลพบุรี และนครศรีธรรมราช รวม 14 อำเภอ 93 ตำบล 545 หมู่บ้าน ได้แก่

20.พิจิตร น้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามง่าม อำเภอวชิรบารมี อำเภอทับคล้อ อำเภอบึงนาราง อำเภอบางมูลนาก อำเภอเมืองพิจิตร อำเภอตะพานหิน อำเภอโพทะเล และอำเภอโพธิ์ประทับช้าง รวม 56 ตำบล 330 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,416 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

21. เลย น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองเลย รวม 2 ตำบล 7 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 127 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

22. ลพบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอชัยบาดาล อำเภอบ้านหมี่ รวม 34 หมู่บ้าน 207 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,656 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

23. นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ตำบลบ้านนิคม อำเภอบางขัน 1 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

สำหรับการให้ความช่วยเหลือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ที่ประสบภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป 

 

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ "ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784" 

 

โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน "THAI DISASTER ALERT"

 

"23 จว."  ยังถูก "น้ำท่วมขัง" "ปภ." เร่งประสานช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย "23 จว."  ยังถูก "น้ำท่วมขัง" "ปภ." เร่งประสานช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย "23 จว."  ยังถูก "น้ำท่วมขัง" "ปภ." เร่งประสานช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
เพิ่มเพื่อน Line: https://lin.ee/qw9UHd2
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ