13 ปี มูลนิธิทันตนวัตกรรมฯ เน้นภารกิจการสร้างองค์กรแห่งการพัฒนานวัตกรรมจากฝีมือนักวิจัยไทย เพื่อแก้ปัญหาโรคทางด้านทันตกรรมแบบครบครันทั้งกระบวนการวิจัยและพัฒนา การผลิตตามมาตรฐานสากล และสร้างโอกาสให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ ตามพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ 9
มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2552 ภายหลัง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้ง โดยมี"นายวรวุฒิ กุลแก้ว" พนักงานคนที่หนึ่งที่ทำงานมา 13 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการมูลนิธิฯ ยังเดินหน้ากับภารกิจสนับสนุนให้นักวิจัยไทย ทำการพัฒนานวัตกรรมทางด้านทันตกรรมและนำไปใช้ประโยชน์กับภาคประชาชนแบบครบวงจร
นายวรวุฒิ กุลแก้ว เลขาธิการมูลนิธิฯ กล่าวว่า ภารกิจของมูลนิธิฯ นั้น มี 3 เรื่องหลัก ๆ ประการแรก มีหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการของหน่วยทันตกรรมพระราชทานทั้ง 8 แห่ง คือ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ในฐานะเป็นองค์กรสาธารณกุศลทำหน้าที่ดูแลด้านการออกให้บริการหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่แก่ประชาชน ตามพระราชดำริของ ในหลวงรัชกาลที่ 9
ประการที่สอง มูลนิธิฯ มีหน้าที่ในการวิจัยและพัฒนาเพื่อผลิตนวัตกรรมต่าง ๆ ออกมาแก้ปัญหาโรคทันตกรรม ทั้ง 7 โรค คือฟันผุ รากฟันผุ สูญเสียฟัน ปริทันต์ ฟันสึก ปากแห้งน้ำลายน้อย มะเร็งช่องปาก และโรค NCDs ( non-communicable diseases) หรือโรคทางระบบ คือโรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรัง แต่โรคทางทันตกรรมอาจส่งผลให้โรคทางระบบรุนแรงขึ้น หรือโรคทางระบบอาจย้อนกลับมาทำให้โรคทางทันตกรรมมีปัญหาได้
ประการที่สาม คือ สร้างโอกาสให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการผลงานวิจัยและพัฒนา โดยทำให้สามารถผลิตขึ้นได้ในประเทศ หรือต้องสร้างเครือข่ายพันธมิตรไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชนในประเทศ เนื่องจากผลิตภัณฑ์บางอย่าง ไม่จำเป็นต้องสร้างโรงงานใหม่เองทั้งหมด
ในขณะเดียวกัน โจทย์ในการวิจัยและพัฒนาของมูลนิธิฯ มีอีก 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
1. ต้องเริ่มจากโจทย์หรือเป็นปัญหาสังคม
2. จะต้องช่วยลดความเหลื่อมล้ำ
3.คือต้องสร้างความสามารถในการแข่งขันได้ด้วย
เพราะฉะนั้นนอกจากสามารถผลิตนวัตกรรมจากงานวิจัยในประเทศและบริการในประเทศได้แล้วยังต้องสามารถส่งออกต่างประเทศได้ด้วย
เลขาธิการมูลนิธิฯ เล่าถึงความเป็นมาก่อนที่จะมาทำหน้าที่อยู่ตรงนี้ว่า เรียนจบวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือเมื่อปี 2536 หลังจากนั้นก็ทำงานที่บริษัทปูนซีเมนต์ไทย กลุ่มปิโตรเคมีที่ระยองจนถึงปี 2547 จึงย้ายกลับมาทำงานที่สำนักงานใหญ่บางซื่อเพื่อดูแลคุณแม่ ระหว่างนั้นไปศึกษาต่อปริญญาโทที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า มีโอกาสได้รู้จักกับ ผศ.ทพ.วิจิตร เทพธรานนท์ หนึ่งในทีมทันตแพทย์ประจำพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งกำลังทำงานด้านรากเทียม จึงมีโอกาสเข้ามาช่วยเรื่องการตั้งโรงงานผลิตรากฟันเทียม และเมื่อมีการก่อตั้งมูลนิธิฯ ขึ้นมา ศาสตราจารย์พิเศษ ทันตแพทย์หญิง ท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช ทันตแพทย์ประจำพระองค์และประธานมูลนิธิฯ จึงชวนให้มาทำงานในตำแหน่งเลขาธิการของมูลนิธิฯ
ส่วนการวางแผนองค์กรนั้น ทุกอย่างได้รับการออกแบบมาเพื่อประโยชน์ใช้สอยให้ตรงกับวัตถุประสงค์และภารกิจของมูลนิธิ ฯ อย่างเช่น ที่ทำการมูลนิธิฯ ในปัจจุบันเป็นทั้งสถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่มีห้องวิจัย (Laboratory) มีโรงงานผลิตสำหรับต่อยอดงานวิจัยที่พัฒนาได้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ แบบครบวงจร ที่ได้เริ่มสร้างเมื่อปี 2557 ปัจจุบันโรงงานผลิตอาหารมีทั้งระบบการฆ่าเชื้อแบบ UHT และ ระบบการฆ่าเชื้อแบบ Retort ซึ่งได้รับมาตรฐานกระบวนการผลิตระบบการจัดการความปลอดภัยในอาหาร ตามมาตรฐาน FSSC 22000 มาตรฐาน GHPs แล้ว และกำลังดำเนินการสร้างโรงงานผลิตเครื่องมือแพทย์ ให้เป็นไปตามาตรฐานสากลเช่นกัน
เลขาธิการมูลนิธิฯ กล่าวต่อว่าหัวใจของการทำงาน คือการสร้างทีมนักวิจัยและทีมผลิต ซึ่งถือว่าโชคดี เพราะในเรื่องของบุคลากรนั้น ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทุนอานันทมหิดล สาขาทันตแพทย์ศาสตร์เมื่อปี 2534 เป็นรุ่นแรก จนปัจจุบันนี้มีผู้ได้รับทุนประมาณ 26 คน เพราะฉะนั้นมูลนิธิฯ จึงมีนักวิจัยที่จะมาทำงานในการคิดค้นนวัตกรรมทางด้านทันตกรรมขึ้นมาได้เลย
มูลนิธิฯ ยังให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมการจัดการความรู้ คือ การรวบรวมองค์ความรู้อยู่เสมอ เพื่อสามารถนำไปถ่ายทอดให้ผู้ที่มารับช่วงต่อได้ทำงานได้อย่างเป็นระบบ ไม่ต้องยึดติดกับตัวบุคคล รวมทั้งยังมีการหาความรู้ใหม่ ๆ เสมอ เพื่อสามารถนำไปใช้ปรับแนวทางการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์โรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับภารกิจของมูลนิธิฯ ได้ที่
Website: www.dent-in-found.org
Facebook:https://www.facebook.com/dentalinnovation40
YouTube:https://www.youtube.com/channel/UCWWuHSnPKN6UmXHK7J6FDQw
โทรศัพท์ 062-549-8146, 02-3182351-5 ต่อ 1403,1416
ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
เพิ่มเพื่อน Line: https://lin.ee/qw9UHd2
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/
เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8 สาขา Popular Vote ได้ที่นี่
(https://awards.komchadluek.net/#)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง