คอลัมนิสต์

จีนรุกซื้อมหาวิทยาลัยไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จีนรุกซื้อมหาวิทยาลัยไทย บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2562

 

 

          มีกระแสข่าวตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปี 2561 ว่าทุนจากประเทศจีนกำลังรุกคืบเข้าซื้อกิจการ หรือร่วมทุนกับมหาวิทยาลัยเอกชนหลายแห่งในประเทศไทย หลังจากที่กลุ่มทุนจีนได้เข้ามาซื้อกิจการมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทำให้เป็นที่เฝ้ามองกันมาหลายเดือนติดต่อกันว่าจะมีอีกหลายมหาวิทยาลัยต้องเดินตามแนวนี้ด้วยเหตุที่ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยในประเทศไทยมีจำนวนมาก ขณะที่ตามสัดส่วนประชากรแล้วนักเรียนที่จะเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษากลับลดลงอย่างต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยหลายแห่งขาดสภาพคล่อง ขาดทุน ต้องพลิกกลยุทธ์ต่างๆ นานา เพื่อพยุงสถานะทางการเงินเอาไว้ เช่น หาความร่วมมือจากนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ให้บริการวิชาการ จัดโปรโมชั่น และงานวิจัยต่างๆ แต่ก็ไม่กระเตื้องขึ้น

 

อ่านข่าว.... จีน กางปีก ซื้อมหาวิทยาลัยเอกชน

 

 

          สำหรับสาเหตุที่ทุนจากประเทศจีนสนใจเข้ามาลงทุนซื้อกิจการมหาวิทยาลัยในประเทศไทยนั้น มีข่าวแจ้งว่าเพราะประชากรจีนมีจำนวนมาก แต่มหาวิทยาลัยในประเทศไม่สามารถรองรับได้ ส่งผลให้นักศึกษาจีนเลือกเข้าเรียนมหาวิทยาลัยไทยมากขึ้น อีกทั้งยังพบว่ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นอีกในอนาคต บวกกับสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ซึ่งรัฐบาลจีนได้ประกาศเตือนนักศึกษาจีนที่จะไปเรียนสหรัฐให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น จึงเป็นอีกช่องทางให้นักศึกษาจีนหลั่งไหลเข้ามาเรียนในไทยกันอย่างต่อเนื่อง เท่ากับเป็นการต่อลมหายใจให้มหาวิทยาลัยของไทยที่กำลังเผชิญวิกฤติหายใจรวยริน ด้วยจำนวนนักศึกษาซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของมหาวิทยาลัย ลดลงอย่างฮวบฮาบจนเหลือระดับหลักร้อย


          ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สอดคล้องกับกระแสที่ว่ามหาวิทยาลัยในภาคอีสานมีนักศึกษาจากฝั่งลาวเข้ามาเรียนจำนวนมาก ด้วยเหตุผลเดียวกัน อย่างไรก็ตามการแข่งขันอย่างดุเดือดอันนำมาสู่การดิ้นรนด้วยวิถีทางต่างๆ เพื่อความอยู่รอดของมหาวิทยาลัยในไทย เป็นที่คาดหมายว่าทั้งมหาวิทยาลัยเอกชนและของรัฐจะต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดวิชาการอย่างรวดเร็ว ทั้งหลักสูตรและในเชิงธุรกิจ เช่นการควบรวม แต่กระนั้นถึงที่สุดแล้วมหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่มีอยู่จำนวนมากจนล้นความต้องการซึ่งขัดหลักอุปสงค์อุปทานอยู่แล้ว ก็ถึงคราวจะต้องทยอยปิดตัวลงในเวลาที่เหมาะสมของแต่ละแห่ง




          นอกจากความวิตกกังวลเรื่องมาตรฐานทางวิชาการ คุณภาพการเรียนการสอนในระบบการศึกษา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีแผนรับมือที่ทันการณ์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งต้องคำถึงถึงก็คือ ธุรกิจอันเกี่ยวเนื่องกับมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า หรือหอพักนักศึกษาที่เกิดขึ้นตามมามากมายในอัตราส่วนพอๆ กับมหาวิทยาลัยเกิดใหม่ ล้วนแต่ยืนอยู่ได้ด้วยทุนจากจีนแทบทั้งสิ้น ซึ่งถ้าหากต่างชาติจะเร่งต่อยอดธุรกิจด้านนี้ก็มีความเป็นไปได้ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นผู้ประกอบการชาวไทยก็จะได้รับผลกระทบอย่างยากจะหลีกเลี่ยง กรณีทุนจีนรุกคืบมหาวิทยาลัยของไทยนับเป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบต่อสังคมในวงกว้างและหลายมิติ
 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ